วิธีการบริหารธุรกิจ คุณรัส-ธัญย์ณภัคช์ เจ้าของ "KARUN" แบรนด์ชาไทยพรีเมียม | SHE.E.O โดย ลงทุนเกิร์ล
Business

วิธีการบริหารธุรกิจ คุณรัส-ธัญย์ณภัคช์ เจ้าของ "KARUN" แบรนด์ชาไทยพรีเมียม | SHE.E.O โดย ลงทุนเกิร์ล

31 ก.ค. 2024
วิธีการบริหารธุรกิจ คุณรัส-ธัญย์ณภัคช์ เจ้าของ "KARUN" แบรนด์ชาไทยพรีเมียม | SHE.E.O โดย ลงทุนเกิร์ล
KARUN แบรนด์ชาไทย ราคาแก้วละประมาณ 100 บาท ซึ่งเห็นราคาแบบนี้หลายคนจะบอกว่า แพง
แต่ถ้าลองมาดู ผลประกอบการย้อนหลัง บริษัท การัน เบฟเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด
ปี 2564 รายได้ 9.3 ล้านบาท กำไร -4.1 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้ 26.2 ล้านบาท กำไร -0.9 ล้านบาท
ปี 2566 รายได้ 100.7 ล้านบาท กำไร 9.2 ล้านบาท
เห็นตัวเลขเหล่านี้ หลาย ๆ คนคงสงสัยว่า คุณรัส-ธัญย์ณภัคช์ ศิริประภาเจริญ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ KARUN ทำได้อย่างไร ให้ลูกค้าอยากซื้อ แม้ราคาจะแพงกว่าคู่แข่ง หรือแพงกว่าราคาทั่วไปในตลาด ? ลงทุนเกิร์ลจะสรุปให้ฟัง
1.ศึกษาตลาดอย่างจริงจัง เพื่อดูว่ากลุ่มลูกค้าที่พร้อมจะซื้อสินค้าของเรา มีมากน้อยแค่ไหน
เท้าความก่อนว่า จุดเริ่มต้นของแบรนด์ KARUN มาจากคุณแม่ของคุณรัส ที่ได้ทำชาไทยในสูตรของคุณแม่เอง ซึ่งคัดสรรใบชาคุณภาพ เข้มข้น และพิถีพิถัน
เมื่อมีคนแวะเวียนมาที่บ้านและได้ดื่ม ก็ทำให้หลายคนติดใจขอซื้อชาไทยสูตรบ้านการันกัน จนคุณแม่ของคุณรัสเริ่มคิดว่า จะเปิดธุรกิจขายชาไทยอย่างจริงจัง
แต่ด้วยความกังวลหลาย ๆ อย่างของคุณรัส ทำให้คุณรัสต้องทำการบ้านอย่างจริงจัง เพราะถึงแม้จะมีของดีก็จริง แต่คนที่พร้อมจะซื้อสินค้าของเรา จะมีมากน้อยแค่ไหน
คุณรัสจึงใช้เวลาเกือบปีในการศึกษาตลาด เพื่อดูว่ามีช่องว่างให้แบรนด์สามารถลงไปเล่นได้มากขนาดไหน และถ้าหากตั้ง Position และราคาของแบรนด์ไว้เท่านี้ จะมีคนที่มีกำลังซื้อเพียงพอหรือไม่
และคุณรัสก็ได้คำตอบว่า การทำชาไทยคุณภาพระดับพรีเมียมที่พร้อมส่งออก ยังมีช่องว่างให้เป็นผู้เชี่ยวชาญอยู่
2.ทำให้แตกต่าง แต่ต้องทำอย่างเชี่ยวชาญ
เมื่อคุณรัสต้องการลุยตลาดชาไทยพรีเมียมอย่างจริงจัง จึงได้ไปเรียนเพิ่มเติมเกี่ยวกับสาขาฟูดไซน์ เพื่อลงลึกในเรื่องของใบชาต่าง ๆ เพื่อให้ KARUN เป็นแบรนด์ที่แตกต่างในตลาด ทั้งเรื่องใบชาและรสชาติ
และอีกสิ่งสำคัญที่ทำให้ KARUN แตกต่างจากแบรนด์อื่น ๆ ได้อย่างชัดเจนก็คือ “การรังสรรค์ให้ชาไทยเป็นทุกอย่างได้” และวางตัวเองเป็น “ผู้เชี่ยวชาญด้านชาไทย”
เช่น สร้างสรรค์เมนูไอศกรีมเจลาโตที่รวมกับยอดอ่อนของใบชา เมนูขนมหวานอย่างบะนอฟฟีชาไทย
และยังมีการทำเทียนหอมและ Bath Bomb กลิ่นชาไทย สำหรับคนที่เป็นแฟนกลิ่นหอมของชาไทยอีกด้วย
สรุปง่าย ๆ ก็คือ สิ่งที่ทำให้ KARUN แตกต่างก็เพราะว่า ที่ผ่านมาชาไทยคือของหาง่ายในตลาด มีเมนูนี้ในทุกร้าน แต่ยังไม่มีใครจริงจังและลงลึกให้ชาไทยกลายเป็นทุกอย่าง เหมือนกับที่ KARUN ทำได้นั่นเอง
3.หากกำหนดกลุ่มลูกค้าได้ถูกต้อง พวกเขาจะเป็นกระบอกเสียงให้เอง
คุณรัสมองว่า การทำธุรกิจไม่ได้มีแค่เรื่องของ “ราคา” แต่มีเรื่องของ “การตลาด” ด้วย ที่เป็นเรื่องสำคัญ
ลองสังเกตดูว่า กลุ่มคนที่ใช้โซเชียลมีเดีย คนที่ชอบแชร์ไลฟ์สไตล์การกินดื่ม ถ่ายรูปอาหาร เครื่องดื่มสวย ๆ ที่ดูน่าทาน ก็มักจะเป็นกลุ่มลูกค้าที่ชอบสินค้าพรีเมียม
ดังนั้นการจะทำให้แบรนด์ธรรมดานั้นมีความพรีเมียม วัตถุดิบทุกตัวจะต้องมีคุณภาพไม่เหมือนใคร แพ็กเกจจิง และการตกแต่งร้าน ต้องถูกคิดมาแล้วเป็นอย่างดี
เพื่อให้กลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียมพร้อมเป็นกระบอกเสียงให้แบรนด์ และกลุ่มลูกค้าอื่น ๆ ก็จะอยากตามมาทดลอง..
และในวันนี้คุณรัส ก็ไม่ได้หยุดอยู่แค่แบรนด์ชาไทยพรีเมียมอย่าง KARUN เพราะตอนนี้เครือการัน เบฟเวอเรจ ยังมีอีก 2 แบรนด์ในเครือ นั่นก็คือ
-เจริญสังขยา ขายขนมปังสังขยาสูตรของแม่
-Summer Bowl BKK ขายสมูททีโบวล์ และเครื่องดื่มสุขภาพ
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.