กรณีศึกษา การปรับตัวของร้านขนมหวาน AFTER YOU หลังยุค COVID-19 /โดย ลงทุนเกิร์ล
เมื่อไม่กี่วันมานี้ After You บริษัทขนมหวานมูลค่าหลายพันล้าน
ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาสแรกของปี 2563
แน่นอนว่าโดยรวมแล้ว After You ย่อมได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ไปไม่น้อย
ทั้งในด้านจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง และการปิดเมืองอย่างกะทันหัน

อย่างไรก็ตาม After You ก็มีการปรับตัวที่น่าสนใจ
โดยเฉพาะการปรับตัวให้สอดคล้องกับพฤติกรรมที่กำลังเปลี่ยนไปของลูกค้า

แล้วร้านขนมหวาน After You หลังยุคโควิด-19 จะเป็นอย่างไร?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟังค่ะ

โดยปกติแล้วเมนูยอดนิยมของ After You
ก็คือ น้ำแข็งไสคากิโกริ และฮันนี่โทสต์
เหตุผลอย่างแรกคือ ความอร่อย
แต่อีกเหตุผลหนึ่ง ซึ่งสำคัญไม่แพ้กัน ก็คือ หน้าตาขนมที่น่าทาน
จนไม่น่าแปลกใจว่า คนส่วนใหญ่จะหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูปก่อนจะลงมือรับประทานอยู่เสมอ

แต่เมื่อโควิด-19 ระบาด และมีมาตรการห้ามลูกค้านั่งทานอาหารที่ร้าน
พฤติกรรมของคนจึงเปลี่ยนเป็น การสั่งกลับมาทานที่บ้านแทน

ซึ่งแน่นอนว่า After You เองก็มีรูปแบบเมนูสำหรับการสั่งกลับบ้านอยู่แล้ว
ดังนั้นอาจมองว่า เรื่องนี้คงไม่กระทบอะไรมาก

แต่ขนมเหล่านี้ไม่ได้เหมาะกับการขนส่งทุกอย่าง
ยิ่งระยะทางไกลเท่าไหร่ ก็ยิ่งเป็นอุปสรรคเท่านั้น
ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงที่น้ำแข็งจะละลาย หรือขนมปังที่หายร้อน
ซึ่งนอกจากจะทำให้ความอร่อยลดลงแล้ว
รูปร่างหน้าตาของขนมที่ต้องมาประกอบร่างเองที่บ้าน ก็อาจไม่ดีเท่าที่ร้านด้วย

ดังนั้นแม้หลังจากที่ห้างสรรพสินค้าและร้านอาหารกลับมาเปิดแล้ว
จะมีคนจำนวนมากที่โหยหาการกลับไปใช้ชีวิตอย่างปกติ

แต่ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่า จะมีอีกหลายคนเช่นกัน
ที่เริ่มชินกับการสั่งอาหารมาทานโดยไม่ต้องออกไปไหนเพราะความสะดวก

ดังนั้น After You จึงเริ่มมีการออกแบบผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ใหม่
เพื่อให้เหมาะสำหรับการขนส่งมากขึ้น เช่น เมนูแช่แข็ง ที่จัดส่งง่าย

รวมทั้งแนวคิดที่จะปรับขนาดของหน่วยบริโภคให้เล็กลง
ซึ่งเป็นผลมาจากกระแสการเว้นระยะห่างทางสังคม
ที่อาจทำให้กังวลกับการทานอาหารจานเดียวกัน ร่วมกันแบบเมื่อก่อน

นอกจากนั้น ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา After You มีการเปิดร้านกาแฟขนาดเล็กแบรนด์ Mikka
ซึ่งเน้นขายสินค้าในรูปแบบของ Grab&Go หรือการสั่งกลับบ้าน
และที่ผ่านมาก็ได้รับประโยชน์จากการเพิ่มขึ้นของยอดสั่งซื้อแบบดิลิเวอรี

ที่สำคัญคือ After You กำลังพัฒนาระบบดำเนินงานของ Mikka
เพื่อขยายไปสู่ระบบแฟรนไชส์ ในอนาคต

ซึ่งหากสำเร็จ นอกจากจะเป็นสิ่งที่ช่วยเร่งการเติบโตของธุรกิจแล้ว

ยังเป็นการลดความเสี่ยง ในกรณีถ้าเกิดวิกฤติแบบโควิด-19 ขึ้นมาอีก
After You ก็จะไม่ต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายทั้งหมดลำพัง

เนื่องจากโดยปกติแล้ว ผู้ซื้อแฟรนไชส์จะเป็นผู้ลงทุนและรับผิดชอบต้นทุนในร้าน
ส่วนผู้ขายแฟรนไชส์ จะได้รับค่าลิขสิทธิ์ และส่วนแบ่งรายได้ จึงถือว่ามีความเสี่ยงน้อยกว่า

ก็น่าติดตามว่ากลยุทธ์เหล่านี้จะมาช่วยกู้สถานการณ์ของ After You ได้หรือไม่

เพราะจากตัวเลขผลประกอบการในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้
ที่มีเพียงผลกระทบจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลง และการปิดเมืองอีก 10 กว่าวัน

ยังทำให้ รายได้ของ After You ลดลง 24% เหลือ 219 ล้านบาท
ส่วนกำไรลดลง 78% เหลือ 13 ล้านบาท

แปลว่าไตรมาสที่ 2 ของปี ซึ่งนักท่องเที่ยวหายหมด
รวมกับการปิดเมืองอีกเกือบ 2 เดือน
ก็น่าจะสร้างผลกระทบที่รุนแรงขึ้นไปอีก

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ทุกอย่างกลับมาสู่สภาพปกติ
และ After You มีการปรับตัวแล้ว

อีกหนึ่งความท้าทายของ After You หลังจากนี้อาจเป็นจำนวนคู่แข่ง ที่เพิ่มขึ้นหลายเท่า
เพราะนอกจากผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นมา
โควิด-19 ยังปลุกความเป็นเชฟในหลายคนขึ้นมาอีกด้วย
ซึ่งทำให้มีร้านขนมเกิดใหม่มากมายบนโลกโซเชียล ในเวลานี้..

Reference
ผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2563 บริษัท อาฟเตอร์ ยู จำกัด (มหาชน)