กรณีศึกษา การเติบโตของ EVEANDBOY ร้านเครื่องสำอาง 3,000 ล้าน
Health & BeautyBusiness

กรณีศึกษา การเติบโตของ EVEANDBOY ร้านเครื่องสำอาง 3,000 ล้าน

9 ก.ย. 2020
กรณีศึกษา การเติบโตของ EVEANDBOY ร้านเครื่องสำอาง 3,000 ล้าน /โดย ลงทุนเกิร์ล
ตอนนี้สาวๆ ส่วนใหญ่ คงไม่มีใครไม่รู้จัก EVEANDBOY 
ร้านขายเครื่องสำอางมัลติแบรนด์สัญชาติไทย
ที่ขายสินค้าตั้งแต่แบรนด์เล็กๆ ไปจนถึงเคาน์เตอร์แบรนด์ระดับไฮเอนด์
สิ่งที่น่าสนใจคือ แม้ว่า EVEANDBOY จะขายสินค้าสำหรับผู้หญิง แต่กลับก่อตั้งโดยผู้ชาย
และที่สำคัญ ยังเป็นร้านเครื่องสำอางที่เติบโต จนรายได้แตะหลัก 3,000 ล้านบาทแล้ว
แล้วเส้นทางของ EVEANDBOY น่าสนใจอย่างไร? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
จุดเริ่มต้นของ EVEANDBOY มาจากผู้ชายที่ชื่อ “หิรัญ ตันมิตร” หรือ “คุณบอย”
คุณบอยเป็นลูกชายของครอบครัวที่ทำธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตในจังหวัดมหาสารคาม
จบการศึกษาจากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ย้อนกลับไปในปี พ.ศ. 2548 คุณบอยเห็นกระแสที่ธุรกิจค้าปลีกรายเล็ก ได้รับผลกระทบจากห้างขนาดใหญ่ ทำให้เขาเริ่มมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ 
สุดท้ายมาจบที่ “ร้านขายเครื่องสำอาง” เพราะคุณบอยมองว่า เป็นธุรกิจที่มีส่วนต่างกำไรสูง
ร้าน EVEANDBOY จึงเริ่มต้นขึ้น โดยชื่อร้านมาจากการนำชื่อของพี่สาวคุณบอยที่ชื่อ “อีฟ” และชื่อ “บอย” ของตัวเอง มารวมกัน
EVEANDBOY สาขาแรกอยู่ที่ตึกแถวติดกับซูเปอร์มาเก็ตของที่บ้าน 
ช่วงแรกๆ มีการแบ่งสินค้าบางส่วนจากร้านเดิมมาขายบ้าง
เปิดได้ไม่นานก็กลายเป็นที่นิยม จนสามารถขยายสาขา 2 ที่จังหวัดขอนแก่น
ต่อมาในปี พ.ศ. 2555 คุณบอยก็ตัดสินใจนำ EVEANDBOY เข้ามาเปิดในกรุงเทพมหานคร
โดยเลือกทำเลใจกลางเมือง บริเวณสยามสแควร์ ซอย 1 
แรกๆ EVEANDBOY ใช้กลยุทธ์การขายด้วยราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาด
เมื่อประกอบกับตำแหน่งที่ตั้ง ที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างถูกต้อง
จึงไม่น่าแปลกใจว่า ภายในร้านจะเนืองแน่นไปด้วยลูกค้า ตั้งแต่เริ่มเปิดร้าน
และแม้ว่าจะผ่านวันแรกมาแล้วถึง 15 ปี ปัจจุบัน EVEANDBOY ก็ยังได้รับความนิยมอยู่
เห็นได้จากผลประกอบการบริษัท อีฟ แอนด์ บอย จำกัด
ปี 2560 รายได้ 1,636 ล้านบาท กำไร 157 ล้านบาท
ปี 2561 รายได้ 2,846 ล้านบาท กำไร 581 ล้านบาท
ปี 2562 รายได้ 3,180 ล้านบาท กำไร 712 ล้านบาท
รายได้เติบโตเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี 39%
แล้วอะไรเป็นสิ่งที่ทำให้ EVEANDBOY ประสบความสำเร็จขนาดนี้?
เรื่องนี้ส่วนหนึ่งมาจากการที่คุณบอยสามารถใช้ประโยชน์จาก “สังคมโซเชียล”
เพราะในแวดวงเครื่องสำอาง การอัปเดตเทรนด์ใหม่ๆ เป็นสิ่งจำเป็น 
เนื่องจากลูกค้าในปัจจุบัน ไม่ได้เชื่อการโฆษณาจากแบรนด์โดยตรง 
แต่เชื่อคำรีวิวจากการใช้งานของคนทั่วไป หรือการบอกต่อๆ กันมากกว่า 
ทำให้โซเชียลมีเดีย กลายเป็นศูนย์รวมของข้อมูลที่สำคัญ 
ในการศึกษาพฤติกรรมของลูกค้า และการตามกระแสความสนใจที่เปลี่ยนไปอยู่ตลอดเวลาให้ทัน
พอเป็นแบบนี้ EVEANDBOY จึงเป็นร้านเครื่องสำอางแรกๆ ที่รวมเอาสินค้า ตั้งแต่แบรนด์เล็กไปจนถึงแบรนด์ระดับไฮเอนด์ 
แต่มีจุดร่วมเดียวกัน คือ เป็นแบรนด์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า
นอกจากนั้น การนำเครื่องสำอางแบรนด์เล็กๆ เข้ามาจำหน่าย
ยังกลายเป็นเหมือนการประชาสัมพันธ์ให้กับ EVEANDBOY ไปในตัว
เพราะ แบรนด์เหล่านี้ส่วนใหญ่ มักเริ่มจากการขายในช่องทางออนไลน์ 
แต่เมื่อต้องการหน้าร้าน สำหรับแสดงสินค้าให้เข้าถึงลูกค้ามากขึ้น
EVEANDBOY ก็น่าจะเป็นตัวเลือกแรกๆ 
ซึ่งพอเป็นแบบนี้ เวลาที่แบรนด์เหล่านี้ไปสื่อสารช่องทางจำหน่ายกับกลุ่มลูกค้าของตนเอง
ชื่อของ EVEANDBOY ก็จะไปปรากฏอยู่ด้วย กลายเป็นโฆษณาให้กับ EVEANDBOY ไปในตัว 
ในอีกมุมหนึ่ง ความหลากหลายของสินค้า ยังเป็นอีกจุดแข็งสำคัญของ EVEANDBOY
เพราะแม้ว่าแรกๆ กลยุทธ์ของ EVEANDBOY อาจเป็นการลดราคาสินค้า เพื่อให้ลูกค้าจำแบรนด์ได้ แต่คุณบอยกลับมองว่าไม่ใช่สิ่งที่ยั่งยืน
จึงหันมาให้ความสำคัญที่ความหลากหลายของแบรนด์สินค้าควบคู่ไปด้วย
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ก็ต้องอาศัยการบริหารให้เกิดความสมดุล 
ต้องหาวิธีการนำเสนอให้ EVEANDBOY สามารถรวมแบรนด์เล็กๆ ได้ 
โดยที่ไม่ทำให้ภาพรวมดูไม่แพง จนแบรนด์ระดับไฮเอนด์ไม่ยอมนำสินค้ามาวาง
นอกจากความหลากหลายของแบรนด์สินค้า EVEANDBOY ยังให้ความสำคัญกับช่องทางการจำหน่าย 
มีการลงทุนด้านการสื่อสารผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ทั่วไป รวมถึงเว็บไซต์ และแอปพลิเคชัน
แต่ก็ไม่ได้ละเลยฝั่งหน้าร้าน เพราะยังมีแผนการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง 
โดยล่าสุด EVEANDBOY มีกว่า 10 สาขาทั่วประเทศไทย 
และมีการกำหนดเป้าหมายว่า สิ้นปี พ.ศ. 2565 จะต้องมีอย่างน้อย 22 สาขา
เพราะถึงแม้ว่า ปัจจุบันการซื้อสินค้าจะมีแนวโน้มไปทางออนไลน์มากขึ้น 
แต่สำหรับเครื่องสำอางแล้ว การที่ได้เห็นสินค้าจริง 
ก็ยังเป็นความอุ่นใจก่อนซื้อของลูกค้าหลายๆ คนอยู่ดี
เรื่องราวของ EVEANDBOY จึงถือเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจ
เพราะสุดท้ายแล้ว หัวใจที่ทำให้ EVEANDBOY ประสบความสำเร็จ
อาจจะเป็น การบริหารให้เกิด “ความสมดุล”
ทั้งด้านความต้องการของลูกค้า และความต้องการของแบรนด์ที่จะมาวางขายสินค้า
ช่องทางการจำหน่ายระหว่างหน้าร้านและออนไลน์ 
ซึ่งแม้จะดูเหมือนเป็นเรื่องที่เรารู้ๆ กันอยู่แล้ว 
แต่การจะทำให้เกิดขึ้นได้จริง กลับไม่ใช่เรื่องง่าย.. 
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.