กรณีศึกษา แบรนด์ขวดน้ำ ที่อยากให้คนซื้อน้อย แต่ขายได้กว่า 10,000 ล้าน /โดย ลงทุนเกิร์ล

รู้หรือไม่ว่า พลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้ง อย่าง ขวดน้ำ
ไม่เพียงแค่สร้างขยะมหาศาล
แต่พวกมัน ยังมีสาร BPA ที่อาจก่อให้เกิดมะเร็ง

ด้วยเหตุนี้ เมื่อ 20 ปีก่อน
จึงมีชายชาวแคลิฟอร์เนีย ที่ชื่อว่า “Robert Seals”
ได้คิดค้นขวดน้ำ ด้วยโจทย์ที่ว่า ต้องใช้แทนขวดพลาสติกได้ และทำมาจากวัสดุที่ไม่มีสารก่อมะเร็ง

ซึ่งนี่นับเป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์ Klean Kanteen (คลีน แคนทีน)
แบรนด์ขวดน้ำ รักษ์โลก ที่อยากให้คนซื้อสินค้าน้อยลง
แต่กลับทำยอดขายมหาศาล จากการเอาชนะใจกลุ่มคนรักสิ่งแวดล้อม

แล้ว Klean Kanteen มีความเป็นมาอย่างไร ?
แล้วอะไรทำให้แบรนด์ Klean Kanteen ยังอยู่จนถึงทุกวันนี้ ทั้ง ๆ ที่มีคู่แข่งมากมาย ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง..

โดยในปีแรกที่เริ่มวางขายสินค้า
คุณ Seals ใช้วิธีการโปรโมต ผ่านการออกบูทตามเทศกาลดนตรี และกิจกรรมเอาต์ดอร์

แต่ทว่าคุณ Seals กลับทำธุรกิจได้เพียงปีเดียว
ก็ตัดสินใจขาย Klean Kanteen ให้กับครอบครัว Cresswell

แม้ว่าจะเปลี่ยนมือเจ้าของ
แต่อุดมการณ์ของ Klean Kanteen ยังคงเดิม

และหากจะมีสิ่งที่ต่างไป
ก็คงจะเป็นธุรกิจของ Klean Kanteen ที่โตวันโตคืน

เนื่องจาก “สื่อมวลชน” ที่โหมข่าวเรื่องสาร BPA ที่อยู่ในพลาสติก
ทำให้สังคมตื่นตัว ทั้งเรื่องสุขภาพ และสิ่งแวดล้อม

จังหวะนี้ Klean Kanteen เป็นแบรนด์เดียวที่มีจุดขายเรื่อง “BPA free” จึงเป็นที่นิยมขึ้นมาอย่างก้าวกระโดด

นอกจากนี้ ประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อมในช่วงเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา ยังคงเป็นเรื่องที่ผู้คนตื่นตัว

ซึ่ง Klean Kanteen ก็เอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็น

-ออกแบบสินค้า ให้ลดการซื้อ

โดย “ฝาขวดน้ำ” จะออกแบบมาให้เปลี่ยนได้หลายแบบ
ทั้งฝาสำหรับเครื่องดื่มร้อน, น้ำปั่น หรือเครื่องดื่มธรรมดา
ทำให้เราไม่จำเป็นต้อง ซื้อหลาย ๆ ขวด เพื่อรองรับการใช้งานหลายด้าน

และที่ไม่เหมือนแบรนด์ทั่ว ๆ ไป คือ
ลูกค้าสามารถซื้อ แยกชิ้นส่วนได้
ซึ่งบางครั้ง ชิ้นส่วนเล็ก ๆ พวกนี้ อาจหล่นหาย หรือเสื่อมสภาพไปตามการใช้งาน
ดังนั้น ลูกค้าก็สามารถซื้อแค่บางชิ้นส่วน เพื่อนำมาเปลี่ยนเองได้ โดยไม่ต้องซื้อขวดใหม่ทั้งขวด

-รับประกันสินค้าตลอดอายุการใช้งาน

เพราะมั่นใจว่าขวดน้ำ Klean Kanteen นั้นทนทาน
และสามารถใช้ซ้ำวนไปได้อีกนานแสนนาน

นอกจากนี้ Klean Kanteen ยังการันตีว่า “สี” ที่เคลือบด้านนอก ยังทนกว่าเดิมถึง 4 เท่า

ส่วนขวดน้ำรุ่นที่มีฝาพลาสติก
ก็จะผลิตมาจากพลาสติกชนิดที่ไม่มีสาร BPA
ทำให้ลูกค้าที่ใช้ไปนาน ๆ ไม่ต้องกังวลว่า สารเคมีจะเข้าไปสะสมในร่างกาย

-ใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ปัจจุบัน บริษัทเริ่มเปลี่ยนมาใช้ “สเตนเลสรีไซเคิล” แทนวัสดุที่ผลิตขึ้นใหม่
และภายในปี 2023 สินค้าถึง 95% ของ Klean Kanteen จะถูกเปลี่ยนมาใช้สเตนเลสรีไซเคิล
ซึ่งบริษัทคาดว่าจะช่วยลดการก่อก๊าซเรือนกระจกลงจากเดิมได้ถึง 50% และยังลดการใช้พลังงานลง 30%

-เข้าร่วมโครงการ “1% for the planet”

โดย Klean Kanteen จะบริจาคเงิน 1 ดอลลาร์สหรัฐ จากยอดขายทุก ๆ 100 ดอลลาร์สหรัฐ ให้องค์กรสิ่งแวดล้อม

ซึ่งบริษัทได้เข้าร่วมโครงการนี้มาแล้ว 14 ปี
และมีการบริจาคเงินรวมแล้วเป็นจำนวน 130 ล้านบาท

ดังนั้น นี่อาจหมายความว่า ช่วง 14 ปีที่ผ่านมานี้ Klean Kanteen อาจมีรายได้สูงถึง 13,000 ล้านบาทเลยทีเดียว

-ได้รับการรับรอง “Climate Neutral”
หรือเป็นองค์กรที่สามารถลดการปล่อย และชดเชยการปล่อยคาร์บอน จนเป็นศูนย์ได้ ตั้งแต่ปี 2020

แม้ว่า ในตอนนี้แบรนด์ Klean Kanteen จะประสบความสำเร็จ ทั้งในแง่ธุรกิจ และสิ่งแวดล้อมขนาดไหน
แต่ Klean Kanteen ก็ยังเลือกที่จะ “ปฏิเสธนักลงทุน”

เนื่องจากไม่ต้องการให้คนนอกเข้ามาแทรกแซง
จนทำให้ความตั้งใจเรื่องสิ่งแวดล้อมผิดเพี้ยนไป

และถึงแม้ว่า อุดมการณ์เรื่องสิ่งแวดล้อมของ Klean Kanteen
อาจทำให้บริษัทมีต้นทุนเพิ่มขึ้น
แถมบริษัทก็ยังพยายามทำให้ลูกค้าซื้อสินค้าน้อย ๆ หรือซื้อเท่าที่จำเป็น

แต่ด้วยเหตุผลเหล่านี้
มันกลับกลายมาเป็นสาเหตุที่ยิ่งทำให้หลายคนซื้อสินค้าของ Klean Kanteen

ปิดท้าย ด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ

รู้หรือไม่ว่า คำว่า Klean Kanteen นั้น เป็นการเล่นคำของคุณ Seals ที่มาจากคำว่า Clean Canteen หรือที่แปลว่า ขวดน้ำที่สะอาด นั่นเอง

References:
-https://www.kleankanteen.com/pages/about-us
-https://www.kleankanteen.de/klean-world/die-klean-kanteen-story/
-https://wedreambusiness.org/Klean-Kanteen.html
-https://www.outsidebusinessjournal.com/press-releases/accessories-press-releases/klean-kanteen-raises-the-bar-for-sustainability-announces-use-of-certified-recycled-stainless-steel/
-https://cdn.shopify.com/s/files/1/0607/0325/files/KK_Brand_Impact_Report_2019_LR.pdf?v=1594744713
-https://www.kleankanteen.com/pages/one-percent