Business
กาแฟ (แทบ) ไม่มีกาเฟอีน ทางเลือกของคอกาแฟ ที่ Starbucks ยังลงมาเล่นในตลาด
27 ก.ค. 2023
กาแฟ (แทบ) ไม่มีกาเฟอีน ทางเลือกของคอกาแฟ ที่ Starbucks ยังลงมาเล่นในตลาด /โดย ลงทุนเกิร์ล
ถ้ากาแฟไม่มีกาเฟอีน ยังจะดื่มไหม ?
แม้หลายคนอาจคิดว่า คงไม่มีใครดื่ม
แต่อาจไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไป..
แต่อาจไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไป..
เพราะว่าในตอนนี้ เทรนด์การดื่ม กาแฟที่ไม่มีกาเฟอีน หรือ “กาแฟ Decaf” กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ
จากแนวโน้มที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ตอนนี้แบรนด์กาแฟระดับโลกอย่าง Starbucks และ NESCAFÉ ต่างก็กระโดดลงมาเล่นในตลาดนี้เช่นกัน
กาแฟ Decaf คืออะไร ?
แล้วทำไมแบรนด์กาแฟระดับโลก ถึงลงมาเล่นในตลาดนี้ ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
แล้วทำไมแบรนด์กาแฟระดับโลก ถึงลงมาเล่นในตลาดนี้ ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
Decaf มาจากคำว่า Decaffeinated Coffee
แต่ต้องบอกก่อนว่า Decaf ไม่ใช่กาแฟที่ปราศจากกาเฟอีนอย่างที่หลายคนเข้าใจ
แต่ต้องบอกก่อนว่า Decaf ไม่ใช่กาแฟที่ปราศจากกาเฟอีนอย่างที่หลายคนเข้าใจ
เพราะความจริงแล้ว Decaf ยังคงเป็นกาแฟที่มีกาเฟอีนอยู่ เพียงแต่ในปริมาณที่ต่ำมาก ๆ เมื่อเทียบกับระดับกาเฟอีนในกาแฟปกติ
โดยหากเทียบกาแฟทั้งสองแบบในปริมาณที่เท่ากัน
-กาแฟปกติ 1 แก้ว จะมีกาเฟอีน ราว 80 - 200 มิลลิกรัม
-กาแฟ Decaf 1 แก้ว จะมีกาเฟอีน ราว 4 - 13 มิลลิกรัม
ที่เป็นแบบนี้เพราะ Decaf เป็นเมล็ดกาแฟที่ผ่านกระบวนการสกัดกาเฟอีนออกจากเมล็ด
ด้วยกรรมวิธีต่าง ๆ เช่น การชะล้างด้วยน้ำ, คาร์บอนไดออกไซด์, ตัวทำละลาย ไปจนถึงการกรอง
ด้วยกรรมวิธีต่าง ๆ เช่น การชะล้างด้วยน้ำ, คาร์บอนไดออกไซด์, ตัวทำละลาย ไปจนถึงการกรอง
ซึ่งกรรมวิธีเหล่านี้ จะช่วยกำจัดกาเฟอีนออกไปได้ตั้งแต่ 97% ขึ้นไป
แล้วใครกันที่อุตส่าห์ล้างกาเฟอีนออกจากกาแฟ ?
เรื่องนี้ต้องย้อนกลับไปที่ต้นกำเนิดของ Decaf เมื่อปี 1903 หรือเมื่อร้อยกว่าปีมาแล้ว
พ่อค้ากาแฟชาวเยอรมันคนหนึ่งที่มีชื่อว่า “Ludwig Roselius”
เขาต้องสูญเสียคุณพ่อในวัยเพียง 59 ปีของเขาไป โดยมีสาเหตุมาจากการติดกาแฟ
เขาต้องสูญเสียคุณพ่อในวัยเพียง 59 ปีของเขาไป โดยมีสาเหตุมาจากการติดกาแฟ
หลังจากนั้น Roselius จึงพยายามเลิกดื่มกาแฟ แต่ก็เลิกดื่มไม่ได้เสียที เขาจึงหาวิธีการเอากาเฟอีนออกจากกาแฟเสียเลย
วันหนึ่งระหว่างที่เขาทำการขนส่งเมล็ดกาแฟ เขาได้ทำกล่องกาแฟใบหนึ่ง จมลงไปกับน้ำทะเล ด้วยความเสียดายเขาจึงนำกาแฟในกล่องนั้น มาต้มเพื่อดื่ม
ซึ่งเขาก็ได้พบว่า น้ำทะเลเหล่านั้น ได้ขจัดปริมาณกาเฟอีนส่วนใหญ่ออกจากเมล็ดกาแฟไปแล้ว ขณะที่รสชาติของกาแฟ ก็ยังไม่ได้ผิดเพี้ยนไปจากเดิมมากนัก
จุดนี้เอง ทำให้เขาสามารถคิดค้นกระบวนการสกัดกาเฟอีนออกจากเมล็ดกาแฟ อย่างที่เขาตั้งใจไว้ได้สำเร็จ
จนเขาถูกขนานนามว่า “ราชาแห่งกาแฟไร้กาเฟอีน”
โดย Roselius ได้จดสิทธิบัตรวิธีการกำจัดกาเฟอีน ซึ่งแม้ในปัจจุบันจะมีวิธีอื่นเพิ่มเติม
แต่วิธีของเขายังเป็นกระบวนการที่ใช้มาจนถึงทุกวันนี้
แต่วิธีของเขายังเป็นกระบวนการที่ใช้มาจนถึงทุกวันนี้
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ Decaf ถูกคิดค้นขึ้นใหม่ ๆ กาแฟ Decaf ก็ไม่ได้เป็นที่นิยมในกลุ่มคนดื่มกาแฟเท่าไรนัก
แต่หลังจากที่แบรนด์ “Kaffee Hag” ซึ่งก็เป็นบริษัทของ Roselius เริ่มผลิต Decaf ในปี 1906
บวกกับทำการตลาดให้กับแบรนด์ Kaffe Hag อย่างต่อเนื่อง
บวกกับทำการตลาดให้กับแบรนด์ Kaffe Hag อย่างต่อเนื่อง
ทำให้ Decaf มีภาพลักษณ์เป็นสินค้าระดับพรีเมียม ที่ใครซื้อมาดื่มก็จะดูมีรสนิยม
ซึ่งกลายเป็นจุดเริ่มต้นให้ Decaf ได้รับความนิยมในประเทศแถบตะวันตกตั้งแต่ตอนนั้น
ซึ่งกลายเป็นจุดเริ่มต้นให้ Decaf ได้รับความนิยมในประเทศแถบตะวันตกตั้งแต่ตอนนั้น
มาถึงวันนี้ Decaf ก็เริ่มได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยสาเหตุที่ช่วงหลัง ๆ กาแฟ Decaf เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น ไม่ใช่เพราะดื่มแล้วดูมีรสนิยม
แต่เป็นเพราะกาแฟชนิดนี้ สามารถตอบโจทย์คนยุคนี้ได้ในหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพ
แต่เป็นเพราะกาแฟชนิดนี้ สามารถตอบโจทย์คนยุคนี้ได้ในหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพ
ซึ่งสามารถสรุปข้อดีของ Decaf ออกมาเป็นข้อ ๆ ได้ดังนี้
-เหมาะสำหรับผู้ที่ร่างกายไวต่อกาเฟอีน ลดอาการใจสั่น ปวดศีรษะ นอนไม่หลับ
-สามารถดื่มได้หลายแก้ว โดยไม่ต้องกังวลว่าจะติดกาเฟอีน
-ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางโรค หรือผู้ที่ใช้ยารักษาโรคบางชนิดที่ต้องหลีกเลี่ยงกาเฟอีนเข้มข้น สามารถดื่มได้
-ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคกรดไหลย้อน ที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ในการบริโภคกาแฟที่มีกาเฟอีน
อย่างไรก็ตาม ก็ต้องยอมรับว่าจุดด้อยที่หนีไม่พ้น ก็คงเป็นเรื่องรสชาติและกลิ่นของกาแฟที่อาจจะลดลง
ซึ่งคอกาแฟที่ให้ความสำคัญกับเรื่องกลิ่น และรสชาติมาก ๆ อาจรู้สึกถึงความแตกต่างนี้ได้เช่นกัน
แม้ตอนนี้กลุ่มคนที่ดื่ม Decaf จะมีสัดส่วนที่น้อยกว่ากาแฟแบบปกติอยู่มาก แต่ด้วยแนวโน้มการเติบโตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้แบรนด์กาแฟดัง ๆ ต่างลงมาลุยตลาด Decaf กันแทบทุกแบรนด์
ซึ่งหากเราลองมาดูตลาดโดยรวมของกาแฟกาเฟอีนต่ำ จะพบว่า
ในปี 2021 มูลค่ากาแฟกาเฟอีนต่ำทั่วโลก เพิ่มมาอยู่ที่ 2.4 แสนล้านบาท
ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าจะเติบโตไปถึง 5.1 แสนล้านบาท ภายในปี 2031
ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าจะเติบโตไปถึง 5.1 แสนล้านบาท ภายในปี 2031
หากเราลองเซิร์ชคำว่า Decaf หรือกาแฟที่ไม่มีกาเฟอีนในอินเทอร์เน็ต สิ่งที่ปรากฏคือเมนูกาแฟที่ไม่มีกาเฟอีนจากสารพัดแบรนด์
ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง Starbucks, NESCAFÉ, illy, Tim Hortons
หรือแม้แต่แบรนด์กาแฟอื่น ๆ ที่มีวางขายในไทย เช่น Boncafe, Nana Coffee Roasters, Sarnies, Marks & Spencer ก็มี Decaf ให้เลือกซื้อกันทั้งนั้น
โดยมีทั้งเมล็ดกาแฟแบบ Decaf สำหรับนำไปชงเป็นเมนูต่าง ๆ ไปจนถึงกาแฟผงสำเร็จรูปด้วย
ทั้งสะดวกและตอบโจทย์ขนาดนี้ จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าในตอนนี้ Decaf กลายเป็นอีกทางเลือกของคนคลั่งไคล้รสชาติของกาแฟ แต่ไม่มีกาเฟอีน
อ่านมาถึงตรงนี้ เราอาจสรุปได้ว่า แม้ในวันนี้ Decaf จะยังเป็นเหมือนแค่ทางเลือกในการดื่มกาแฟ แต่จากมูลค่าตลาดที่เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ
ทำให้ปฏิเสธไม่ได้ว่า ในอนาคต Decaf กำลังจะมีบทบาทสำคัญในวงการกาแฟมากขึ้น
โดยเฉพาะกับคนรุ่นใหม่ ที่ใส่ใจสุขภาพของตัวเองมาก ๆ
จนยอมลดความสุขของลิ้น มาทะนุถนอมร่างกายให้ไม่ได้รับกาเฟอีนมากเกินไป จนอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว..
-------------------------------------------
Presented by กลุ่มบริษัทธนจิรากรุ๊ป พุ่งเป้าพัฒนาธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (Food & Beverage) เพื่อเข้ามาเติมเต็มและต่อจิกซอว์เทรนด์ไลฟ์สไตล์ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น หลังจากประสบความสำเร็จ และได้รับการตอบรับอย่างดีจากกลุ่มลูกค้าชาวไทยและต่างชาติที่มาใช้บริการร้าน Marimekko Pop-Up Café คาเฟแห่งแรกในโลก พร้อมเดินหน้าปูทางธุรกิจ F&B ภายใต้แบรนด์อื่นในเครือ หวังเจาะตลาดกลุ่มลูกค้า Gen Y - Gen Z มากขึ้น
https://www.facebook.com/TANACHIRA-GROUP-174055739828807/
#TANACHIRA #MarimekkoCafeThailand
https://www.facebook.com/TANACHIRA-GROUP-174055739828807/
#TANACHIRA #MarimekkoCafeThailand
-------------------------------------------
References:
-https://www.healthline.com/nutrition/decaf-coffee-good-or-bad#How-much-caffeine-is-in-decaf-coffee
-https://www.transparencymarketresearch.com/decaffeinated-coffee-market.html
-https://www.dolce-gusto.co.th/inspiration/decaf-coffee-for-coffee-lovers
-https://www.thespruceeats.com/what-does-decaf-mean-765691
-https://www.compasscoffee.com/blogs/the-daily-grind/understanding-the-weird-history-of-decaffeinated-coffee
-https://www.nescafe.com/in/coffee-types/what-is-a-decaf-coffee
-https://walled-in-berlin.com/j-elke-ertle/ludwig-roselius-king-of-decaffeinated-coffee/
-https://www.healthline.com/nutrition/decaf-coffee-good-or-bad#How-much-caffeine-is-in-decaf-coffee
-https://www.transparencymarketresearch.com/decaffeinated-coffee-market.html
-https://www.dolce-gusto.co.th/inspiration/decaf-coffee-for-coffee-lovers
-https://www.thespruceeats.com/what-does-decaf-mean-765691
-https://www.compasscoffee.com/blogs/the-daily-grind/understanding-the-weird-history-of-decaffeinated-coffee
-https://www.nescafe.com/in/coffee-types/what-is-a-decaf-coffee
-https://walled-in-berlin.com/j-elke-ertle/ludwig-roselius-king-of-decaffeinated-coffee/