SHEIN แพลตฟอร์ม Fast Fashion จากจีน ยอดขาย 30,000 ล้าน /โดย ลงทุนเกิร์ล

ต้องยอมรับว่าในยุคปัจจุบัน ผู้บริโภคมีแนวโน้มซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น
โดยมีการคาดการณ์ว่ายอดขายร้านค้าปลีก E-commerce ทั่วโลกในปี 2023
จะมีมูลค่าถึง 6.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินไทยราว 200 ล้านล้านบาท
ซึ่งหนึ่งในอุตสาหกรรม ที่เข้ามามีบทบาทในตลาด E-commerce มากขึ้น คือ อุตสาหกรรมแฟชั่น

สำหรับสาวๆ สายแฟชั่นหลายคน คงจะคุ้นเคยการชอปเสื้อผ้าออนไลน์กันดีอยู่แล้ว
ซึ่งตอนนี้หนึ่งในแพลตฟอร์มขายเสื้อผ้าที่กำลังมาแรง คงหนีไม่พ้น SHEIN อย่างแน่นอน
เพราะด้วยราคาที่ถูก มีแบบให้เลือกหลากหลาย และจัดส่งทั่วโลก

ที่น่าสนใจคือ ในปี 2019 SHEIN ทำรายได้ไปมากถึง 30,000 ล้านบาท

แล้ว SHEIN มีกลยุทธ์อะไรที่ทำให้เสื้อผ้ามีราคาถูก จนขายดีขนาดนี้? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟังค่ะ

SHEIN อ่านว่า ชี-อิน ก่อตั้งขึ้นมาเมื่อ เดือนตุลาคม ปี 2008 โดยผู้ชาย ชื่อว่า Chris Xu
ซึ่งก่อนหน้านี้เขาทำงานด้านการตลาดการค้าต่างประเทศออนไลน์ที่ บริษัท Nanjing Aodao

จุดเด่นของ SHEIN คือแพลตฟอร์ม Fast Fashion แบบ B2C
หรือพูดง่ายๆ ก็คือแพลตฟอร์มที่นำเสื้อผ้ามาขายให้กับลูกค้ารายย่อยโดยตรง

โดยจะเน้นไปที่เสื้อผ้าผู้หญิง แต่ก็จะมีของผู้ชายและเด็กอยู่บ้าง
รวมไปถึงสินค้าแฟชั่นอื่น เช่น เครื่องประดับ กระเป๋า และรองเท้า

ซึ่งแม้ว่า SHEIN จะเริ่มก่อตั้งที่ประเทศจีน
แต่ปัจจุบันธุรกิจของ SHEIN ก็สามารถขยายจนครอบคลุมถึง 220 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก
ตรงกับคอนเซปต์ที่ว่า “ทุกคนสามารถเพลิดเพลินกับความงามของแฟชั่นได้”

กลยุทธ์ที่สำคัญในการดำเนินธุรกิจของ SHEIN อยู่ที่ “ความรวดเร็ว”

อย่างที่ได้กล่าวไปว่า SHEIN เจาะกลุ่มของ Fast Fashion หรือ แฟชั่นที่มาไวไปไว
ต้องอาศัยความเร็วในการออกแบบเป็นอย่างมาก

ซึ่งถ้าพูดถึงแบรนด์ในกลุ่มนี้ ก็จะมี Zara, H&M หรือแม้แต่ Pomelo

ที่โดยปกติแล้ว ก็จะอาศัยการออกแบบเสื้อผ้า
โดยถอดแบบและปรับมาจากรันเวย์ หรือเสื้อผ้าจากแบรนด์อื่นๆ
และมีดีไซเนอร์ในบริษัทคอยอัปเดตเทรนด์การแต่งตัวใหม่ๆ อยู่เสมอ
จนทำให้มีคอลเลกชันใหม่ออกแทบทุกสัปดาห์

ส่วนในเรื่องของการผลิต SHEIN ก็มีการจ้าง Outsource
ซึ่งประเทศจีนเองก็เป็นแหล่งผลิตชั้นเยี่ยมอยู่แล้ว
พอประกอบกับปริมาณการผลิตจำนวนมาก จึงทำให้ต้นทุนของ SHEIN ยิ่งต่ำลงไปอีก

จึงไม่แปลกที่ SHEIN จะสามารถตั้งราคาที่ดึงดูดใจลูกค้าได้ขนาดนี้

แต่เมื่อผลิตสินค้าออกมาจำนวนมาก สิ่งสำคัญที่ตามมาก็คือ สถานที่สำหรับเก็บสินค้า
โดย SHEIN ก็มีโกดังขนาดใหญ่กว่า 10,000 ตารางเมตร
ที่คอยจัดการสินค้า และกระจายสินค้าไปตามโกดังย่อยๆ ทั้งในและนอกประเทศจีน

สำหรับเรื่องการขนส่ง SHEIN ก็ได้มีการประสานงานกับบริษัทขนส่ง
เพื่อเตรียมความพร้อม ทำให้หมดปัญหาความล่าช้าในการขนส่ง

อย่างไรก็ตาม ในการดำเนินธุรกิจ การบริหารจัดการ “หลังบ้าน” อย่างเดียวคงไม่เพียงพอ
การทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก ก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน

โดยอีกกลยุทธ์การตลาดที่ทำให้ SHEIN เป็นที่โด่งดังได้อย่างรวดเร็ว
คือ การจ้างอินฟลูเอนเซอร์ ให้ช่วยรีวิวสินค้า ซึ่งก็เป็นเหมือนการโปรโมตแพลตฟอร์มไปในตัว
ทำให้ SHEIN กลายเป็นที่รู้จักที่แพร่หลายได้มากขึ้น

ที่น่าสนใจคือ ก่อนจะมาอ่านบทความนี้ หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า
จริงๆ แล้ว SHEIN เป็นแพลตฟอร์มที่มาจากจีน

นั่นก็เพราะ นางแบบสินค้าที่ SHEIN เลือกใช้ ส่วนใหญ่จะออกไปทางชาติตะวันตกเสียมากกว่า
ทำให้แทบจะไม่เหลือภาพลักษณ์แบรนด์ของคนจีนเลย

นอกจากนั้น อีกหนึ่งความพิเศษของ SHEIN คือไซซ์ของเสื้อที่ครอบคลุม
ตั้งแต่ไซซ์เล็ก ไปจนถึงเสื้อผ้า Plus Size ทำให้ตอบโจทย์ทุกกลุ่มลูกค้า
ไม่ว่าจะเป็นคนที่มีโครงร่างแบบไหนก็ตาม

ด้วยปัจจัยทั้งหมดนี้ ก็ไม่น่าแปลกใจว่าทำไม SHEIN จึงเป็นแพลตฟอร์มที่กำลังมาแรง
สามารถดึงลูกค้าใหม่ๆ ให้เข้ามาทดลองใช้ รวมถึงยังครองใจลูกค้าเก่าเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น..

References:
-https://www.distractify.com/p/shein-why-so-cheap
-https://www.shein.in/About-Us-a-117.html
-https://startuptalky.com/shein-success-story/
-https://nowinfos.blogspot.com/2019/09/shein-goal-of-this-chinese-cross-border.html
-https://www.pomelofashion.com/th/en/purpose
-https://www.thebrokebrooke.com/
-https://universitygirlsu.com/style/2020/7/19/everything-wrong-with-shein
https://kr-asia.com/chinese-fast-fashion-shopping-app-shein-is-banned-in-india-but-in-the-us-it-rivals-amazon