Victoria's Secret Fashion Show จะทำให้แบรนด์นางฟ้าตกสวรรค์ กลับมาติดปีกได้หรือไม่
Business

Victoria's Secret Fashion Show จะทำให้แบรนด์นางฟ้าตกสวรรค์ กลับมาติดปีกได้หรือไม่

15 ต.ค. 2024
Victoria's Secret Fashion Show จะทำให้แบรนด์นางฟ้าตกสวรรค์ กลับมาติดปีกได้หรือไม่ /โดย ลงทุนเกิร์ล
ซูเปอร์โมเดลกับตำแหน่ง “นางฟ้า Victoria's Secret”“แฟนตาซีบรา” ชุดฟินาเล่ ที่จะมีนางแบบเพียงคนเดียวได้สวมใส่ในแต่ละปี“ศิลปินชื่อดัง” ที่ขึ้นมาร้องเพลงประกอบโชว์บนรันเวย์
คือนิยามของ Victoria's Secret Fashion Show แฟชั่นโชว์สุดอลังการ ของอดีตแบรนด์ชุดชั้นในอันดับ 1 ของโลก
อย่างไรก็ตาม ความพิเศษของโชว์นี้ที่ผู้คนทั่วโลกเฝ้าคอยกันทุกปี กลับต้องเผชิญวิกฤติและยุติการจัดงานลง จนห่างหายไปเกือบ 6 ปีแล้ว..
มันเกิดอะไรขึ้นกับ Victoria's Secret Fashion Show ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
ย้อนกลับไปในปี 1995 เป็นปีที่แบรนด์ Victoria's Secret จัดแฟชั่นโชว์ขึ้นเป็นครั้งแรก
ซึ่งเป็นโชว์ที่ค่อนข้างเรียบง่าย จัดขึ้นในโรงแรม Plaza เมืองนิวยอร์ก ไม่มีปีกนางฟ้า และนางแบบส่วนใหญ่สวมชุดชั้นในทรงคลาสสิก
แต่ก็ทำให้แบรนด์โด่งดังเป็นพลุแตกทันที จำนวนสาขาและยอดขายของแบรนด์เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว แถมยังทำให้แบรนด์มีมูลค่ากว่า 6 หมื่นล้านบาท
หลังจากนั้นแบรนด์ก็เติบโตต่อมาเรื่อย ๆ และในทุก ๆ ปีเราจะเริ่มเห็นพัฒนาการของ Victoria's Secret Fashion Show ที่เริ่มมีรายละเอียดมากขึ้น เช่น
สถานที่จัดแฟชั่นโชว์ ที่เคยจัดแสดงในหัวเมืองใหญ่หลายประเทศทั่วโลก เช่น ลอนดอน, ปารีส และเซี่ยงไฮ้นางแบบที่ได้เดินแบบในแฟชั่นโชว์ จะมีตำแหน่งที่เรียกว่า นางฟ้า Victoria's Secret และจะเซ็นสัญญาเป็นตัวแทนของแบรนด์ในแคมเปญโฆษณา และกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์ปีกนางฟ้าที่ผลิตขึ้นตามสรีระของนางแบบแต่ละคน ซึ่งแต่ละชิ้นใช้เวลาสร้างสรรค์นาน 30-500 ชั่วโมงแฟนตาซีบรา หรือชุดชั้นในที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ ประดับด้วยอัญมณีและวัสดุล้ำค่า มีมูลค่าสูงถึงหลักล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือเป็นไฮไลต์ของโชว์
โดยแฟนตาซีบราที่มีมูลค่ามากที่สุดคือ Heavenly Star Bra ประดับด้วยแซปไฟร์สีชมพูของศรีลังกา 1,200 เม็ด และมีเพชรทรงมรกตเจียระไน 90 กะรัต มีมูลค่าราว 400 ล้านบาท ซึ่งได้รับการบันทึกใน Guinness World Records ให้เป็นชุดชั้นในที่มีราคาแพงที่สุดเท่าที่มีมา
การแสดงดนตรีจากศิลปินชื่อดัง เช่น Katy Perry, Rihanna, Taylor Swift, Ariana Grande, Selena Gomez และ Harry Styles
อีกทั้งการที่ Victoria's Secret Fashion Show ถ่ายทอดสดออกไปทั่วโลก โดยที่ในแต่ละปีก็จะมียอดผู้ชมถ่ายทอดสดประมาณ 10 ล้านคน ยิ่งทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักในระดับสากล
และตอกย้ำภาพจำของ Victoria's Secret ให้กลายเป็นแบรนด์ชุดชั้นในเซ็กซี่สำหรับคนหุ่นดีโดยเฉพาะ
แต่แล้ว ยุคมืดของ Victoria's Secret ก็ได้เริ่มขึ้น..
เพราะภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่เป็นเหมือนดาบสองคม การเน้นว่าผู้หญิงที่สวยจะต้องมีหุ่นแบบนางฟ้า Victoria's Secret กลายเป็นเรื่องล้าหลัง และไม่ตอบโจทย์ความงามตามยุคสมัย
ในขณะที่ยอดขายของแบรนด์เองก็ไม่ได้เติบโตเลยตั้งแต่ปี 2016 ก่อนจะลดลงเรื่อย ๆ ทุกปี
นอกจากนี้ บริษัทยังมีข่าวด้านลบออกมาอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็น การเปิดโปงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของผู้บริหาร และการคุกคามทางเพศภายในองค์กร
ทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์เสียหายอย่างหนัก จนลูกค้าเริ่มแบนการซื้อสินค้าจาก Victoria's Secret
ยิ่งไปกว่านั้น ยอดผู้รับชมถ่ายทอดสด Victoria's Secret Fashion Show ก็ค่อย ๆ ลดลงเช่นกัน
กระทั่งในปี 2018 ที่ยอดผู้ชมลดลงเหลือเพียง 3 ล้านคน ส่งผลให้ในปี 2019 แบรนด์ต้องประกาศยุติงานแฟชั่นโชว์ ที่จัดติดต่อกันมากว่า 23 ปี
แต่ทุกวันนี้ Victoria's Secret ก็เริ่มปรับภาพลักษณ์แบรนด์ ด้วยการหันมาใช้นางแบบที่มีรูปร่างและเชื้อชาติที่หลากหลาย นางแบบข้ามเพศ นางแบบที่เป็นดาวน์ซินโดรม เพื่อแสดงถึงจุดยืนเรื่องความหลากหลาย
และล่าสุด เมื่อปลายปีที่ผ่านมา บริษัทก็ได้แถลงข่าวว่าจะกลับมาปลุกตำนาน Victoria's Secret Fashion Show ขึ้นอีกครั้ง ในวันที่ 15 ตุลาคม 2024 ในเมืองนิวยอร์ก
โดยมีการเปิดเผยรายชื่อนางแบบบางท่าน เช่น Gigi Hadid, Tyra Banks และ Candice Swanepoel รวมถึงมีศิลปินชื่อดังร่วมแสดงดนตรี เช่น Cher, Tyla และ Lisa
ที่สำคัญคุณ Timothy Johnson ซีเอฟโอของบริษัท ยังได้เปิดเผยว่า แฟชั่นโชว์ครั้งนี้อาจจะออกห่างจากความหรูหรา และความอลังการรูปแบบเดิม ๆ แต่จะเน้นเรื่องราวและข้อความที่ส่งเสริมพลังของผู้หญิงมากขึ้น
อีกทั้งไม่นานมานี้ บริษัท Victoria's Secret ก็ได้ดึงตัวคุณ Hillary Super อดีตซีอีโอของ Savage X Fenty แบรนด์ชุดชั้นในที่ส่งเสริมประเด็นด้านความหลากหลายเสมอมา มาเป็นซีอีโอคนใหม่ของบริษัท
ตรงนี้ เราจะเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของแนวทางของบริษัท ทั้งการรีแบรนด์ดิง, จัดทำโชว์ขึ้นใหม่ และการปรับเปลี่ยนผู้บริหาร เป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงความพยายามในการปรับตัวให้เข้ากับเทรนด์ปัจจุบัน
ถึงแม้จะเป็นการปรับตัวที่ค่อนข้างช้า แต่ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย
ก็เป็นที่น่าติดตามว่า Victoria's Secret Fashion Show จะดังเป็นพลุแตกเหมือนเมื่อก่อนได้หรือไม่
และโชว์ครั้งนี้จะทำให้แบรนด์ติดปีกโบยบินเป็นนางฟ้า
หรือจะปีกหักร่วงลงมาเดินบนดินตามเดิม..
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.