ทำไม เชนร้านน้ำผลไม้ในประเทศไทย ถึงมีสาขาไม่เยอะเท่าเชนร้านกาแฟ /โดย ลงทุนเกิร์ล

หากลองเปรียบเทียบสัดส่วนของเชนร้านเครื่องดื่มในประเทศไทย จะพบว่าสัดส่วนของเชนร้านกาแฟ มีมากกว่าเชนร้านน้ำผลไม้อย่างเห็นได้ชัด

หรือเริ่มจากการสังเกตร้านค้าในห้างสรรพสินค้าสักแห่งหนึ่งที่อยู่ใจกลางเมือง เต็มไปด้วยร้านอาหารและเครื่องดื่มที่ครบครัน เช่น เซ็นทรัลเวิลด์

ซึ่งหากดูจากข้อมูลแล้ว จะพบว่าภายในห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ มีร้านกาแฟมากกว่า 15 ร้าน ในขณะที่มีร้านขายน้ำผลไม้โดยเฉพาะ แค่เพียง 6 ร้านเท่านั้น

หลายคนคงสงสัยว่า เพราะอะไรเชนร้านน้ำผลไม้ในประเทศไทย ถึงมีการขยายสาขาไม่เยอะเท่าเชนร้านกาแฟ ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง

ต้องบอกว่า ถึงแม้ในช่วงไม่กี่ปีหลังมานี้ เทรนด์อาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพจะมาแรง และส่งผลให้ผู้บริโภคเริ่มหันมาดื่มน้ำผลไม้สดกันมากขึ้น

ทำให้เชนร้านขายน้ำผลไม้สกัดเย็น หรือน้ำผลไม้ปั่นเกิดขึ้นมากมายในประเทศไทย เช่น Lele Juice Bar, Farmacy By Mad About Juice หรือ PAAK

แต่ด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ก็ส่งผลให้เชนร้านน้ำผลไม้ในประเทศไทย ยังมีการขยายสาขาน้อยกว่าเชนร้านกาแฟ ซึ่งเหตุผลหลัก ๆ ก็คือ

1.ผลไม้เป็นวัตถุดิบที่ควบคุมยาก

เนื่องจากผลไม้สด เป็นวัตถุดิบที่ไม่สามารถเก็บไว้ได้นาน ๆ เพราะจะเกิดการเน่าเสีย และอาจส่งผลกระทบต่อต้นทุนที่ต้องเสียไปฟรี ๆ

เช่น ผลไม้ยอดนิยมในการนำมาทำน้ำผลไม้ อย่างตระกูลเบอร์รีหรือกล้วย ที่ควรบริโภคภายใน 1-3 วัน เพราะเป็นผลไม้ที่เหี่ยวง่ายที่สุด

หรือกระทั่งผลไม้ที่สามารถอยู่ได้นานกว่า เช่น แอปเปิล, สับปะรด หรือฝรั่ง ก็มีอายุเพียงแค่ 5-7 วันเท่านั้น

รวมถึงข้อจำกัดของผลไม้บางชนิด ที่ถ้าสุกหรือดิบเกินไป ก็ไม่สามารถนำมาใช้ได้เช่นกัน

ในทางกลับกัน เมล็ดกาแฟคั่วบดที่ยังไม่ได้เปิดถุง จะสามารถเก็บได้นานกว่าผลไม้สด โดยมีอายุประมาณ 1-2 สัปดาห์ ซึ่งมีอายุมากกว่าผลไม้บางชนิดหลายเท่า

แน่นอนว่า วัตถุดิบหลักเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นอันดับต้น ๆ ในการทำธุรกิจ จึงอาจทำให้ร้านน้ำผลไม้ไม่ใช่ตัวเลือกอันดับแรก ๆ สำหรับคนที่อยากทำธุรกิจเครื่องดื่ม

2.คนไทยส่วนใหญ่มองว่า น้ำผลไม้สามารถหาซื้อที่ไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องซื้อกับเชนร้านน้ำผลไม้ดัง ๆ

ต้องบอกว่า เชนร้านน้ำผลไม้ส่วนใหญ่ มักจะตั้งอยู่ตามทำเลที่มีราคาสูง เช่น ห้างสรรพสินค้า ส่งผลให้ราคาของน้ำผลไม้สูงตามไปด้วย

เช่น Boost เชนร้านน้ำผลไม้สัญชาติออสเตรเลีย ที่ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน ที่ขายทั้งน้ำผลไม้และสมูทที มีราคาอยู่ที่ 80-160 บาทต่อแก้ว

ซึ่งน้ำผลไม้ราคานี้ ถือว่ามีราคาสูง เมื่อเทียบกับร้านน้ำผลไม้ทั่วไปตามท้องตลาด ที่มีผลไม้นานาชนิดให้เลือก รวมถึงรสชาติที่อาจจะไม่ได้แตกต่างกัน โดยมีราคาอยู่ที่ประมาณแก้วละ 30-50 บาทเท่านั้น

ทำให้คนที่ดื่มน้ำผลไม้เป็นประจำ จึงเลือกที่จะซื้อน้ำผลไม้ตามท้องตลาดในราคาที่ถูกกว่า หรือเลือกที่จะซื้อผลไม้สด กลับไปคั้นเองที่บ้าน มากกว่าซื้อจากเชนร้านน้ำผลไม้ดัง ๆ

3.กาแฟ เป็นเครื่องดื่มที่สามารถดื่มได้ทุกวัน ถึงขั้นที่บางคนมองว่า กาแฟคือสิ่งที่ขาดไม่ได้

จะเห็นได้ว่า ตามสำนักงาน หรือย่านออฟฟิศ จะมีร้านกาแฟเปิดให้เลือกซื้อกันเป็นแถว ตั้งแต่กาแฟรถเข็น, ร้านกาแฟขนาดเล็ก ไปจนถึงเชนร้านกาแฟใหญ่ ๆ

นั่นก็เพราะ กาแฟเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหมู่คนทำงาน และเป็นเครื่องดื่มที่หลายคน ต้องแวะซื้อก่อนเข้าทำงานทุกเช้า

เนื่องจากคุณสมบัติของกาแฟ ที่มีกาเฟอีน ช่วยให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า, ลดอาการง่วงซึม หรือกระทั่งทำให้มีสมาธิในการทำงาน ส่งผลให้ใครที่ได้เข้าวงการกาแฟแล้ว จะถอนตัวออกได้ยาก เพราะจะต้องดื่มทุกวัน

ซึ่งนี่ก็อาจเป็นอีกเหตุผลหนึ่ง ที่ทำให้เชนร้านกาแฟ มีสาขามากกว่าเชนร้านน้ำผลไม้นั่นเอง

ในทางกลับกัน น้ำผลไม้อาจไม่ได้รับความนิยมเท่ากับกาแฟ เพราะหลายคนมองว่า น้ำผลไม้มีน้ำตาลสูง หรือผู้บริโภคอาจมองว่าวิตามินในน้ำผลไม้ ก็สามารถหาจากผักและผลไม้ที่อยู่ในมื้ออาหารได้เช่นกัน

4.ร้านกาแฟ กลายเป็นสถานที่ที่คุ้นเคยสำหรับคนไทย

หากลองสังเกตบทสนทนารอบตัว จะพบว่า เมื่อไรที่มีการนัดคุยงาน หรือการพบปะกับเพื่อน ๆ หลายคนมักจะเลือกสถานที่เป็นร้านกาแฟ

นั่นเป็นเพราะว่า การดื่มกาแฟกลายเป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่ง ที่มักจะอยู่ในตารางทั้งในวันหยุด และวันทำงาน จนกลายเป็นสถานที่ที่คุ้นชินสำหรับทุกคนก็ว่าได้

นอกจากนี้ร้านกาแฟส่วนใหญ่ ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้พร้อม ไม่ว่าจะเป็นที่นั่งสบาย ๆ, สิ่งแวดล้อมที่เหมาะกับการพูดคุย หรือเต็มไปด้วยอาหารและเครื่องดื่มพร้อมเสิร์ฟ

เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ อาจตอบคำถามได้ว่า ทำไมเชนร้านน้ำผลไม้ ถึงมีสาขาไม่เยอะเท่าเชนร้านกาแฟ

ซึ่งสามารถสรุปสั้น ๆ ได้ว่า เป็นเพราะวัตถุดิบที่ยากต่อการควบคุม, ความนิยม รวมไปถึงราคา ที่อาจไม่ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ของคนไทย

จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เชนร้านน้ำผลไม้ อาจมีการขยายสาขาไม่เยอะเท่าเชนร้านกาแฟนั่นเอง..

Sponsored by JCB

ออมเงินได้มากขึ้น กับสิทธิประโยชน์จาก JCB กว่า 100 ร้านค้าได้ทุกวันตลอดทั้งปี ที่ร้านอาหารชั้นนำ แพลตฟอร์มสั่งอาหาร ส่วนลดการจองที่พัก การชำระเงินรูปแบบ e-wallet บริการรถเช่า ประกันการเดินทาง Pocket WiFi และส่วนลดจากร้านค้าชั้นนำอีกมายมายทั้งหน้าร้านและแพลตฟอร์มออนไลน์ พิเศษสำหรับลูกค้าบัตรเครดิต JCB เท่านั้น www.facebook.com/JCBCardThailandTH และ LINE Official Account : @JCBThailand (https://bit.ly/JCBTHLine)

#JCBใช้ได้ทุกที่ทุกเวลา #JCBThailand #JCBOwnHappinessOwnStory

References:
-https://goodlifeupdate.com/lifestyle/202652.html
-https://www.bluekoff.com/Article.aspx?m=view&cat=&id=113