ทำไม โมกุ โมกุ แบรนด์เครื่องดื่มของไทย ฮิตในเกาหลีใต้
Business

ทำไม โมกุ โมกุ แบรนด์เครื่องดื่มของไทย ฮิตในเกาหลีใต้

4 ต.ค. 2023
ทำไม โมกุ โมกุ แบรนด์เครื่องดื่มของไทย ฮิตในเกาหลีใต้ /โดย ลงทุนเกิร์ล
เชื่อว่าใครหลายคนคงต้องเคยดื่ม หรืออย่างน้อยก็ต้องเคยเห็น แบรนด์เครื่องดื่มน้ำผลไม้ผสมวุ้นมะพร้าว “โมกุ โมกุ”
ซึ่งเครื่องดื่มแบรนด์นี้ เคยได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว
กระทั่งในปี 2010 บริษัทผู้ผลิตได้ประกาศอำลา ว่าจะเลิกผลิต โมกุ โมกุ
เหตุการณ์นี้ทำเอาแฟน ๆ หลายคนใจหาย และแอบเสียดายกัน
แต่ที่จริงแล้ว โมกุ โมกุ ไม่ได้หายไปไหน เพียงแต่แตกแบรนด์ใหม่ออกมาเป็น “กุมิ กุมิ by โมกุ โมกุ” เพื่อทำตลาดในประเทศไทยโดยเฉพาะ
ส่วน โมกุ โมกุ นั้นได้ขยับตัวเองไปเป็นแบรนด์อินเตอร์ ที่เน้นทำตลาดต่างประเทศ
ที่น่าสนใจคือ โมกุ โมกุ ในประเทศเกาหลีใต้ นั้นฮิตระเบิด
ถึงขนาดที่ว่ากลายเป็นแบรนด์เครื่องดื่มยอดนิยมเบอร์ต้น ๆ ในกลุ่มน้ำผลไม้
แล้ว โมกุ โมกุ ทำอย่างไร ถึงสามารถเอาชนะใจผู้บริโภคชาวเกาหลีใต้ได้ ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
โมกุ โมกุ เป็นแบรนด์ในเครือของบริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE ที่ดำเนินธุรกิจผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่ม
ซึ่งนอกเหนือจากแบรนด์ โมกุ โมกุ แล้ว
SAPPE ยังเป็นเจ้าของอีกหลายแบรนด์ที่เราคุ้นเคย เช่น เซ็ปเป้ บิวติ ดริ้งค์, ออล โคโค, เพรียว คอฟฟี่, บลู ซี และอื่น ๆ
โดยในปี 2011 SAPPE ได้ตัดสินใจนำแบรนด์ โมกุ โมกุ ไปตีตลาดในเกาหลีใต้ เนื่องจากช่วงนั้น Korean Wave หรือกระแสคลื่นวัฒนธรรมเกาหลี ทั้งเพลง ซีรีส์ แฟชั่น อาหาร รวมถึงภาษา เริ่มเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับในระดับสากล
ทำให้ SAPPE มองว่า หาก โมกุ โมกุ เจาะตลาดที่นี่ได้สำเร็จ มันจะกลายเป็นใบเบิกทางในการเจาะตลาดภูมิภาคอื่น ๆ ไปด้วย โดยอาศัยพลังของ Soft Power นี้ ค่อย ๆ แทรกซึมการรับรู้ของแบรนด์
ทีนี้เราลองมาดูกันว่า โมกุ โมกุ ใช้กลยุทธ์อะไร ในการบุกตลาดและครองใจชาวเกาหลีใต้
-สร้างจุดแข็งสินค้าของตนเอง
ตลาดเครื่องดื่มทางเลือกในเกาหลีใต้ ถือว่าหินอยู่ไม่น้อย เพราะมีแบรนด์คู่แข่งรายใหญ่ล้อมอยู่มากมาย ทั้ง LOTTE, Binggrae และ Haitai Beverage
ดังนั้นการสร้างจุดแข็งให้สินค้า เพื่อให้เกิดข้อได้เปรียบในการแข่งขัน จึงเป็นกลยุทธ์ที่ต้องมี
โมกุ โมกุ มีจุดเด่นเป็นเครื่องดื่มน้ำผลไม้ เจ้าแรกของโลก ที่ผสมวุ้นมะพร้าว
ทำให้ โมกุ โมกุ ไม่ใช่แค่น้ำผลไม้ทั่วไป แต่ยังเป็นขนมให้ขบเคี้ยวได้ ในเวลาเดียวกัน
อีกทั้ง ด้วยข้อได้เปรียบเรื่องวัตถุดิบ อย่างวุ้นมะพร้าว ที่ไม่ใช่ทุกแบรนด์จะหาได้เหมือน โมกุ โมกุ
ทำให้ในตอนนั้น หากผู้บริโภคอยากได้ประสบการณ์เครื่องดื่มน้ำผลไม้แบบ “Snack Drink” หรือเครื่องดื่มรองท้อง ก็มีเพียง โมกุ โมกุ เจ้าเดียวเท่านั้น
-หาพื้นที่กระจายสินค้า ที่เข้าถึงผู้คนได้มาก
ในช่วงแรกของการบุกตลาด โมกุ โมกุ เน้นเจาะตลาดผ่านช่องทางร้านสะดวกซื้อ (CVS) ซึ่งอย่างที่เรารู้กันดีว่าในเกาหลีใต้ มีเชนร้านสะดวกซื้อเยอะมาก เช่น CU, GS25, 7- Eleven, emart24, Ministop และอื่น ๆ
ดังนั้นเมื่อร้านสะดวกซื้อถูกกระจายตัวอยู่ในหลายพื้นที่ จึงเป็นช่องทางการขายให้ โมกุ โมกุ ได้เพิ่มโอกาสเข้าถึงลูกค้า รวมถึงเพิ่มโอกาสให้สินค้าได้ถูกซื้อ และเป็นที่รู้จักในวงกว้าง
-สร้างการรับรู้ของแบรนด์ ให้กลมกลืนกับวัฒนธรรมของชาวเกาหลีใต้
ชาวเกาหลีใต้ชื่นชอบการทานขนมและเครื่องดื่มที่แปลกใหม่ แถมยังชอบตัวการ์ตูนที่มีแครักเตอร์น่ารัก ๆ
ดังนั้น SAPPE จึงออกแบบแพ็กเกจจิงสีสันสดใส และใช้แมสคอต “น้องโมกุ โมกุ” วุ้นมะพร้าวสีขาว เป็นทูตคอยสื่อสารการตลาดให้กับแบรนด์ และสร้างภาพลักษณ์ให้แบรนด์เข้าถึงง่าย
เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่า บ่อยครั้งผู้บริโภคมักจะตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า จากภาพลักษณ์ภายนอกก่อน อย่าง “ความน่ารัก” ก็คือหนึ่งในกลยุทธ์การตลาดที่ใช้มัดใจลูกค้า และดึงดูดให้อยากลอง
-การได้ร่วมมือกับแบรนด์ยักษ์ใหญ่ และแบรนด์ท้องถิ่น
หลังจาก โมกุ โมกุ ตีตลาดในเกาหลีใต้มานานถึง 8 ปี จนแบรนด์เริ่มเป็นที่รู้จักและติดตลาด ทำให้ โมกุ โมกุ “เริ่มมีเสน่ห์” จนยักษ์ใหญ่อย่าง LOTTE เริ่มมาจีบขอร่วมงานด้วย
โดยในปี 2019 บริษัท Lotte Group Korea ได้ขอซื้อลิขสิทธิ์ชื่อแบรนด์ เพื่อนำไปผลิตทำแบรนด์ไอศกรีม จากจุดนี้สะท้อนได้ว่า โมกุ โมกุ มีความแข็งแกร่งในตัวแบรนด์และตราสินค้าที่สูงมากในตลาดเกาหลีใต้
อีกทั้งการไป Co-Brand กับ “Graver of Anaheim” แบรนด์เสื้อผ้าวัยรุ่น ชื่อดังในเกาหลีใต้ ที่นำแมสคอต “น้องโมกุ โมกุ” ไปออกแบบร่วมกับเสื้อผ้าแฟชั่น ก็ช่วยให้แบรนด์ได้สร้างภาพจำใหม่ ๆ และเปิดเส้นทางเจาะลูกค้ากลุ่มใหม่ ที่อาจไม่เคยสนใจตัวแบรนด์มาก่อน
-การใช้พลัง Soft Power ตอกย้ำการรับรู้แบรนด์
โมกุ โมกุ ได้ใช้พลังไอดอล K-POP ของหนุ่ม ๆ วง “BTS” ผ่านซีรีส์วาไรตี “Run BTS!” เพื่อโปรโมตสินค้า และผลักดันแบรนด์ให้เข้าไปอยู่ในใจชาวเกาหลีใต้มากขึ้น รวมถึงก้าวสู่การเป็นโกลบอลแบรนด์
เพราะอย่างที่เรารู้ดีว่า BTS คือหนึ่งในบุคคลที่ทรงอิทธิพลระดับโลก ไม่ว่าจะหยิบจับอะไร สินค้าประเภทนั้นมักจะขายดีเป็นเทน้ำเทท่า และสร้างกระแสจนเกิดเป็นเทรนด์
รวมถึงการโปรโมตสินค้า ด้วยการสอดแทรกเครื่องดื่ม โมกุ โมกุ ให้ไปอยู่ในซีรีส์เกาหลีเรื่อง “Crash Course in Romance” ได้อย่างแนบเนียน บน Netflix แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานกันทั่วโลก ก็ยิ่งขยายฐานการรับรู้ไปอีกขั้น
และสุดท้ายคือ การเป็นที่ยอมรับจากไอดอล K-POP ชื่อดัง
รู้หรือไม่ว่า “NINGNING” (หนิงหนิง) หนึ่งในสมาชิกวง aespa เกิร์ลกรุ๊ปที่กำลังมีชื่อเสียง ของค่ายเพลงยักษ์ใหญ่อย่าง SM Entertainment นั้น เธอชื่นชอบและเป็นแฟนคลับตัวยงของเครื่องดื่ม โมกุ โมกุ
เรื่องนี้สะท้อนได้จาก บ่อยครั้งที่เธอไปออกรายการ หรือตามสื่อโซเชียลมีเดียต่าง ๆ NINGNING มักจะพูดถึงแบรนด์ โมกุ โมกุ ว่าเป็นเครื่องดื่มในดวงใจเสมอ
นอกจากนี้ เธอยังอัปเดตภาพตนเองคู่กับแบรนด์ ลงไอจีส่วนตัว ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 4.8 ล้านคน
จุดนี้ยิ่งเป็นการช่วยกระตุ้นให้เกิดการรับรู้ทั้งในกลุ่มแฟนคลับ หรือคนที่ชื่นชอบเธอ ให้อยากลิ้มลองหรือสนับสนุนสินค้า ที่แม้แต่คนดัง ๆ ยังให้การยอมรับ
อ่านมาถึงตรงนี้ คงจะเห็นได้ว่า คะแนนความนิยมของ โมกุ โมกุ ในเกาหลีใต้ ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่เป็นเพราะการพยายามทำความเข้าใจในผู้บริโภค และใส่ใจในทุก ๆ รายละเอียด ตั้งแต่ตัวสินค้า ช่องทางการขาย ไปจนถึงการใช้ Soft Power ช่วยสร้าง Impact ให้กับแบรนด์
จึงไม่แปลกใจเลยที่ปัจจุบัน โมกุ โมกุ สามารถเข้าไปอยู่ในใจของลูกค้าชาวเกาหลีใต้ และกลายเป็นสินค้าที่มียอดขายสูงสุดเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มเครื่องดื่มน้ำผลไม้ ในเกาหลีใต้ ได้ในที่สุด..
References:
-https://www.sappe.com/th/2022/07/27/sappe-mogu-mogu-zepeto/
-https://www.ryt9.com/s/prg/922840
-https://www.brandcase.co/37943
-รายงานประจำปี 2565 แบบ 56-1 บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน)
-รายงานประจำปี 2563 แบบ 56-1 บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน)
-บทวิเคราะห์คาดการณ์การเติบโต บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) โดย บล.ฟินันเซีย ไซรัส
-รายงานผลการดำเนินงาน ไตรมาสที่ 2 ปี 2566 บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน)
-https://www.sappe.com/th/webcasts-th/
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.