Business
กรณีศึกษา Moncler ขายเสื้อกันหนาวอย่างไร ให้ธุรกิจมีมูลค่า 650,000 ล้านบาท
29 พ.ค. 2023
กรณีศึกษา Moncler ขายเสื้อกันหนาวอย่างไร ให้ธุรกิจมีมูลค่า 650,000 ล้านบาท /โดย ลงทุนเกิร์ล
ถ้าถามว่าเสื้อกันหนาวแบรนด์ไหนฮอตที่สุด ในนาทีนี้
คงต้องยกให้กับแบรนด์ที่ชื่อว่า “Moncler”
คงต้องยกให้กับแบรนด์ที่ชื่อว่า “Moncler”
เพราะ The Lyst Index เซิร์ชเอนจินแฟชั่นระดับโลก ที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 200 ล้านคนต่อปี ได้ประกาศให้ Moncler อยู่ในรายชื่อแบรนด์แฟชั่นที่ร้อนแรงที่สุดในโลก
โดย Moncler ครองอันดับ 3 ติดต่อกัน 2 ไตรมาส
ทั้งไตรมาสที่ 4 ปี 2022 และไตรมาสที่ 1 ปี 2023
ทั้งไตรมาสที่ 4 ปี 2022 และไตรมาสที่ 1 ปี 2023
แต่รู้หรือไม่ว่า กว่า Moncler จะกลายเป็นแบรนด์หรูสุดฮอตอย่างทุกวันนี้
Moncler เกือบจะสิ้นชื่อ จากวิกฤติใกล้ล้มละลายมาก่อน
Moncler เกือบจะสิ้นชื่อ จากวิกฤติใกล้ล้มละลายมาก่อน
เรื่องราวครั้งนั้นเป็นอย่างไร ?
แล้ว Moncler ใช้กลยุทธ์อะไร กู้ความนิยมให้กลับมาได้ ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
แล้ว Moncler ใช้กลยุทธ์อะไร กู้ความนิยมให้กลับมาได้ ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Moncler มีชื่อว่าคุณ René Ramillon และคุณ Andrè Vincent
โดยมีต้นกำเนิดที่ Monestier-de-Clermont ชุมชนในประเทศฝรั่งเศส เมื่อปี 1952 หรือราว 71 ปีที่แล้ว
โดยมีต้นกำเนิดที่ Monestier-de-Clermont ชุมชนในประเทศฝรั่งเศส เมื่อปี 1952 หรือราว 71 ปีที่แล้ว
ตอนแรก Moncler ผลิตถุงนอน เต็นท์ และเสื้อคลุม สำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง
ก่อนที่จะหันมาแตกไลน์ผลิตเสื้อแจ็กเกตกันหนาว ที่ทนทานต่อสภาพอากาศหนาวได้ดี
ก่อนที่จะหันมาแตกไลน์ผลิตเสื้อแจ็กเกตกันหนาว ที่ทนทานต่อสภาพอากาศหนาวได้ดี
โดยผลงานสร้างชื่อของ Moncler คือ การผลิตเสื้อแจ็กเกตขนเป็ด ให้คณะสำรวจชาวอิตาลี เพื่อภารกิจพิชิตยอดเขา K2 ที่ประเทศปากีสถาน ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากยอดเขาเอเวอเรสต์ ได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
อีกทั้ง ในปี 1968 Moncler ยังได้รับความไว้วางใจให้ผลิตเสื้อกีฬากันหนาว เพื่อการแข่งขันสกีโอลิมปิก สำหรับนักกีฬาฝรั่งเศส
เรื่องนี้จึงผลักดันให้ชื่อเสียงของ Moncler กลายเป็นที่ยอมรับ และเป็นที่รู้จักในระดับสากล
แม้เรื่องราวจะดูเหมือนโรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่ความจริงไม่ใช่เช่นนั้น..
เพราะหลังจากเข้าสู่ยุค 1990 ชื่อเสียงของ Moncler กลับไม่ได้เป็นที่พูดถึงมากเหมือนแต่ก่อน สืบเนื่องจากแบรนด์ยังคงยึดติดอยู่กับความสำเร็จเดิม ๆ
ทั้งตัวสินค้าที่ไม่ค่อยเปลี่ยนแปลง แม้เทรนด์ตลาดจะเปลี่ยนไป รวมถึง Moncler ยังคงโฟกัสอยู่แค่บรรดาลูกค้ากลุ่มเดิม ๆ อย่างนักปีนเขา และนักกีฬา
บวกกับคู่แข่งในสนามธุรกิจที่มากขึ้น เช่น Canada Goose และ The North Face ซึ่งกำลังเข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาดไปเรื่อย ๆ
เรื่องทั้งหมดนี้ จึงส่งผลให้ Moncler ต้องเผชิญวิกฤติ ทำยอดขายได้ไม่ดีเท่าที่ควร และปัญหาเรื้อรังนี้เริ่มสะสมมาเรื่อย ๆ จนทำให้แบรนด์เกือบเข้าขั้นล้มละลาย
อย่างไรก็ตาม ในปี 2003 Moncler ก็ได้คุณ Remo Ruffini นักธุรกิจชาวอิตาลี เข้ามากอบกู้และพลิกโฉมธุรกิจ โดยเขาตัดสินใจเข้าซื้อกิจการของ Moncler พร้อมกับนั่งแท่น CEO บริหารแบรนด์ด้วยตนเอง จนถึงปัจจุบัน
ที่น่าสนใจคือ เขาคนนี้ยังได้พา Moncler เติบโตจนมีชื่อเสียงในวงการแฟชั่นระดับโลก และสามารถจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์อิตาลี ได้สำเร็จในปี 2013 อีกด้วย
แล้วคุณ Ruffini ใช้กลยุทธ์อะไร ในการกู้ความนิยมให้กับ Moncler ?
คำตอบคือ คุณ Ruffini ใช้กลยุทธ์ขยายตลาด Moncler ไปทั่วโลกใน “กลุ่มสินค้าหรูหรา”
เริ่มจากปรับงานดิไซน์ของ Moncler ใหม่ให้ทันสมัยขึ้น และออกจากกรอบเดิม ๆ เช่น การออกแจ็กเกตสีสันฉูดฉาดอย่าง สีแดงและสีน้ำเงิน
และมีกิมมิกเพิ่มเงาสะท้อนให้กับเสื้อแจ็กเกต จนกลายมาเป็นซิกเนเชอร์ให้กับแบรนด์ในเวลาต่อมา
รวมถึงมีลูกเล่นที่แปลกใหม่ เช่น ออกแบบเสื้อแจ็กเกตให้สามารถสวมใส่ได้ทั้งสองด้าน
หรือการเปลี่ยนจากซิปมาเป็นกระดุมสวนทางกับกระแสนิยม เพื่อสร้างจุดเด่นเป็นของตัวเอง
หรือการเปลี่ยนจากซิปมาเป็นกระดุมสวนทางกับกระแสนิยม เพื่อสร้างจุดเด่นเป็นของตัวเอง
มากไปกว่านั้น แบรนด์ยังพัฒนาคุณภาพและกรรมวิธีการผลิต โดยเสื้อแจ็กเกตของ Moncler จะถูกบุด้วยขนห่านคุณภาพสูงจากฝรั่งเศส โดยเลือกใช้เฉพาะขนส่วนหน้าอก
เพราะขนส่วนนี้มีลักษณะนุ่มเบา และไม่มีก้านแข็งเหมือนกับขนบริเวณอื่น สามารถกันลมได้เป็นอย่างดี ทำให้ใส่แล้วรู้สึกอุ่นสบาย และไม่หนักเหมือนเสื้อกันหนาวทั่วไป
ที่สำคัญยังมีความทนทาน และมีอายุการใช้งานนานกว่าการใช้วัสดุสังเคราะห์อื่น ๆ
สำหรับราคาเสื้อแจ็กเกตของ Moncler ก็มีราคาเริ่มต้นที่หลักหมื่นบาท โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือ คนรุ่นใหม่ที่มีกำลังซื้อ
เรียกได้ว่า เป็นการรีแบรนด์ Moncler ให้กลายเป็นแบรนด์เสื้อกันหนาวหรู ที่ทั้งทันสมัย และมีคุณภาพสมราคาและอายุการใช้งาน
นอกจากนี้ อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่คุณ Ruffini ใช้กู้ความนิยมให้กับ Moncler ก็คือ “Moncler Genius”
หรือการที่แบรนด์ได้ไปจับมือกับดิไซเนอร์ และคนดังมากมาย เพื่อออกแบบคอลเลกชันพิเศษ เป็นรายเดือน
หรือการที่แบรนด์ได้ไปจับมือกับดิไซเนอร์ และคนดังมากมาย เพื่อออกแบบคอลเลกชันพิเศษ เป็นรายเดือน
โดยสินค้าคอลเลกชัน Moncler Genius แต่ละเดือน จะขายในเวลาและจำนวนที่จำกัด ที่สำคัญสินค้าจะถูกหมุนเวียนเปลี่ยนสไตล์ไปเรื่อย ๆ ตามการออกแบบและซิกเนเชอร์ของดิไซเนอร์แต่ละคน
ซึ่งไม่ต่างอะไรจากการสร้างสินค้ารุ่นลิมิเต็ด และเล่นจิตวิทยากับลูกค้าผ่านพฤติกรรมที่เรียกว่า “FOMO” หรือ Fear Of Missing Out ซึ่งเป็นความรู้สึกกลัวที่จะพลาดโอกาสอะไรบางอย่างไป เช่น กลัวว่าถ้าของหมดแล้ว จะไม่มีโอกาสหน้าให้ซื้ออีก จนลูกค้าต้องรีบซื้อ รีบหยิบเป็นเจ้าของ นั่นเอง
และด้วยเรื่องของภาพลักษณ์แบรนด์หรู งานดิไซน์ การคงคุณภาพให้ได้มาตรฐานอย่างต่อเนื่อง และกลยุทธ์ Moncler Genius ของแบรนด์ จึงทำให้แบรนด์ค่อย ๆ กลับเข้ามานั่งในใจของผู้บริโภคอีกครั้ง
แล้วปัจจุบัน Moncler ขายดีแค่ไหน ?
ในปี 2022 ที่ผ่านมา Moncler Group มียอดขายสูงกว่า 97,100 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 27% และยังกวาดกำไรไปได้กว่า 22,600 ล้านบาท
มากไปกว่านั้น Moncler Group ยังเติบโต จนปัจจุบันบริษัทที่มีมูลค่าสูงกว่า 655,000 ล้านบาท
ด้วยสายตาอันหลักแหลม และการมองเห็นถึงศักยภาพในตัว Moncler ของคุณ Remo Ruffini ในวันนั้น
ก็ส่งผลให้ในวันนี้ เขากลายเป็นมหาเศรษฐี ที่มีมูลค่าทรัพย์สินสูงกว่า 124,800 ล้านบาท เลยทีเดียว..
-----------------------------------------
Presented by กลุ่มบริษัทธนจิรากรุ๊ป เดินหน้าขยายธุรกิจหาญ เวลเนสแอนด์ฮอสพิทอลลิตี้ (HARNN Wellness & Hospitality) ครอบคลุมทั้งเวลเนสและสปาภายในประเทศและต่างประเทศในระดับ Regional สร้างให้แบรนด์ไทยเป็นที่รู้จักและสร้างความภูมิใจในระดับสากลรวมกว่า 16 สาขาทั่วภูมิภาค
https://www.facebook.com/TANACHIRA-GROUP-174055739828807/
#TANACHIRA #HARNN #SCapebyHARNN
https://www.facebook.com/TANACHIRA-GROUP-174055739828807/
#TANACHIRA #HARNN #SCapebyHARNN
-----------------------------------------
References:
-https://finance.yahoo.com/quote/MONC.MI/
-https://www.lyst.com/data/the-lyst-index/q422/
-https://www.lyst.com/data/the-lyst-index/q123/
-https://www.monclergroup.com/en/brands/moncler#history
-https://www.elledecor.com/it/best-of/a35128805/moncler-history/
-https://www.wmagazine.com/story/how-did-remo-ruffini-turn-the-humble-down-jacket-into-a-multibillion-dollar-empire
-https://www.racked.com/2016/1/4/10690448/moncler-canada-goose-coats
-https://www.italist.com/magazine/what-is-moncler-and-how-does-moncler-sizing-run/
-https://medium.com/leva-platform/where-drakes-favorite-jacket-came-from-efb9fe8d2312
-https://032c.com/magazine/concept-engineer-moncler-s-remo-ruffini
-https://www.monclergroup.com/en/sustainability/think-circular-bold/down-quality
-https://www.meurice.nyc/journal/2018/11/5/moncler-vs-canadagoose
-https://www.moncler.com/en-us/women/outerwear/all-down-jackets
-https://www.grailed.com/drycleanonly/moncler-fashion-history
-https://www.voguebusiness.com/fashion/monclers-genius-collab-hit-
-https://www.forbes.com/real-time-billionaires/#1bb93f303d78
-https://finance.yahoo.com/quote/MONC.MI/
-https://www.lyst.com/data/the-lyst-index/q422/
-https://www.lyst.com/data/the-lyst-index/q123/
-https://www.monclergroup.com/en/brands/moncler#history
-https://www.elledecor.com/it/best-of/a35128805/moncler-history/
-https://www.wmagazine.com/story/how-did-remo-ruffini-turn-the-humble-down-jacket-into-a-multibillion-dollar-empire
-https://www.racked.com/2016/1/4/10690448/moncler-canada-goose-coats
-https://www.italist.com/magazine/what-is-moncler-and-how-does-moncler-sizing-run/
-https://medium.com/leva-platform/where-drakes-favorite-jacket-came-from-efb9fe8d2312
-https://032c.com/magazine/concept-engineer-moncler-s-remo-ruffini
-https://www.monclergroup.com/en/sustainability/think-circular-bold/down-quality
-https://www.meurice.nyc/journal/2018/11/5/moncler-vs-canadagoose
-https://www.moncler.com/en-us/women/outerwear/all-down-jackets
-https://www.grailed.com/drycleanonly/moncler-fashion-history
-https://www.voguebusiness.com/fashion/monclers-genius-collab-hit-
-https://www.forbes.com/real-time-billionaires/#1bb93f303d78