ทำไม Spam อาหารที่ถูกมองว่าไม่มีคุณค่า กลับได้รับความนิยมในเกาหลีใต้ ?
Food

ทำไม Spam อาหารที่ถูกมองว่าไม่มีคุณค่า กลับได้รับความนิยมในเกาหลีใต้ ?

3 ต.ค. 2021
ทำไม Spam อาหารที่ถูกมองว่าไม่มีคุณค่า กลับได้รับความนิยมในเกาหลีใต้ ? /โดย ลงทุนเกิร์ล
รู้หรือไม่ เกาหลีใต้ คือ ผู้บริโภคแฮมกระป๋อง Spam มากที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ของโลก
รองจากสหรัฐฯ เพียงประเทศเดียว
แล้วทำไม Spam ถึงกลายมาเป็นที่นิยมในเกาหลีใต้ ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
ก่อนอื่น เรามาทำความรู้จักกับ Spam และต้นกำเนิดของแบรนด์ กันสักเล็กน้อยนะคะ
Spam ถือกำเนิดขึ้นที่สหรัฐฯ เมื่อ 84 ปีก่อน ซึ่งถือเป็นช่วงที่ประเทศ กำลังประสบปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ หรือ Great Depression
และแน่นอนว่า เมื่อเกิดปัญหาเศรษฐกิจขึ้น ปัญหาที่ตามมาอย่างแรก ก็คงจะเป็นเรื่องปากท้อง
ดังนั้นคุณ Jay Hormel ซึ่งเป็นลูกชายของผู้ก่อตั้งบริษัท Hormel
จึงเกิดไอเดียในการนำเนื้อหมูส่วนที่ปกติคนจะไม่นิยมบริโภคมาใช้ทำเป็น “แฮมกระป๋อง” และเกิดเป็น Spam ขึ้นมา
โดยในช่วงแรก ๆ Spam จะทำโฆษณาไปที่กลุ่มแม่บ้าน ที่ต้องการอาหารราคาถูก และสะดวกต่อการนำไปขึ้นโต๊ะอาหาร
แต่ต่อมาในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
Spam ก็ได้กลายเป็นอาหารหลักของ “ทหารอเมริกัน” ซึ่งนอกจากสหรัฐฯ จะส่งทหารออกไปรบในหลายประเทศแล้ว พวกเขายังได้ส่ง Spam ออกไปเป็นเสบียงให้เหล่าทหารอีกกว่า 100 ล้านกระป๋อง
พออ่านมาจนถึงตรงนี้ เราอาจเริ่มสงสัยว่า Spam เริ่มเข้ามาในเกาหลีตั้งแต่เมื่อไร ?
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง โลกก็เริ่มเข้าสู่ช่วงสงครามเย็น
และ “สงครามเกาหลี” ก็คือ หนึ่งในผลพวงที่เกิดขึ้นจากสองขั้วมหาอำนาจ ที่เข้ามาทำสงครามตัวแทน ผ่านความขัดแย้งในประเทศเกาหลี
ซึ่งทหารอเมริกัน ก็ได้เข้ามาร่วมรบในสงครามครั้งนี้เช่นกัน
และแน่นอนว่าสิ่งที่พวกเขาพกมาด้วยก็คือ Spam นั่นเอง
ประกอบกับสถานการณ์ในเกาหลีขณะนั้น ที่ประสบปัญหาขาดแคลนอาหาร โดยเฉพาะอาหารจำพวกโปรตีนอย่างเนื้อสัตว์ ทำให้ผู้คนต้องใช้สิ่งที่พวกเขาหาได้ เพื่อทำอาหาร และหนึ่งในนั้นก็คือ Spam ที่ถูกลักลอบนำเข้ามา
โดยหนึ่งในเมนูที่ Spam ถูกนำไปใช้เป็นวัตถุดิบ ก็คือ “พูแดจีแก” หรือ “สตูกองทัพ” ซึ่งมีที่มาจากการนำเอาวัตถุดิบที่เหลือ จากกองทัพสหรัฐฯ มาทำ
ซึ่งคุณ Ho Gi-suk ที่อ้างตัวว่าเป็นผู้คิดค้นพูแดจีแก ได้เล่าว่า
ตอนนั้น ไม่มีอาหารอะไรจะให้เลือกมากนัก และวิธีเดียวที่จะหาเนื้อสัตว์มาทานได้ ก็คือ การลักลอบนำเข้าจากฐานทัพสหรัฐฯ ที่อยู่ในเกาหลี
โดยเธอได้ใช้อาหารที่ทหารอเมริกันทิ้งไว้ อย่าง Spam และวัตถุดิบอื่น ๆ ที่หาได้มาใส่ในน้ำซุปรสเผ็ดสไตล์เกาหลี และหลังจากนั้นไม่นาน สูตรนี้ก็แพร่กระจายไปทั่วเกาหลี
แม้ว่าในตอนนี้ สงครามจะจบลงไปนานแล้ว จนเกาหลีใต้จะกลายมาเป็นประเทศพัฒนา และไม่มีปัญหาขาดแคลนอาหารแล้วก็ตาม
แต่ Spam ก็ยังคงได้รับความนิยมจากชาวเกาหลีอยู่ไม่น้อย ซึ่งนอกจากเมนูพูแดจีแกแล้ว Spam ยังถูกนำมาประยุกต์ทำอาหารเกาหลีฟิวชันอีกหลากหลายชนิด
และถ้าหากใครที่มีโอกาสได้ชิม Spam ที่วางขายในเกาหลีใต้ ก็อาจจะรู้สึกว่ารสชาติไม่เหมือนกับที่วางขายในสหรัฐฯ
ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นเพราะว่า Spam ในเกาหลีใต้จะถูกผลิตโดย CJ CheilJedang บริษัทอาหารยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ ทำให้รสชาติของ Spam ที่วางขายในเกาหลีใต้นั้นมีรสชาติที่ถูกปากชาวเกาหลีมากขึ้นนั่นเอง
ที่น่าสนใจ คือ มุมมองต่อ Spam ของผู้บริโภค ในประเทศต้นกำเนิดอย่างสหรัฐฯ กับเกาหลีใต้ ยังมีความแตกต่างกันอย่างลิบลับ
สำหรับในสหรัฐฯ Spam มักจะถูกมองว่าเป็นอาหารสมัยสงคราม และเป็นอาหารไม่มีประโยชน์ แถมยังมีปริมาณโซเดียมสูงลิ่ว
แต่สำหรับในเกาหลีใต้ Spam กลับเป็นหนึ่งในของขวัญยอดฮิตที่หลาย ๆ คนชอบซื้อให้กันในเทศกาลชูซ็อก (Chuseok) และโอกาสอื่น ๆ ถึงขนาดที่ว่า Spam จะต้องทำแพ็กเกจจิงเป็นเซตกล่องของขวัญผูกโบไว้เตรียมรอลูกค้าเลยทีเดียว
ซึ่งยอดขายเซตของขวัญนี้ ยังคิดเป็นยอดขายกว่าครึ่งหนึ่งของยอดขาย Spam ทั้งหมดในเกาหลีใต้อีกด้วย..
ไม่น่าเชื่อว่า จากอาหารที่ถูกมองว่าเป็นของไม่มีราคา และไม่มีคุณค่าทางอาหาร จะกลายเป็นของขวัญแทนน้ำใจ ที่คนให้คุณค่า ในสายตาของคนอีกกลุ่ม
เรื่องนี้คงเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่า
ถ้าสินค้าเรายังไม่ได้เป็นที่ต้องการ อาจไม่ใช่ว่าสินค้าเราไม่ดีพอ
เพียงแค่อาจจะยังไม่เจอกลุ่มลูกค้าที่ใช่ ก็เป็นได้..
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.