Business
กรณีศึกษา SMOOTO เมื่อ 2 เภสัชกรหญิงปั้นแบรนด์สกินแคร์ 670 ล้าน
14 ม.ค. 2022
SMOOTO x ลงทุนเกิร์ล
ถึงแม้ปัจจุบันใน 7-Eleven เราจะพบเห็นเครื่องสำอางแบบครีมซองเยอะมาก
แต่หนึ่งในแบรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง จะเป็นใครไม่ได้ นอกจาก SMOOTO
แต่หนึ่งในแบรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง จะเป็นใครไม่ได้ นอกจาก SMOOTO
รู้หรือไม่ว่า SMOOTO เป็นครีมซองแรก ที่วางขายใน 7-Eleven โดยจุดเริ่มต้นของแบรนด์นี้ก็มาจากไอเดียของผู้ก่อตั้ง 2 คน ซึ่งเป็นเภสัชกรหญิงทั้งคู่
8 ปีต่อมานับตั้งแต่วางขายครั้งแรก SMOOTO ก็เติบโตจนมีผลิตภัณฑ์มากมาย
และสร้างยอดขายในปี 2563 ได้กว่า 670 ล้านบาท
และสร้างยอดขายในปี 2563 ได้กว่า 670 ล้านบาท
แต่เส้นทางของ SMOOTO มาจนถึงวันนี้ ก็ไม่ได้ Smooth เหมือนกับชื่อ
เรื่องราวจะเป็นอย่างไรบ้าง ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
เรื่องราวจะเป็นอย่างไรบ้าง ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
เภสัชกรหญิงผู้ก่อตั้งของ SMOOTO ทั้ง 2 คน ได้แก่
คุณอัญชลี ชุติไพจิตร เป็นพนักงานประจำในโรงงานผลิตเครื่องสำอาง
และคุณนิษฐกานต์ ภัทรกานต์ เคยทำงานในโรงงานผลิตยา
โดยทั้งคู่เป็นเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยเดียวกัน
คุณอัญชลี ชุติไพจิตร เป็นพนักงานประจำในโรงงานผลิตเครื่องสำอาง
และคุณนิษฐกานต์ ภัทรกานต์ เคยทำงานในโรงงานผลิตยา
โดยทั้งคู่เป็นเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยเดียวกัน
พอทำงานในโรงงานมาได้สักพัก ผู้ก่อตั้งทั้ง 2 คน ก็ตั้งใจจะร่วมมือกันเปิดโรงงานรับจ้างผลิตเครื่องสำอาง (OEM) เพราะทั้งคู่มีความเชี่ยวชาญในด้านนี้
อย่างไรก็ตาม จุดเริ่มต้นกลับไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เพราะถึงทั้ง 2 คนจะเชี่ยวชาญในการทำงานฝ่ายผลิต
พอเริ่มต้น ก็พัฒนาสินค้าขึ้นมามากกว่า 300 รายการ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า แต่ก็ไม่มีประสบการณ์ในด้านการขายเลย ทำให้ประสบปัญหาขายไม่ได้ และขาดทุนในที่สุด
พอเริ่มต้น ก็พัฒนาสินค้าขึ้นมามากกว่า 300 รายการ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า แต่ก็ไม่มีประสบการณ์ในด้านการขายเลย ทำให้ประสบปัญหาขายไม่ได้ และขาดทุนในที่สุด
ทั้งคู่จึงตัดสินใจเปลี่ยนโมเดลธุรกิจ จากทำตามลูกค้า มาพัฒนาแบรนด์ของตัวเองแทน
และลองนำไปเสนอขายในร้านสะดวกซื้อ ซึ่งมีสาขาและฐานลูกค้ามากที่สุดก็คือ 7-Eleven
และลองนำไปเสนอขายในร้านสะดวกซื้อ ซึ่งมีสาขาและฐานลูกค้ามากที่สุดก็คือ 7-Eleven
โดยในช่วงแรกก็ยังพบกับปัญหา เนื่องจากตั้งราคาผลิตภัณฑ์สูงเกินไป ไม่เหมาะกับวางขายในร้านสะดวกซื้อ จึงนำมาสู่การเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ใหม่ ให้มีขนาดเล็ก เป็นรูปแบบ “ครีมซอง”
ซึ่งในเวลานั้นยังไม่มีเครื่องสำอางแบบซองวางขายใน 7-Eleven และยังไม่มีสินค้าที่มีดีไซน์แพ็กเกจจิงที่สวยงามเหมือนสินค้าจากญี่ปุ่น
โดย SMOOTO ได้ชูจุดขาย 2 ข้อ คือ
1. นวัตกรรมสูตรจากญี่ปุ่น
2. ความเป็นธรรมชาติของสารสกัดจากผักและผลไม้ โดยนำสารสกัดจากผักและผลไม้ใกล้ตัวมาพัฒนา ปรับปรุงสูตรให้มีมาตรฐาน มีประสิทธิภาพ และความปลอดภัย
1. นวัตกรรมสูตรจากญี่ปุ่น
2. ความเป็นธรรมชาติของสารสกัดจากผักและผลไม้ โดยนำสารสกัดจากผักและผลไม้ใกล้ตัวมาพัฒนา ปรับปรุงสูตรให้มีมาตรฐาน มีประสิทธิภาพ และความปลอดภัย
ที่สำคัญ เมื่อเป็นรูปแบบครีมซอง จึงสามารถปรับราคาขายลดลงได้ เหลือเพียงซองละ 20-29 บาท
ทำให้ได้รับเสียงตอบรับที่ดี มียอดขายเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ทำให้ได้รับเสียงตอบรับที่ดี มียอดขายเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
โดยสูตรแรกที่วางขาย ออกวางจำหน่ายในปี 2556 คือ “ซีรีส์มะเขือเทศ” ผลไม้ที่มีผลการวิจัยยืนยันประสิทธิภาพในการบำรุงผิว ผู้บริโภคเชื่อในผลลัพธ์ และหาง่ายในเมืองไทย เรียกได้ว่าเป็นการต่อยอดมูลค่าของสินค้าเกษตร
ซึ่งทางแบรนด์ ทำออกมาเป็นมาสก์มะเขือเทศเข้มข้น มีคุณสมบัติหลักในการช่วยปรับผิวให้ขาวกระจ่างใส สุขภาพดี แลดูมีเลือดฝาด ทำให้ได้รับความนิยมมาก
ในปีต่อมา จึงได้ออกผลิตภัณฑ์เพิ่มเติม ต่อยอดเป็นเซรั่มมะเขือเทศ
ผิวกระจ่างใส เป็นจุดเริ่มต้นของ “1 ซอง เทียบเท่ามะเขือเทศ 10 ลูก”
ผิวกระจ่างใส เป็นจุดเริ่มต้นของ “1 ซอง เทียบเท่ามะเขือเทศ 10 ลูก”
และในปีนี้ ทางแบรนด์ได้ปรับสูตร เป็นเซรั่มมะเขือเทศวิตซี ที่เพิ่มวิตามินซีไปอีก 10 เท่าจากสูตรเดิม เป็นสูตรใหม่ เร่งผิวใสไวกว่าเดิม
นอกจากนั้น ซีรีส์มะเขือเทศ ยังถูกต่อยอดมาเป็นครีมกันแดด BB&CC กันแดดมะเขือเทศ ปรับผิวเนียน
กันน้ำ กันเหงื่อ คุมมันยาวนาน และ SMOOTO เอง เป็นเจ้าแรก ๆ ที่ใช้นวัตกรรมเนื้อครีมแตกตัวเป็นน้ำ ซึ่งไม่ทำให้เกิดสิวเหมือนครีมกันแดดทั่วไป
กันน้ำ กันเหงื่อ คุมมันยาวนาน และ SMOOTO เอง เป็นเจ้าแรก ๆ ที่ใช้นวัตกรรมเนื้อครีมแตกตัวเป็นน้ำ ซึ่งไม่ทำให้เกิดสิวเหมือนครีมกันแดดทั่วไป
ต่อมาแบรนด์ ยังได้ออกผลิตภัณฑ์สูตร ซีรีส์เลมอน และวิตามินซี ที่เริ่มออกวางจำหน่ายในปี 2556 เช่นเดียวกัน มีคุณสมบัติในเรื่องช่วยลดเลือนรอยดำ ลดความมัน โดยเริ่มจาก เซรั่มเลมอนผิวใส ที่มีสารสกัดจากเลมอน ซึ่งต่อยอดมาเป็น PowerC ซีรีส์ที่อัดแน่นไปด้วยสารสกัดสูตรพรีเมียม ในปี 2562
และจากความสำเร็จของซีรีส์มะเขือเทศ และเลมอน
SMOOTO ก็ได้ออกซีรีส์ว่านหางจระเข้ในปี 2559 ที่เน้นสำหรับผิวบอบบาง เป็นสิว มีส่วนประกอบหลัก คือว่านหางจระเข้ และเมือกหอยทากที่ช่วยเติมน้ำให้ผิว
SMOOTO ก็ได้ออกซีรีส์ว่านหางจระเข้ในปี 2559 ที่เน้นสำหรับผิวบอบบาง เป็นสิว มีส่วนประกอบหลัก คือว่านหางจระเข้ และเมือกหอยทากที่ช่วยเติมน้ำให้ผิว
โดยมีเจลว่านหางจระเข้ เข้มข้น 99.5% เป็นสินค้าซองใหญ่ตัวแรกของแบรนด์ และประสบความสำเร็จอย่างมาก
ในปี 2562 จากครีมซองบำรุงผิว SMOOTO ก็ได้ต่อยอดมาสู่เครื่องสำอางแบบซอง ในชื่อ Unicorn เมคอัพแบบซองซีรีส์แรกของแบรนด์ และพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดคือ Blogger Perfect Lip ที่ออกร่วมกับบล็อกเกอร์ชื่อดัง เช่น SP Saypan, Amy Kitiya, Eyeta
จากความนิยมอย่างต่อเนื่องของสินค้าในแต่ละซีรีส์ ทำให้รายได้ของ SMOOTO
เติบโตอย่างก้าวกระโดด
ปี 2557 รายได้ 40,000,000 บาท
ปี 2560 รายได้ 417,000,000 บาท
ปี 2563 รายได้ 670,000,000 บาท
เติบโตอย่างก้าวกระโดด
ปี 2557 รายได้ 40,000,000 บาท
ปี 2560 รายได้ 417,000,000 บาท
ปี 2563 รายได้ 670,000,000 บาท
จากจุดเริ่มต้นจนถึงวันนี้ บนเส้นทาง 8 ปีของ SMOOTO
เภสัชกรหญิงทั้ง 2 คนก็ยังคงไม่หยุดที่จะพัฒนา เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และราคาเข้าถึงได้ สำหรับทุกสภาพผิว
เภสัชกรหญิงทั้ง 2 คนก็ยังคงไม่หยุดที่จะพัฒนา เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และราคาเข้าถึงได้ สำหรับทุกสภาพผิว