วิธีบริหารธุรกิจ Rihanna จากนักร้องตัวท็อป สู่แม่ค้าผู้ปฏิวัติวงการความงาม ให้ผู้หญิงทุกสีผิว | SHE.E.O โดย ลงทุนเกิร์ล
ท่ามกลางธุรกิจของคนดังมากมาย รู้หรือไม่ว่า Fenty Beauty ขึ้นแท่นแบรนด์ที่สร้างรายได้สูงที่สุด ในหมวดธุรกิจความงามที่มีเจ้าของเป็นเซเลบริตี

โดยแบรนด์ความงามของ Rihanna ทำรายได้ไปมากถึง 2 หมื่นล้านบาท ในปีที่ผ่านมา

หรือมากกว่ารายได้ของแบรนด์ Kylie Cosmetics จาก Kylie Jenner และ Rare Beauty ของ Selena Gomez รวมกันอีกด้วย

แต่การเป็นคนดังไม่ได้การันตีว่าจะทำธุรกิจแล้วประสบความสำเร็จเสมอไป..

แล้วอะไรที่ทำให้แบรนด์ความงามของ Rihanna อยู่ได้มาจนถึงทุกวันนี้ ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง

จุดเริ่มต้นที่ทำให้นักร้องระดับ Rihanna หันมาจับธุรกิจเครื่องสำอางก็ไม่มีอะไรซับซ้อน

เพราะมาจากความชอบในการแต่งหน้าซึ่งทำให้เห็นถึงปัญหาของเครื่องสำอางที่ผู้หญิงมักเจอในแต่ละวัน

เธอจึงตั้งใจพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่คิดว่าตอบโจทย์ความต้องการของผู้หญิงส่วนใหญ่ พร้อมแนวคิดที่อยากให้ผู้หญิงทุกคนรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์

โดย Fenty Beauty ได้รับการเปิดตัวครั้งแรกในปี 2017 ผ่านการร่วมทุนกับอาณาจักรแบรนด์หรู LVMH

ส่วนที่มาของชื่อก็มาจากนามสกุลของเธอ Robyn Rihanna Fenty ซึ่งแม้แต่แฟนเพลงที่ติดตามมานานก็แทบจะไม่รู้ที่มาของชื่อนี้ในตอนแรก

สำหรับจุดเด่นของสินค้า Fenty Beauty จะอยู่ที่เนื้อสัมผัส ซึ่งถูกพัฒนาออกมาให้มีความบางเบาเป็นพิเศษ

รวมถึงตัวเลือกผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ครอบคลุมความต้องการของผู้หญิงทุกสีผิว ด้วยรองพื้นที่มีมากถึง 55 เฉดสี

ซึ่งเป็นจุดยืนสำคัญที่ทำให้ Fenty Beauty เป็นที่พูดถึง เพราะหากย้อนกลับไปในปีเดียวกับที่แบรนด์วางขาย ต้องยอมรับว่ารองพื้นส่วนใหญ่ในตลาดมีเฉดสีที่ค่อนข้างจำกัด

การเกิดขึ้นของแบรนด์ Fenty Beauty จึงเปลี่ยนนิยามความงามในวงการเครื่องสำอาง จนเกิดคำว่า “Fenty Effect” ที่ส่งอิทธิพลให้แบรนด์อื่น ๆ หันมาทำผลิตภัณฑ์ความงามที่ครอบคลุมสำหรับผู้หญิงทุกสีผิวมากขึ้น

หลังเปิดตัวแบรนด์ได้เพียงปีเดียว Fenty Beauty ก็สามารถโกยรายได้ไปมากกว่า 1.8 หมื่นล้านบาท ซึ่งนับเป็นหนึ่งในแบรนด์ความงามจากเซเลบริตีที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่เปิดตัว

ก่อนจะตามมาด้วยแบรนด์อื่น ๆ เช่น

แบรนด์ชุดชั้นใน “Savage X Fenty”แบรนด์แฟชั่น “Fenty” (ปิดตัวลงในปี 2021)แบรนด์สกินแคร์ “Fenty Skin”แบรนด์ผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผม “Fenty Hair”

และอีกหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้แบรนด์ Fenty Beauty มีเอกลักษณ์ สะท้อนความเป็น Rihanna ออกมา นั่นก็เพราะเธอมีส่วนร่วมในการสร้างแบรนด์ทุกขั้นตอน ตั้งแต่รายละเอียดของแต่ละผลิตภัณฑ์ ไปจนถึงแพ็กเกจจิง

นอกจากนี้ยังเห็นว่าแบรนด์มักจะอยู่ในกระแสตลอด จากการนำเสนอคอนเทนต์ใหม่ ๆ ผ่านโซเชียลมีเดียของแบรนด์อยู่เสมอ

และที่สร้างอิมแพกต์ให้กับแบรนด์ได้ประสบความสำเร็จสุด ๆ คงหนีไม่พ้นการโฆษณาสินค้าแบบตะโกน บนเวที Super Bowl LVII Halftime Show ที่มีผู้ชมพร้อมกันทางทีวีมากถึง 121 ล้านคน

โดยในระหว่างการแสดงที่ทุกคนกำลังจับจ้อง Rihanna ได้หยิบตลับแป้ง Fenty Beauty มาซับหน้าโชว์บนเวที

ส่งผลให้แบรนด์ ​Fenty Beauty มีมูลค่าทางสื่อสูงถึง 191 ล้านบาท ตั้งแต่ 12 ชั่วโมงแรกหลังจบการแสดง และมียอดการค้นหาใน Google เพิ่มขึ้นอีกกว่า 883%

อ่านมาถึงตรงนี้คงเห็นแล้วว่าคอนเซปต์ที่ดีอย่างเดียวอาจไม่พอที่จะทำให้แบรนด์ประสบความสำเร็จมาได้ขนาดนี้

แต่ต้องมาพร้อมคุณภาพที่สะท้อนให้เห็นความตั้งใจของคนทำแบรนด์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญที่จะทำให้แบรนด์ยั่งยืน..

References:
-https://www.lvmh.com/our-maisons/perfumes-cosmetics/fenty-beauty-by-rihanna
-https://www.forbes.com/sites/maddieberg/2021/08/04/fentys-fortune-rihanna-is-now-officially-a-billionaire/
-https://wwd.com/fashion-news/fashion-scoops/rihanna-fashion-beauty-empire-fenty-1203679052/
-https://www.statista.com/statistics/1372858/leading-celebrity-beauty-brands-worldwide-by-revenue/
-https://time.com/5026366/rihanna-fenty-beauty-best-inventions-2017/
-https://www.forbes.com.au/news/billionaires/super-bowl-halftime-show-rihanna-earns-5-6-million-from-makeup-touchup/