คุยกับคุณณัฎฐา Double V Group พลิกโลกอสังหาฯ ด้วยเทคนิคดีไซน์ Inside - Out
Business

คุยกับคุณณัฎฐา Double V Group พลิกโลกอสังหาฯ ด้วยเทคนิคดีไซน์ Inside - Out

1 มิ.ย. 2024
Double V Group x ลงทุนเกิร์ล
“แก่นของธุรกิจนี้ ไม่ใช่แค่การสร้างงานดีไซน์เท่านั้น แต่มันคือ สร้างความสุข สร้างความภาคภูมิใจ
เรากำลังสร้างความฝัน ความทะเยอทะยานของใครบางคน ให้เกิดขึ้นจริง ๆ
บางคนกำเงินก้อนสุดท้ายมาหาเรา เพราะอยากทำร้านอาหาร อยากสร้างบ้านสร้างครอบครัวใหม่
เราดีใจที่ได้เป็นแกนหลัก ที่ได้ celebrate something NEW all the time”
ไม่น่าเชื่อว่าในโลกที่หลายคนมองว่า “ความสุข” หายากขึ้นเรื่อย ๆ
คุณจือ กลับกลายเป็นการนำเรื่อง “ความสุข” มาเริ่มต้นธุรกิจ แถมเผลอแป๊บเดียวจะครบรอบ 10 ปีแล้ว
ลงทุนเกิร์ล มีโอกาสพูดคุยกับคุณจือ - ณัฎฐา สุนทรวิเนตร์ Founder ของ Double V Space Interior Studio ที่โด่งดังในวงการอินทีเรียและ President ของ Double V Group
ได้พูดถึงมุมมองการทำธุรกิจ ที่เริ่มต้นจาก Solo Interior Designer มาสู่วงการเจ้าแม่วงการ Interior
และล่าสุดที่กำลังจะก้าวไปสู่ธุรกิจ Real Estate Development
ที่สำคัญยังนำพา Double V Space Interior Studio กลายเป็นแบรนด์คนไทย ที่ไปคว้ารางวัลระดับโลกด้าน Luxury Interior Design อีกด้วย
อะไรกันที่ซ่อนอยู่ ในเบื้องหลังความสำเร็จ ตลอดเส้นทาง 10 ปี ?
แล้วในอนาคต เธอจะเดินทางไปสู่จุดหมายใดต่อไป ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
คุณณัฎฐา เล่าถึงจุดเริ่มต้นเส้นทางชีวิตของเธอว่า
“คุณแม่อยากมีลูกสาวที่มี Creative mind เลยส่งไปลองชิมลางคณะสถาปัตย์ ตั้งแต่ม.2
ช่วงที่ติวหนังสือสอบเข้าคณะสถาปัตย์ ก็เจอโจทย์ที่ให้ออกแบบบ้าน เพื่อให้คนในบ้านหย่ากัน หรือโจทย์ที่ให้สร้างห้องน้ำให้สำหรับคนพิการ
ตอนนั้นเซอร์ไพรส์ว่า งานออกแบบสามารถมี Impact ต่อผู้คนได้ขนาดนั้นเลยหรอ”
จุดประกายนี้เอง ที่ทำให้เธอตัดสินใจเข้าสู่วิชาชีพ Interior Designer แบบเต็มตัว
และพบว่าจริง ๆ แล้วงานดีไซน์คือ การกำหนดและแก้ไขปัญหาที่เป็นโจทย์ของชีวิตนั้น ๆ ไม่ต่างไปจากโจทย์ทางจิตวิทยา
“ลองสังเกตดูนะ สวนสาธารณะที่ดีจะสร้าง Impact ต่อสังคมในเมืองนั้น ๆ ได้ เราสามารถออกแบบไลฟ์สไตล์ใหม่ ๆ ของผู้คนได้จริง ๆ จากงานออกแบบที่ดี เช่น ทำสถานที่ให้คนอยากออกมาเดิน อยากมาออกกำลังกาย
เช่นเดียวกับ การสร้างช่วงเวลาภายในครอบครัว เราสามารถออกแบบพื้นที่ส่วนกลางให้กว้างขวาง อยู่สบาย สามารถดู TV ร่วมกันได้
การออกแบบที่ดี สามารถกระชับความสัมพันธ์สมาชิกในครอบครัว แทนที่จะต่างคนต่างอยู่ แยกเข้าห้องใครห้องมัน”
ไม่ใช่แค่เรื่องของเสน่ห์ในการออกแบบไลฟ์สไตล์ผู้คน
แต่อีกหนึ่งเหตุผล ที่เธอยอมมอบชีวิตให้กับวิชาชีพนี้ ก็คือ ความสนุกที่ได้เรียนรู้ตลอดเวลา
คุณณัฎฐา เล่าว่า “แค่เราเดินผ่านอะไรใหม่ ๆ ก็มักจะได้ Input ใหม่ ๆ เข้ามาต่อยอดไอเดียอยู่เสมอ
เพราะแต่ละสถานที่ก็มีรายละเอียดการออกแบบที่ต่างกัน มีที่มาที่ไปของดีไซน์ต่างกัน การเรียนรู้มันเลยไม่มีวันจบ
เรามองว่าทั้งโลกนี้ เป็น Library ของเราได้เลย
ยิ่งเจอผู้คนเยอะ ๆ เราก็ได้เรียนรู้เรื่องราวที่ผ่านประสบการณ์ของเขาด้วย
อย่างลูกค้าจือที่จะสร้างบ้านสักหลัง เขาจะเล่ามาหมดเลยว่าเคยเจออะไรมาบ้าง
เพราะเขาอยากให้บ้านเป็นพื้นที่ที่รวบรวมความประทับใจจากทั่วทุกมุมโลกที่เขาเคยไป
แล้วเราก็เหมือนได้ท่องโลกไปพร้อม ๆ กับเขา”
เธอยอมรับว่า ความสนุกจากการทำงานด้วยความสุข ไปพร้อม ๆ กับการเรียนรู้นี้เอง
ที่ทำให้เธอยืนระยะการเป็น Solo Interior Designer ได้ระยะหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม เมื่อธุรกิจของเธอเริ่มแผ่กิ่งก้านเติบโต..
จากทำงานคนเดียวในปีแรก ปัจจุบันเธอใช้เวลา 80% ไปกับการบริหารทีม เพื่อ Drive team เกือบ 30 คนและตั้งใจออกแบบวัฒนธรรมองค์กรที่ทำให้ทีมทำงานด้วยความสุขในทุก ๆ วัน
คุณณัฎฐา เล่าว่า “เมื่อเราต้องทำบ้านหลายหลัง การลงรายละเอียดในการทำบ้านนั้นสำคัญมาก
จึงจำเป็นต้องมีทีมลงรายละเอียด มี Project Manager มาควบคุมงานอีกชั้นหนึ่ง
และจือต้องยอมถอยมายืนในจุดที่ดูภาพใหญ่แทน เราเชื่อว่าการทำงานต้องมีตัววัดผลชัดเจน เพื่อให้งานออกไปอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
กฎเหล็กของบริษัทคือ ทุกชิ้นงานของ Double V เป็นเครดิตผลงานของทุกคน ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง
เราตั้งใจให้ Double V เป็นจุดรวมของคนเก่ง ที่ทุกคนจะได้เรียนรู้ไปพร้อม ๆ กัน
และวิธีที่ที่จะรักษาคนเก่งไว้ เราต้องทำให้ทีมรู้สึกว่าอยู่ที่นี่แล้ว เขาได้เติบโต ไม่ทางปัญญา ก็ทางตำแหน่ง ต้องเติบโตด้านใดอย่างน้อยหนึ่งด้านแน่นอน”
ถึงตรงนี้ต้องยอมรับว่า กลยุทธ์การบริหารทีมไปพร้อม ๆ กับการรักษามาตรฐานนี้เอง ทำให้ปัจจุบัน Double V ขยายทีมอย่างต่อเนื่อง มีแผนจะแตะ 40 คนภายในปี 2568
ที่สำคัญ ผลลัพธ์ของแบรนด์ยังไปเตะตาวงการ Interior Designer ระดับโลก
คุณณัฎฐา เล่าว่า “เราทำงานตรงหน้าให้ดีที่สุด ส่วนรางวัลระดับโลกเป็นผลพลอยได้
ออฟฟิศเราทำงานกันอยู่ที่กรุงเทพฯ แต่ที่นิวยอร์กกลับมองเห็นผลงานเรา ที่มิลานเห็นเรา ที่อังกฤษ ก็เห็นเรา
ทำให้มั่นใจเลยว่า ถ้าทำให้ทุก ๆ งานออกมาดีมากพอ Action louder than Word เป็นเรื่องจริง”
มุมมองนี้เองที่ทำให้ Double V ติดอันดับ TOP 100 Architect & Designer of the World จาก Luxury Lifestyle Award, New York 2 ปีซ้อน
แถมปีนี้ยังได้เซ็นสัญญาเป็น Designer Partner กับทาง Insubriae Contract Couture (ICC) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ อีกด้วย
ซึ่งก็ดูเหมือนว่า มาตรฐานของ Double V จะเข้าไปอยู่ในระดับสากลเรียบร้อยแล้ว
ทีนี้ ลองมาดูความสำเร็จทางฝั่งลูกค้ากันบ้าง..
คุณณัฎฐา เล่าว่า “80% มาจาก Word of Mouth และอีก 20% มาจากโลกอินเทอร์เน็ต
ซึ่งทุกผลงานกลายเป็น Showcase โดยที่เราไม่ต้องสร้าง Showroom เลย
การบอกต่อกัน มันทวีคูณขนาดที่ว่า เราไม่ต้องทำการตลาดอะไรเลย
เราแค่รักษามาตรฐานการทำงาน และพัฒนามาตรฐานของเราให้สูงขึ้นเรื่อย ๆ ก็เท่านั้นเอง”
ส่วนใหญ่ลูกค้าของ Double V จะเป็นต่างชาติที่ซื้อ Asset ในประเทศไทย บนความเข้าใจและการให้มูลค่าในงานดีไซน์
ซึ่งตลาดคนไทย ก็เริ่มจะหันมาให้ความสำคัญและลงทุนกับงานดีไซน์มากขึ้น
คำถามก็คือ แล้วทำไมจากธุรกิจ Interior Studio ถึงขยายไปสู่ Real Estate Development ?
คุณณัฎฐา เล่าว่า “หลังวิกฤติโรคระบาด เราใช้เวลาในการปรับนานกว่า 5 เดือน
ซึ่งเป็นช่วงที่เหมาะเจาะพอดีกับ Demand ตลาดอสังหาฯ ที่ย้ายจากกลุ่มคอนโด ฯ มาเป็นแนวราบที่ถนัด
Pain Point ที่พบก็คือ ทำไมบ้านจัดสรรที่มีในตลาดไม่ตอบโจทย์ 100% กับลูกบ้านเลย
ลูกค้าต้องมานั่งต่อเติมครัวไทยเอง ต้องมาแก้งานระบบเพิ่ม ต้องมีการทุบรวมห้อง จนเราสงสารบ้านมาก ๆ บ้านช้ำตั้งแต่ยังไม่ได้เข้าอยู่เลย
เราเลยเห็นช่องว่างในตลาดเยอะมากในฐานะ Interior Studio ที่ต้องแก้ปัญหาของบ้านซ้ำ ๆ ให้กับลูกค้าหลาย ๆ เจ้า และรู้สึกว่านี่เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุสุด ๆ
เราเชื่อว่าบ้านที่ดี ควรสร้างจาก Inside-Out มากกว่า Outside-In
ตั้งโจทย์จาก Lifestyle คนอยู่จริง ๆ และนี่คือการนำจุดแข็งมาเป็นโจทย์ตั้งต้น ทำให้เราแตกต่างจากโครงการบ้านอื่น ๆ ”
ส่วนเรื่องฮวงจุ้ย เป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม..
คุณณัฎฐา เล่าว่า “เรานับซินแสเป็นหนึ่งในลูกค้าที่มีอิทธิพลมากในโจทย์บ้านทุกหลัง
ซินแสที่เก่งจะแก้ปัญหาให้เราได้เลย มีเซนส์ของ Architect ที่ถามกี่รอบก็ยังคำตอบเดิม นั่นคือ ความ Professional
เชื่อหรือไม่ว่า เรา Option ซินแสให้เลือกด้วย เพราะแม้ว่าลูกค้าจะไม่เชื่อตอนสร้างบ้านแรก ๆ
แต่เมื่อเราอยู่เมืองไทย มักจะมีใครสักคนในครอบครัวลูกค้าที่เชื่อเสมอ ฉะนั้นจบตั้งแต่ต้นไปเลยจะดีที่สุด”
ด้วยประสบการณ์ Interior ที่ทำมาตลอดทศวรรษ
เมื่อตกตะกอนกลายเป็นความเข้าใจในความต้องการของคนที่อยากมีบ้าน
เธอจึงขยายอาณาจักรเป็น Double V Group เพื่อรองรับงานด้าน Developer เข้ามาด้วย
ถ้าใครมีแปลงที่ดินส่วนตัว จะให้บริการรับสร้างบ้านที่เริ่มต้น 15 ลบ. ด้วยจุดเด่น Inside out ที่มาจากไลฟ์สไตล์ผู้อยู่อาศัยจริง ๆ
ขณะเดียวกัน เธอเองยังค้นหาที่ดินมากกว่า 100 แปลง ตลอดปีที่ผ่าน
เพื่อคัดเลือกแปลงที่ดินที่ดีที่สุดมาพัฒนาโครงการไว้รองรับลูกบ้านที่ไม่มีแปลงที่ดินส่วนตัว
ความภูมิใจล่าสุดคือ โครงการแนวราบที่เอกมัย 18 หลัง บนแปลงที่ดิน 4 ไร่
ที่สวยมาก ๆ เรียกได้ว่าเป็น Prime location คือขับรถเพียง 5 นาทีถึงทองหล่อ 5 นาทีถึงโรงเรียนนานาชาติ St. Andrews ทั้งสอง Campus
คุณณัฎฐา เล่าว่า “เราอยู่ในทำเลคอนโดมิเนียม แต่เราสร้างโครงการแนวราบ 54-70 ตารางวา
พื้นที่ใช้สอย 350-550 ตารางเมตร ที่จอดรถ 4 คัน ห้องนอน 3 ห้อง ไม่รวมห้องนอน Maid
เพียงพอสำหรับสมาชิกอย่างต่ำ 5 คน
เพราะอยากตอบโจทย์วิถีชีวิตของเขามากกว่า ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตให้เขา
คนกลุ่มนี้ เขาอาจจะมีบ้านริมน้ำ มีบ้านนอกเมืองขนาดใหญ่ แต่ที่นี่จะเป็นบ้าน Weekday ของเขา”
ที่น่าตื่นเต้นไปมากกว่านั้นโครงการในอนาคตที่ Double V Group วาดภาพไว้
คือ การเป็น Wellness และ Nursing Home ภายใต้ Concept Business ที่ว่า “การเป็นลูกที่ดี”
โดยเธอเองเป็น Inside Persona ในเรื่องนี้ จากการดูแลแม่ที่ป่วยอัมพาต กึ่งติดเตียง
คุณณัฎฐา เล่าว่า “เราอยากทำหมู่บ้าน ที่ไม่ใช่เพียงแค่หมู่บ้าน
แต่อยากทำบ้านที่พร้อมสำหรับคนเกษียณหรือ Early Retire มีระบบรักษาความปลอดภัย มีนิติบุคคลเป็นพยาบาล มีหมอประจำบ้าน
โครงการแรกจะเป็น Wellness ที่จังหวัดภูเก็ต
และวาง Target หลักเป็นชาวต่างชาติที่ Retire มาอยู่ไทย และเลือกที่จะมาอยู่ภูเก็ต”
ซึ่งในอนาคตวางแผนขยาย 3 โลเคชันหลักคือ ภูเก็ต, เชียงใหม่ และกรุงเทพฯ เพื่อให้ลูกค้าสามารถ Time Sharing ย้ายเมืองได้ตามความต้องการ
ที่สำคัญ เราตั้งใจจะทำในพื้นที่ที่ทางเรามั่นใจว่าสามารถดูหน้างานรักษามาตรฐานได้จริง
โดยต่อยอดด้วย Connection ที่มีลูกค้าของ Double V มากกว่า 50% เป็นกลุ่มคุณหมอ
คุณณัฎฐา เล่าว่า “หลายคนรู้แล้วว่า ตัวเองต้องสำรองเงินไว้ใช้ยามเกษียณ
แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าแล้วต้องทำยังไงต่อกับเงินก้อนนั้น เราจะฝากชีวิตบั้นปลายของเราไว้กับใครได้บ้าง
Double V Group เลยอยากให้ทุกคนรู้สึกว่า เราปลอดภัย อุ่นใจ และวางใจได้ในอนาคต
ชนิดที่ว่าเลือกเลยว่าอยากใช้รถตู้อะไรไปโรงพยาบาล อยากนอนเตียงแบบไหน Wheelchair แบบไหน ในช่วงสุดท้ายของชีวิตเรา”
ซึ่งนั่นจะกลายเป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ของ Double V Group และเพิ่มฐานลูกค้าอย่างมหาศาล
ทุกบริการจะเข้ามารองรับ Demand ที่กำลังมากขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคต
คุณณัฎฐา ยังกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า..
“Double V Group อยากเป็นแบรนด์ที่แข็งแรงทั้งด้าน Interior และด้าน Home Solution สำหรับกลุ่ม New Money & Early Retire ซึ่งเป็นกลุ่มที่กำลังซื้อจริง ๆ
เราสร้างหมู่บ้าน เพื่อสร้าง Community ของผู้คนที่มีคุณภาพมาอยู่ด้วยกัน
เราสร้างบ้าน เพื่อสร้างสังคมที่เล็กที่สุด ก็คือครอบครัว
ซึ่งเราตั้งใจจะสร้างไปด้วยใจ ไปด้วยคุณภาพ ที่ทุกคนฝากชีวิตไว้กับเราได้”
Reference
- สัมภาษณ์โดยตรง คุณณัฎฐา สุนทรวิเนตร์ President ของ Double V Group
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.