รูพอล แดร็กควีนผู้ทรงอิทธิพล กับทรัพย์สินมูลค่า 1,900 ล้านบาท
FashionhistoryBusiness

รูพอล แดร็กควีนผู้ทรงอิทธิพล กับทรัพย์สินมูลค่า 1,900 ล้านบาท

29 มิ.ย. 2021
รูพอล แดร็กควีนผู้ทรงอิทธิพล กับทรัพย์สินมูลค่า 1,900 ล้านบาท /โดย ลงทุนเกิร์ล
หากใครเป็นสายนางงามหรือสายนางโชว์ ที่ชื่นชอบการเสพคอนเทนต์ เกี่ยวกับการออกแบบการแต่งกาย การแต่งหน้า และการสวมบทบาทล้อเลียนเหล่าเซเลบริตีคนดังแล้ว
ก็คงจะรู้จักรายการ RuPaul’s Drag Race เป็นอย่างดี
เพราะเป็นรายการเรียลลิตี โชว์ความสามารถของเหล่าแดร็กควีน ที่ฉายไปทั่วโลกบน Netflix
ซึ่งเรียกว่าได้รับความนิยมอยู่ไม่น้อย สามารถสร้างรายได้สูงถึง 300 ล้านบาทต่อปี
และจุดเริ่มต้นของรายการนี้ มาจากคุณ RuPaul (รูพอล) แดร็กควีนรุ่นบุกเบิก
ซึ่งเป็นบุคคลแรก ๆ ในการขับเคลื่อนกลุ่ม LGBTQ+ ให้ยืนหยัดอยู่ในสังคมได้ ด้วยความภาคภูมิใจ ในวงการบันเทิงและในเส้นทางสายอาชีพนี้
ที่มาของคำว่า Drag Queen มาจากไหน ?
แล้วอาชีพนี้ทำอะไรบ้าง ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
ก่อนอื่นเราต้องมาทำความเข้าใจกันสักเล็กน้อย
Drag (แดร็ก) คือ ศิลปะการแต่งตัวที่สวมบทบาทเป็นแครักเตอร์ต่าง ๆ โดยไม่มีการจำกัดเพศ
เพราะไม่ว่าจะเป็นใคร เพศทางเลือก เพศชาย หรือแม้แต่เพศหญิงเอง ก็สามารถแต่งแดร็กได้
แต่โดยทั่วไป เกือบ 90% ของคนที่แต่งแดร็ก ก็มักจะเป็นกลุ่มคน LGBTQ+
ทำให้คนส่วนใหญ่ มักมีภาพจำว่าแดร็กควีน คือการที่ชายแต่งตัวออกมาเป็นหญิง
ซึ่งจริง ๆ แล้วคำว่า Drag Queen หรือ “แดร็กควีน” หมายถึงการแต่งกายเป็นหญิง ที่ไม่ใช่แค่ผู้หญิงธรรมดา
เพราะพวกเธอจะต้องสวมบทบาทและจิตวิญญาณของตัวละคร หรือแครักเตอร์ที่เธอเลือกเข้าไปด้วย
โดยเอกลักษณ์ของการแต่งแดร็กควีน คือการแต่งองค์ทรงเครื่องที่ดูอลังการ จนใครที่พบเห็น ก็อดไม่ได้ที่จะเหลียวมอง
ซึ่งความอลังการนี้ มักประกอบไปด้วย วิกผมอันใหญ่ การแต่งหน้าที่ใช้สีจัดจ้าน และคอนเซปต์การแต่งกาย ที่มักจะแฝงความหมายลึกซึ้ง ตามที่แดร็กควีนแต่ละคนตั้งใจจะสื่อสารออกมา
จนบางครั้งความสวยงามและความอลังการนี้ ก็อาจทำให้ลืมรูปลักษณ์ก่อนแปลงโฉมไปได้ง่าย ๆ หรือเรียกได้ว่า การแต่งแดร็กสามารถเปลี่ยนคนไปเป็นคนละคน จนจำไม่ได้เลยทีเดียว
และหากใครติดตามแดร็กควีนมานาน ก็คงจะต้องรู้จักชื่อของคุณรูพอล อย่างแน่นอน
เพราะเธอ คือแดร็กควีนที่ประสบความสำเร็จที่สุดในสหรัฐอเมริกา
โดยปัจจุบันมีมูลค่าทรัพย์สินกว่า 1,900 ล้านบาท
จนทำให้ใคร ๆ ก็ต่างยกเธอให้เป็น ไอคอนแห่งวงการแดร็กควีน
เนื่องจากเธอเป็นแดร็กควีนคนแรก ๆ ที่ผลักดันให้กลุ่ม LGBTQ+ มีที่ยืนอยู่บนพื้นที่สื่อและสังคม ในช่วงยุคบุกเบิก
เส้นทางความสำเร็จของเธอ เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 1993 โดยเพลงของเธอติด Billboard Music Awards
และในปี 1994 คุณรูพอลได้ร่วมงานกับแบรนด์เครื่องสำอางระดับโลกอย่าง MAC Cosmetics ในฐานะพรีเซนเตอร์แดร็กควีนคนแรกของแบรนด์
ยิ่งไปกว่านั้น คุณรูพอลยังเป็นแดร็กควีนคนแรก ที่มีชื่อแกะสลักบน Hollywood Walk of Fame
ซึ่งเป็นสถานที่ที่เอาไว้จารึกชื่อของนักแสดง และบุคคลที่มีชื่อเสียงระดับโลก
โดยถือเป็นเกียรติสูงสุด สำหรับผู้ได้รับคัดเลือกให้จารึกชื่อเลยก็ว่าได้
แต่กว่าที่คุณรูพอลจะมายืนในจุดนี้ได้ เธอก็ผ่านเรื่องราวและบทพิสูจน์ต่าง ๆ มากมาย
ในช่วงชีวิตวัยเด็ก คุณรูพอลได้คลุกคลีอยู่ในแวดวงของดนตรีและศิลปะ
โดยเธอได้เลือกเรียนที่ Northside School of Performing Arts โรงเรียนสอนศิลปะการแสดงที่เมืองแอตแลนตา
แม้ผลลัพธ์ทางด้านการเรียนของคุณรูพอล จะไม่ประสบความสำเร็จสักเท่าไรก็ตาม
แต่เธอก็ไม่ล้มเลิกความฝัน ที่จะเป็นนักดนตรีและทำงานในวงการภาพยนตร์
หลังจากนั้น คุณรูพอลจึงได้เริ่มสั่งสมประสบการณ์จากการทำงานตามโรงละครเล็ก ๆ ในเมืองแอตแลนตา ที่ไม่ได้มีชื่อเสียงมากนัก และต่อมาเธอก็ได้ขยับมาแสดงในผับต่าง ๆ ในกรุงนิวยอร์ก ซึ่งเป็นสถานที่ที่ได้ฉายาว่า “เมืองแห่งสีสัน”
ซึ่งการแสดงโชว์ยามค่ำคืนเหล่านี้ ก็เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้คุณรูพอล เริ่มเป็นที่รู้จักตามสื่อ และรายการโทรทัศน์ต่าง ๆ โดยในปี 1982 เธอเคยได้รับบทแสดงสำคัญ ๆ ในรายการ “The American Music Show”
และแล้วแสงสปอตไลต์ก็ส่องมาถึงคุณรูพอล เมื่อเธอได้มีโอกาสออกเพลงเป็นของตัวเอง
ในชื่อว่า Supermodel (You Better Work) ในปี 1993
ซึ่งเพลงนี้ก็โด่งดังเป็นพลุแตก เพราะไม่ว่าจะมองไปทางไหน ก็จะเจอโปสเตอร์โปรโมตเพลงของเธอโดดเด่นอยู่ทั่วทุกมุมตึก
ถึงแม้ว่าการเป็นศิลปินเพศทางเลือก จะเป็นอะไรที่แปลกใหม่ ในอุตสาหกรรมเพลงของสหรัฐอเมริกา
แต่คุณรูพอล ก็แสดงตัวตนที่ชัดเจนในการเป็น Drag Queen ของเธอ มาตั้งแต่ต้น
ซึ่งการปรากฏตัวในครั้งนั้น ได้ทำให้เธอจุดประกายไอเดียให้กับคุณ Randy Barbato และคุณ Fenton Bailey สองหนุ่มผู้เป็นเจ้าของ World of Wonder บริษัทโปรดักชันที่ต้องการผลิตรายการเรียลลิตีโชว์ “เฟ้นหานางแบบ Drag Queen”
ในช่วงเวลานี้เอง เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คุณรูพอลได้ก้าวเข้าสู่การเป็นพิธีกรหลัก ประจำรายการ “RuPaul's Drag Race” ในปี 2009 ผ่านช่องเคเบิลทีวี ที่เน้นผลิตคอนเทนต์สำหรับกลุ่มคนดูรักร่วมเพศ
โดยคอนเซปต์รายการ คือการแข่งขัน เพื่อโชว์ความสามารถของเหล่าแดร็กควีน
ตั้งแต่ร้องเพลง, เต้น, ลิปซิงก์, การแสดง หรือการเดินแบบ จากเสื้อผ้าที่เหล่าผู้เข้าแข่งขันเนรมิตขึ้นมา
ที่พิเศษก็คือ ในทุกตอน ผู้เข้าแข่งขันจะใส่ความเป็นตัวเองอย่างเต็มที่ หรือเรียกได้ว่า ทุกคนพร้อมใจกันปล่อยของ และโชว์ความสามารถออกมาอย่างไม่มีใครยอมน้อยหน้าใคร
ถึงแม้ตอนแรก ผู้ผลิตรายการจะไม่ได้คาดหวัง ว่าจะได้รับผลตอบรับที่ดี จนสามารถสร้างซีซันต่อไปได้
เนื่องจากเป็นรายการขนาดกลาง ที่มีเงินรางวัลไม่ถึง 2 หมื่นเหรียญสหรัฐ
แต่ผลกับกลายเป็นว่า รายการ RuPaul's Drag Race มีผลตอบรับดีขึ้นเรื่อย ๆ
จนมีผู้ชมเกือบ 1 ล้านคนต่อหนึ่งตอน
ซึ่งปัจจุบันรายการ RuPaul's Drag Race เดินทางมาถึงซีซันที่ 13 แล้ว
และเป็นการฉายต่อเนื่องกว่า 12 ปีแล้ว
พร้อมกับเงินรางวัลเพิ่มขึ้นเป็น 100,000 เหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 31 ล้านบาท
โดยนับตั้งแต่ซีซันที่ 9 ทางรายการได้มีการเปลี่ยนไปฉายที่ช่อง VH1 ของ Viacom
ทำให้เข้าถึงผู้ชมชาวอเมริกันได้หลากหลายมากขึ้น และปัจจุบันยังหาชมได้ตาม Netflix อีกด้วย
ในเส้นทางของรายการ RuPaul's Drag Race ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก
เพราะสามารถขยายธุรกิจไปสู่ งานอีเวนต์ที่จัด 3 ปีครั้ง
และยังมีการขายลิขสิทธิ์รายการในรูปแบบแฟรนไชส์ให้กับอีกหลายประเทศ อย่างเช่น แคนาดา, สหราชอาณาจักร, ฮอลแลนด์ และประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย
ซึ่งการเติบโตของรายการ RuPaul's Drag Race นอกจากจะสร้างชื่อเสียงให้คุณรูพอลแล้ว ยังสร้างรายได้ก้อนโตให้กับเธออีกด้วย
ในปี 2013 การปรากฏตัวของคุณรูพอล 1 ตอน ทำรายได้ถึง 1.6 ล้านบาท
และใน 1 ซีซันจะมีประมาณ 14-16 ตอน
เท่ากับว่าคุณรูพอลจะได้รับค่าตอบแทนจากการออกรายการอย่างน้อย 22 ล้านบาทต่อซีซัน โดยที่รายได้คร่าว ๆ นี้ ยังไม่รวมตอนพิเศษต่าง ๆ เลยด้วยซ้ำ
นอกจากเรื่องรายได้แล้ว คุณรูพอลยังได้รับรางวัล Primetime Emmy Awards กว่า 8 รางวัล
รวมถึงติดอยู่ใน 100 บุคคลที่ทรงอิทธิพลของโลก จากนิตยสาร Time ในปี 2017 ด้วย
ซึ่งปัจจุบันรายการ RuPaul's Drag Race ก็ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง
อย่างในปี 2017 ได้มีการจัดงานอีเวนต์ DragCon ที่กรุงนิวยอร์ก มีคนร่วมงานถึง 40,000 คน ภายใน 3 วัน
และทำรายได้จากการขายสินค้าถึง 283 ล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมค่าบัตรเข้าชม ที่มีราคาเกือบใบละ 1,300 บาท ซึ่งน่าจะทำรายได้จากการขายบัตรไปได้อีกประมาณ 52 ล้านบาท
อ่านมาถึงตรงนี้ เราอาจจะรู้สึกว่าเส้นทางชีวิตของคุณรูพอล หยิบจับอะไรก็สำเร็จได้ไม่ยาก
แต่รู้หรือไม่คะ ถึงแม้ว่าคุณรูพอลจะมาถึงจุดที่โด่งดัง ผ่านการพิสูจน์ต่าง ๆ และประสบความสำเร็จอยู่ในวงการบันเทิงมาเป็นเวลานาน
พอในวันที่คุณรูพอลแต่งงานกับคุณ Georges LeBar สามีที่คบกันตั้งแต่ปี 1994
กลับมีคนบางกลุ่ม วิพากษ์วิจารณ์และสาปแช่งพวกเขา แทนที่จะแสดงความยินดี
แต่คุณรูพอลและสามีก็ไม่ได้สนใจ และจับมืออยู่เคียงคู่กันมา ยาวนานกว่า 27 ปีแล้ว
เรื่องนี้คงแสดงให้เห็นว่า กว่าจะมาถึงจุดนี้ ในวันที่เริ่มต้นคุณรูพอลก็น่าจะต้องผ่านอะไรมาเยอะมากจริง ๆ
ซึ่งลงทุนเกิร์ลก็หวังว่าเรื่องราวของคุณรูพอลทั้งหมดนี้ จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับใครหลาย ๆ คน
ที่ขาดความมั่นใจ และยังไม่กล้าออกมาจากพื้นที่ปลอดภัยของตัวเอง
เพราะในวันที่คุณรูพอล เริ่มต้นเดินตามความฝันในวงการบันเทิง ยังเป็นยุคที่คนส่วนใหญ่ ไม่ยอมรับเรื่องเพศที่หลากหลาย
แต่คุณรูพอลก็ไม่ให้ใครมาตีกรอบเส้นทางชีวิตของเธอ และยืนหยัดสู้
จนกลายมาเป็นแดร็กควีนที่ประสบความสำเร็จที่สุดในสหรัฐอเมริกา
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.