<อัปเดต> EssilorLuxottica เข้าซื้อกิจการ Supreme 54,000 ล้านบาท
Business

<อัปเดต> EssilorLuxottica เข้าซื้อกิจการ Supreme 54,000 ล้านบาท

17 ก.ค. 2024
<อัปเดต> EssilorLuxottica เข้าซื้อกิจการ Supreme 54,000 ล้านบาท
-เจ้าของแบรนด์แว่นตา Ray-Ban, Oakley และสิทธิในการผลิตแว่นให้แบรนด์ดัง เช่น Chanel, Tiffany & Co., Prada มีเจ้าของเดียวกันชื่อว่า EssilorLuxottica
บริษัทแห่งนี้ เป็นบริษัทแว่นใหญ่สุดในโลก และเป็นหนึ่งในบริษัทมูลค่าท็อป ๆ ในยุโรป เป็นกิจการสัญชาติอิตาลี ฝรั่งเศส มีมูลค่าราว 3,700,000 ล้านบาท ได้รายงานว่าจะเข้าซื้อเจ้าของแบรนด์ Supreme จากบริษัท VF Corporation มูลค่า 54,000 ล้านบาท
และได้ให้เหตุผลว่าการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ ก็เพื่อขยายธุรกิจและกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ให้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาด้านนวัตกรรมของบริษัท
ที่น่าสนใจในครั้งนี้ EssilorLuxottica ได้ซื้อกิจการ Supreme ต่อจาก VF Corporation บริษัทแม่ของแบรนด์ Vans, The North Face และ Timberland ที่เคยเข้าซื้อกิจการ Supreme ทั้งบริษัท ในช่วงปลายปี 2020 ด้วยมูลค่าสูงถึง 75,000 ล้านบาท
สรุปง่าย ๆ คือ EssilorLuxottica ได้ Supreme มาในราคาที่ถูกกว่า VF Corporation ราว 1 ใน 3..
แล้ว Supreme คือใคร ?
-Supreme คืออีกหนึ่งแบรนด์สตรีตแวร์ชื่อดัง ที่มีสินค้ายอดฮิตเช่น เสื้อยืด, เสื้อฮูดดี และเครื่องประดับ
รวมถึงสร้างความฮือฮาอยู่บ่อยครั้ง ด้วยการปล่อยผลงานคอลแลบอเรชัน ร่วมกับแบรนด์ดัง เช่น Nike, Comme des Garçons, Louis Vuitton และ Tiffany & Co.
อย่างไรก็ตามในช่วงปีที่ผ่านมา กลับเป็นหนังคนละม้วน เมื่อ Supreme ดูเหมือนจะสิ้นความขลังแล้วในโลกแฟชั่น
เนื่องจากเทรนด์แฟชั่นที่เปลี่ยนแปลงไป ผู้คนเลิกนิยมเสื้อฮูด เสื้อกันหนาว และสนีกเกอร์ที่มีโลโกแบรนด์โดดเด่น
แต่หันมาสนใจสไตล์ที่เน้นความเรียบและคลาสสิก ซึ่งตรงข้ามกับภาพลักษณ์ของ Supreme
นอกจากนี้แฟน ๆ Supreme ต่างเริ่มเบื่อหน่ายกับผลงานคอลแลบอเรชันของแบรนด์ และการต้องต่อคิวยาวเหยียดซื้อสินค้าจากหน้าร้าน ทำให้ลูกค้าเริ่มหันไปมองแบรนด์อื่นกันมากขึ้น
จนแบรนด์ถูกล้อเลียนบนโลกออนไลน์อยู่บ่อยครั้งว่า Supreme is Dead
แต่ถ้าจะให้เห็นภาพมากขึ้นว่า Supreme กำลังเผชิญกับความท้าทายจริงไหม ต้องมาดูผลประกอบการในปีล่าสุด
รายได้ปี 2023 (สิ้นสุดเดือนมีนาคม) 18,700 ล้านบาท
ซึ่งลดลงจากปีก่อนหน้าที่มีรายได้ 20,100 ล้านบาท
ขณะที่กำไร ก็ลดลงเช่นเดียวกัน
จึงเป็นที่น่าติดตามต่อไปว่า EssilorLuxottica จะแก้เกมอย่างไรต่อไป และจะสามารถคืนชีพ Supreme ได้หรือไม่
แต่ก็ดูเหมือนตลาดจะไม่ค่อยชอบการเข้าซื้อในครั้งนี้เท่าไร
เพราะภายหลังจากที่ EssilorLuxottica รายงานว่าจะซื้อ Supreme
หุ้นของบริษัท ก็ปรับตัวลดลงมา 4%
คิดเป็นมูลค่า ที่หายไป 140,000 ล้านบาท ทันที
ในขณะที่คนขาย VF สองวันรวมกัน มูลค่าเพิ่มขึ้น 12%..
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.