Business
เวียดนาม ทำอย่างไร ถึงกลายเป็น ผู้ส่งออกกาแฟ อันดับ 2 ของโลก
12 ธ.ค. 2022
เวียดนาม ทำอย่างไร ถึงกลายเป็น ผู้ส่งออกกาแฟ อันดับ 2 ของโลก /โดย ลงทุนเกิร์ล
รู้หรือไม่ว่า อุตสาหกรรมกาแฟในเวียดนาม ไม่เพียงแค่สร้างรายได้มหาศาลเข้าประเทศเท่านั้น
แต่ยังสามารถช่วยลด “ความยากจน” ภายในประเทศ ได้อีกด้วย
แต่ยังสามารถช่วยลด “ความยากจน” ภายในประเทศ ได้อีกด้วย
แล้ว เวียดนาม ทำได้อย่างไร ?
อะไร คือ เบื้องหลังความสำเร็จนี้ ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
อะไร คือ เบื้องหลังความสำเร็จนี้ ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
ย้อนกลับไปในปี 1857 หรือเมื่อ 165 ปีก่อน
“เมล็ดกาแฟ” ถูกนำเข้ามายังประเทศเวียดนาม ผ่านชาวฝรั่งเศส
โดยอะราบิกาเป็นสายพันธุ์แรก ที่ถูกนำมาเพาะปลูก
ก่อนที่สายพันธุ์โรบัสตา จะถูกนำเข้ามาปลูก ในเวลาต่อมา
โดยอะราบิกาเป็นสายพันธุ์แรก ที่ถูกนำมาเพาะปลูก
ก่อนที่สายพันธุ์โรบัสตา จะถูกนำเข้ามาปลูก ในเวลาต่อมา
อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมกาแฟในช่วงเวลานั้น ยังไม่ได้เติบโตมากนัก
เนื่องจากปัจจัยทางการเมือง และเศรษฐกิจ
รวมถึงผลกระทบจากสงครามเวียดนาม ที่ทำให้ประเทศเสียหายอย่างหนัก จนเวียดนามต้องหันกลับมา เร่งฟื้นฟูประเทศและเศรษฐกิจ ให้กลับมาฟื้นตัวโดยเร็ว
เนื่องจากปัจจัยทางการเมือง และเศรษฐกิจ
รวมถึงผลกระทบจากสงครามเวียดนาม ที่ทำให้ประเทศเสียหายอย่างหนัก จนเวียดนามต้องหันกลับมา เร่งฟื้นฟูประเทศและเศรษฐกิจ ให้กลับมาฟื้นตัวโดยเร็ว
ในตอนนั้นเวียดนาม ได้ใช้ระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยม หรือการที่รัฐเป็นผู้ผูกขาดการค้า โดยรัฐสามารถเข้าไปแทรกแซง และเป็นเจ้าของปัจจัยการผลิตต่าง ๆ ได้เอง แต่ในขณะเดียวกันภาคเอกชน กลับขาดเสรีทางการค้า
จนในที่สุด ระบบเศรษฐกิจดังกล่าวก็ล้มเหลว
เพราะไม่สามารถนำพาประเทศ ให้พัฒนาไปข้างหน้า ได้มากเท่าที่ควร..
เพราะไม่สามารถนำพาประเทศ ให้พัฒนาไปข้างหน้า ได้มากเท่าที่ควร..
ทำให้ในปี 1986 รัฐบาลเวียดนาม จึงตัดสินใจปฏิรูปเศรษฐกิจใหม่
และเริ่มใช้นโยบายเศรษฐกิจ ชื่อว่า “โด่ย เหมย” (Doi Moi)
หรือการปฏิรูปเศรษฐกิจไปสู่ “ระบบทุนนิยม”
และเริ่มใช้นโยบายเศรษฐกิจ ชื่อว่า “โด่ย เหมย” (Doi Moi)
หรือการปฏิรูปเศรษฐกิจไปสู่ “ระบบทุนนิยม”
ซึ่งหลังจากนั้นเศรษฐกิจโดยรวมก็ค่อย ๆ เติบโตขึ้น ส่งผลให้อุตสาหกรรมกาแฟในประเทศ ก็เริ่มกลับมามีชีวิต อีกครั้ง
ในขณะเดียวกัน รัฐบาลยังสนับสนุนให้คนหันมาปลูกกาแฟมากขึ้น
จนทำให้ปัจจุบัน เวียดนามกลายมาเป็นผู้ผลิตกาแฟ “โรบัสตา” อันดับ 1 ของโลก
โดยกาแฟกว่า 90% ที่ปลูกในเวียดนาม เป็นสายพันธุ์โรบัสตานั่นเอง
จนทำให้ปัจจุบัน เวียดนามกลายมาเป็นผู้ผลิตกาแฟ “โรบัสตา” อันดับ 1 ของโลก
โดยกาแฟกว่า 90% ที่ปลูกในเวียดนาม เป็นสายพันธุ์โรบัสตานั่นเอง
ซึ่งเรื่องนี้ ก็มีที่มาจากการที่ชาวเวียดนาม หันไปปลูกกาแฟสายพันธุ์ “โรบัสตา” กันเป็นจำนวนมาก
เนื่องจากปลูกง่ายกว่าสายพันธุ์อะราบิกา
และทนต่อศัตรูพืชและโรคต่าง ๆ
ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดูแลเยอะ
จึงทำให้ต้นทุนในการผลิตน้อยกว่า
เนื่องจากปลูกง่ายกว่าสายพันธุ์อะราบิกา
และทนต่อศัตรูพืชและโรคต่าง ๆ
ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดูแลเยอะ
จึงทำให้ต้นทุนในการผลิตน้อยกว่า
ยิ่งในช่วงปี 1990-1999
ผลผลิตกาแฟในเวียดนามเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ย 20-30% ต่อปี
ผลผลิตกาแฟในเวียดนามเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ย 20-30% ต่อปี
ซึ่งนี่ยังหมายถึง อุตสาหกรรมกาแฟได้สร้างรายได้ ให้กับเกษตรกรรายย่อยเพิ่มขึ้นไปด้วย เพราะเกิดการจ้างงานกว่า 2.6 ล้านคน ผ่านอุตสาหกรรมนี้
มากไปกว่านั้น เรื่องนี้ยังช่วยลดอัตราความยากจน (ประชากรที่มีรายได้ต่ำกว่า 200 บาท/วัน) จากปี 1992 อยู่ที่ 94.3% เหลือ 22.4% ในปี 2018
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเวียดนามยังได้มีการจัดตั้งสมาคมกาแฟและโกโก้เวียดนาม หรือ VICOFA ขึ้นมา
ซึ่งมีบทบาทช่วยภาครัฐในการพัฒนานโยบายต่าง ๆ และกระตุ้นให้เกิดเม็ดเงินการลงทุน ภายในอุตสาหกรรมกาแฟ ทั้งในระดับประเทศ และนานาชาติ ให้มากขึ้น
จนในปัจจุบัน เวียดนามกลายเป็นผู้นำ ส่งออกกาแฟรายใหญ่ อันดับ 2 ของโลก เป็นรองเพียงบราซิล ประเทศเดียว
โดยกาแฟจัดเป็น 1 ใน 6 สินค้าเกษตร ที่สร้างรายได้ต่อปีกว่า 100,000 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 3% ของ GDP ประเทศ และ 10% ของการส่งออกสินค้าเกษตร
ซึ่งผลผลิตกาแฟเวียดนาม จะถูกส่งออกไปกว่า 80 ประเทศทั่วโลก
โดยลูกค้ารายใหญ่ที่สุด ก็คือ สหภาพยุโรป
ซึ่งคิดเป็น 40% ของปริมาณผลผลิตกาแฟ ทั้งหมดของประเทศ
และรองลงมาเป็นสหรัฐอเมริกา, รัสเซีย, ญี่ปุ่น และสหราชอาณาจักร
ซึ่งคิดเป็น 40% ของปริมาณผลผลิตกาแฟ ทั้งหมดของประเทศ
และรองลงมาเป็นสหรัฐอเมริกา, รัสเซีย, ญี่ปุ่น และสหราชอาณาจักร
อย่างไรก็ตาม เวียดนามไม่ได้ให้ความสนใจเพียงแค่การเพิ่มผลผลิตกาแฟ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถ ในการส่งออกเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับการเพิ่มมูลค่ากาแฟด้วย
โดยในปี 2022 นี้ VICOFA ได้วางแนวทางในการยกระดับห่วงโซ่อุปทานกาแฟ เพื่อเพิ่มมูลค่าการส่งออกกาแฟให้เป็นสองเท่า หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 2 แสนล้านบาท ภายในปี 2030
ด้วยการปรับปรุงคุณภาพ เพิ่มการแปรรูปเมล็ดกาแฟ เช่น ส่งออกกาแฟคั่ว หรือกาแฟบดให้มากขึ้น พร้อมกับรุกตลาดต่างประเทศ ผ่านการใช้ประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรี สหภาพยุโรป-เวียดนาม หรือ EVFTA เพื่อเป็นการเปิดโอกาสใหม่ในการค้า และการลงทุนในตลาดกาแฟ
ด้วยการปรับปรุงคุณภาพ เพิ่มการแปรรูปเมล็ดกาแฟ เช่น ส่งออกกาแฟคั่ว หรือกาแฟบดให้มากขึ้น พร้อมกับรุกตลาดต่างประเทศ ผ่านการใช้ประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรี สหภาพยุโรป-เวียดนาม หรือ EVFTA เพื่อเป็นการเปิดโอกาสใหม่ในการค้า และการลงทุนในตลาดกาแฟ
อ่านมาถึงตรงนี้ เราคงเข้าใจถึงเหตุผลแล้วว่า อะไรคือปัจจัยที่ทำให้เวียดนาม ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำ ในการส่งออกกาแฟได้ ซึ่งคงจะสรุปได้สั้น ๆ ว่า
หลังการปฏิรูปเศรษฐกิจ ทำให้ระบบเศรษฐกิจของประเทศเวียดนาม มีเสรีในการค้า การลงทุนมากขึ้น รวมถึงภาครัฐ ได้หันมาให้ความสำคัญ กับภาคการเกษตร อย่าง “กาแฟ” ทั้งสนับสนุน ส่งเสริม และต่อยอดผลผลิต
จนในวันนี้ เวียดนาม ประเทศเล็ก ๆ เพื่อนบ้านของเรา ได้กลายมาเป็นผู้นำอันดับ 2 ในอุตสาหกรรม ส่งออกกาแฟ ระดับโลกไปแล้ว..
--------------------------------------------------------
(ad)กลุ่มบริษัทธนจิรากรุ๊ป เดินหน้าขยายธุรกิจหาญ เวลเนสแอนด์ฮอสพิทอลลิตี้ (HARNN Wellness & Hospitality) ครอบคลุมทั้งเวลเนสและสปาภายในประเทศและต่างประเทศในระดับ Regional สร้างให้แบรนด์ไทยเป็นที่รู้จักและสร้างความภูมิใจในระดับสากลรวมกว่า 16 สาขาทั่วภูมิภาค
https://www.facebook.com/TANACHIRA-GROUP-174055739828807/
#TANACHIRA #HARNN #SCapebyHARNN
https://www.facebook.com/TANACHIRA-GROUP-174055739828807/
#TANACHIRA #HARNN #SCapebyHARNN
--------------------------------------------------------
References:
-https://elevencoffees.com/top-coffee-producing-countries/
-https://www.aseanbriefing.com/news/opportunities-for-foreign-investors-in-vietnams-coffee-industry
-https://borgenproject.org/coffee-in-vietnam/
-https://km-ir.arts.tu.ac.th/files/original/0bd612982f619c2aa231035d5cfb8dc8178cb242.pdf
-https://helenacoffee.vn/vietnamese-coffee-history/#Turning_Point_1986
-https://www.visualcapitalist.com/worlds-top-coffee-producing-countries/
-http://www.vicofa.org.vn/country-coffee-profile-vietnam-bid385.html
-https://www.globalcoffeeplatform.org/country-platforms/vietnam/
-https://www.ft.com/content/927ba795-a741-3628-8fd5-d91feed3c512
-https://www.bbc.com/news/magazine-25811724
-https://www.macrotrends.net/countries/VNM/vietnam/poverty-rate
-https://vietnaminsider.vn/vietnam-is-the-worlds-second-largest-coffee-producer-and-exporter/
-https://visimex.com/vietnams-coffee-exports-ranked-second-in-the-world-and-the-disadvantage-of-raw-exports/
-https://elevencoffees.com/top-coffee-producing-countries/
-https://www.aseanbriefing.com/news/opportunities-for-foreign-investors-in-vietnams-coffee-industry
-https://borgenproject.org/coffee-in-vietnam/
-https://km-ir.arts.tu.ac.th/files/original/0bd612982f619c2aa231035d5cfb8dc8178cb242.pdf
-https://helenacoffee.vn/vietnamese-coffee-history/#Turning_Point_1986
-https://www.visualcapitalist.com/worlds-top-coffee-producing-countries/
-http://www.vicofa.org.vn/country-coffee-profile-vietnam-bid385.html
-https://www.globalcoffeeplatform.org/country-platforms/vietnam/
-https://www.ft.com/content/927ba795-a741-3628-8fd5-d91feed3c512
-https://www.bbc.com/news/magazine-25811724
-https://www.macrotrends.net/countries/VNM/vietnam/poverty-rate
-https://vietnaminsider.vn/vietnam-is-the-worlds-second-largest-coffee-producer-and-exporter/
-https://visimex.com/vietnams-coffee-exports-ranked-second-in-the-world-and-the-disadvantage-of-raw-exports/