Business
กรณีศึกษา การยกระดับอาหารอีสาน สู่ อาหารคอร์สหลักพัน ของร้านซาหมวยแอนด์ซันส์
19 มิ.ย. 2022
กรณีศึกษา การยกระดับอาหารอีสาน สู่ อาหารคอร์สหลักพัน ของร้านซาหมวยแอนด์ซันส์ /โดย ลงทุนเกิร์ล
หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า “ไข่มดแดง” นั้นสามารถนำมาทำเป็นอาหารได้ และเมนูยอดฮิตก็คงจะเป็น ยำไข่มดแดง ซึ่งเป็นเมนูพื้นบ้านที่ขายตามตลาดนัดทั่วไป
แต่รู้หรือไม่ว่า ในจังหวัดอุดรธานีมีร้านอาหารแห่งหนึ่ง ที่สามารถนำวัตถุดิบท้องถิ่นอย่างไข่มดแดง มาทำเป็นเมนูใหม่ที่เสิร์ฟพร้อมกับไข่ปลาคาเวียร์
ซึ่งร้านนี้มีชื่อว่า ร้านซาหมวยแอนด์ซันส์ และเจ้าของร้านก็คือ คุณหนุ่ม-วีระวัฒน์ ตริยเสนวรรธน์
และคุณโจ้-วรวุฒิ ตริยเสนวรรธน์ สองพี่น้องผู้ร่วมก่อตั้งร้านมาด้วยกัน
และคุณโจ้-วรวุฒิ ตริยเสนวรรธน์ สองพี่น้องผู้ร่วมก่อตั้งร้านมาด้วยกัน
เรื่องราวของการยกระดับวัตถุดิบท้องถิ่นอีสานของร้านซาหมวยแอนด์ซันส์ น่าสนใจอย่างไร ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟังค่ะ
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟังค่ะ
เดิมทีคุณหนุ่มและคุณโจ้นั้น ได้ไปเรียนทำอาหารอยู่ที่สหรัฐอเมริกา และได้เริ่มทำงานที่ร้านอาหารในรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นรัฐที่มีวัฒนธรรมอาหารที่หลากหลาย จนขึ้นชื่อในเรื่องของ Fusion Food
หรือก็คือการรวมอาหารจากหลากหลายวัฒนธรรมเข้าไว้ด้วยกัน
จนเกิดเป็นชื่อที่เรียกกันว่า California Cuisine
จนเกิดเป็นชื่อที่เรียกกันว่า California Cuisine
อย่างการนำเอาวัตถุดิบออร์แกนิกในท้องถิ่นตามฤดูกาลที่หาได้ มาปรุงสดด้วยสไตล์การทำอาหารหลากหลายชาติ เช่น ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส จีน เม็กซิโก อิตาลี เวียดนาม หรืออินเดีย จนเกิดเป็นเมนูใหม่ ๆ ที่สร้างสรรค์
นอกจากนี้วัตถุดิบที่ใช้ ยังเน้นในเรื่องของอาหารเพื่อสุขภาพอีกด้วย โดยใช้วัตถุดิบจากผัก ผลไม้สด เนื้อไม่ติดมัน หรือพวกเนื้อไขมันต่ำ มาทำอาหาร
จุดนี้เองที่ทำให้ ทั้งคุณหนุ่มและคุณโจ้ ได้รับความรู้และประสบการณ์ในเรื่องของอาหารที่หลากหลาย
จนทำให้เกิดความคิดที่จะเปิดร้านอาหารในต่างประเทศ
จนทำให้เกิดความคิดที่จะเปิดร้านอาหารในต่างประเทศ
แต่ช่วงนั้นคุณแม่ของทั้งคู่ไม่สบาย ป่วยเป็นโรคมะเร็ง ทำให้ทั้งสองคนตัดสินใจที่จะกลับมายังประเทศไทย
พร้อมกับเปิดร้านอาหารไทยที่จังหวัดอุดรธานี ชื่อว่า ร้านซาหมวยแอนด์ซันส์แทน
พร้อมกับเปิดร้านอาหารไทยที่จังหวัดอุดรธานี ชื่อว่า ร้านซาหมวยแอนด์ซันส์แทน
ด้วยคอนเซปต์ร้านอาหารไทยอีสานร่วมสมัย ทานตามฤดูกาล พร้อมแนวคิดของการทานอาหารให้เป็นยา
โดยการนำวัตถุดิบพื้นถิ่นของแถบอีสานมาต่อยอด ผสมผสาน และผ่านการทำอาหารแบบพิถีพิถันในแบบสากลรวมเข้ากับภูมิปัญญาท้องถิ่นของไทย
โดยการนำวัตถุดิบพื้นถิ่นของแถบอีสานมาต่อยอด ผสมผสาน และผ่านการทำอาหารแบบพิถีพิถันในแบบสากลรวมเข้ากับภูมิปัญญาท้องถิ่นของไทย
ซึ่งหน้าที่หลักของการทำอาหาร ก็จะเป็นของคุณหนุ่ม ส่วนคุณโจ้ จะเป็นผู้คอยดูแลในเรื่องของสรรพคุณที่เกี่ยวกับสุขภาพของวัตถุดิบที่ใช้ รวมไปถึงการตลาดของทางร้านด้วย
โดยเมนูอาหารไทยอีสานร่วมสมัยของร้านซาหมวยแอนด์ซันส์ที่ว่านี้ จะเน้นการใช้พืชผัก และวัตถุดิบท้องถิ่น จากแม่ค้าพ่อค้าในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี
ไม่ว่าจะเป็น ผักสะเดา ใบย่านาง ผักกาดหิ่น หรือผักหวานป่า รวมถึงวัตถุดิบที่มีแค่บางฤดูกาล อย่างไข่มดแดง ที่จะมีในช่วงฤดูร้อน หรือแมงมัน ที่จะหาได้ในช่วงฤดูฝน
ออกมาเป็นเมนูอาหาร 10 คอร์ส ในรูปแบบ Chef’s Table
ส่วนราคาต่อคอร์สจะตกอยู่ที่คนละ 2,250 บาท
และเปิดให้ทาน 2 ช่วงเวลาด้วยกัน คือ ช่วงกลางวัน เวลา 11:00-14:30 น. และช่วงเย็น เวลา 17:00-21:00 น.
ส่วนราคาต่อคอร์สจะตกอยู่ที่คนละ 2,250 บาท
และเปิดให้ทาน 2 ช่วงเวลาด้วยกัน คือ ช่วงกลางวัน เวลา 11:00-14:30 น. และช่วงเย็น เวลา 17:00-21:00 น.
ตัวอย่างเมนูอาหารของร้านซาหมวยแอนด์ซันส์ ที่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่นตามฤดูกาล เช่น
-ทาโก้บักมี่
ที่ทางเชฟหนุ่มได้ไอเดียการทำเมนูนี้มาจากทาโก้ อาหารพื้นเมืองของประเทศเม็กซิโก และใช้บักมี่ ซึ่งก็คือขนุน โดยเมนูนี้เป็นเมนูที่ทำมาจากขนุนทั้งหมด ตัวแป้งทำมาจากเม็ดขนุน และนำส่วนเนื้อของขนุนอ่อนมาย่างโดยใช้ไฟอ่อน ทำเป็นไส้ข้างใน ปรุงรสด้วยซอสเข้มข้นที่ทำจากขนุนสุก
ที่ทางเชฟหนุ่มได้ไอเดียการทำเมนูนี้มาจากทาโก้ อาหารพื้นเมืองของประเทศเม็กซิโก และใช้บักมี่ ซึ่งก็คือขนุน โดยเมนูนี้เป็นเมนูที่ทำมาจากขนุนทั้งหมด ตัวแป้งทำมาจากเม็ดขนุน และนำส่วนเนื้อของขนุนอ่อนมาย่างโดยใช้ไฟอ่อน ทำเป็นไส้ข้างใน ปรุงรสด้วยซอสเข้มข้นที่ทำจากขนุนสุก
-ไข่มดแดงกับเต้าหู้เมล็ดฟักทอง และคาเวียร์
ที่นำมาผสมเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว โดยใช้เต้าหู้จากเมล็ดฟักทอง โรยหน้าด้วยไข่มดแดงที่หาได้ในท้องถิ่น ไข่ปลาคาเวียร์จากฟาร์มที่หัวหิน ราดซอสเข้มข้นที่ได้จากการเคี่ยวน้ำมะพร้าวกับปลาแห้ง เสิร์ฟคู่กับแมงมัน
ที่นำมาผสมเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว โดยใช้เต้าหู้จากเมล็ดฟักทอง โรยหน้าด้วยไข่มดแดงที่หาได้ในท้องถิ่น ไข่ปลาคาเวียร์จากฟาร์มที่หัวหิน ราดซอสเข้มข้นที่ได้จากการเคี่ยวน้ำมะพร้าวกับปลาแห้ง เสิร์ฟคู่กับแมงมัน
-ปลาคังอบฟาง
โดยการบ่มปลาคังด้วยวิธีจากญี่ปุ่น แล้วนำมาคลุกกับคาราเมลซอส ที่ทำมาจากปลาร้า เสียบด้วยไม้อบเชย ย่างจนได้ที่ แล้วนำไปอบฟางในหม้อดิน ทานพร้อมกับใบสะเดาดอง และปิดท้ายด้วย เซียนท้อ ผลไม้พื้นเมือง ที่ปรุงรสด้วยปลาร้าซอลต์ และน้ำมะนาวเข้มข้น ที่ผ่านกระบวนการทำอย่างพิถีพิถันและใช้เวลานาน
โดยการบ่มปลาคังด้วยวิธีจากญี่ปุ่น แล้วนำมาคลุกกับคาราเมลซอส ที่ทำมาจากปลาร้า เสียบด้วยไม้อบเชย ย่างจนได้ที่ แล้วนำไปอบฟางในหม้อดิน ทานพร้อมกับใบสะเดาดอง และปิดท้ายด้วย เซียนท้อ ผลไม้พื้นเมือง ที่ปรุงรสด้วยปลาร้าซอลต์ และน้ำมะนาวเข้มข้น ที่ผ่านกระบวนการทำอย่างพิถีพิถันและใช้เวลานาน
โดยแต่ละเมนูที่ทางร้านเสิร์ฟให้กับลูกค้า จะมีการนำเสนอเมนูอาหาร และเล่าเรื่องโดยเชฟหนุ่ม เจ้าของร้านซาหมวยแอนด์ซันส์เองด้วย
นอกจากจะเป็นร้านอาหารอีสานแบบ Chef’s Table เจ้าเดียวในจังหวัดอุดรธานี ที่เสิร์ฟอาหารเป็นคอร์สแล้ว ก็ยังมีอาหารแบบ À la carte หรือการสั่งอาหารแบบจานต่อจาน ให้ลูกค้าสามารถลองทานกันได้อีกด้วย
เรียกได้ว่า จากวัตถุดิบท้องถิ่นอีสานที่หาได้ตามตลาดสดในพื้นที่ แต่เมื่อนำมาผ่านกระบวนการทำที่มีความพิถีพิถันมากเป็นพิเศษ ก็สามารถทำให้วัตถุดิบบ้าน ๆ เหล่านี้ กลายมาเป็นเมนูอาหารที่มีรสชาติที่แปลกใหม่ ในแบบที่ไม่เคยทานที่ไหนมาก่อน
ทั้งหมดนี้ก็เป็นเรื่องราวของการยกระดับอาหารอีสาน ที่ทำให้ร้านซาหมวยแอนด์ซันส์ กลายเป็นร้านอาหารยอดฮิต ซึ่งหากใครมีโอกาสได้ไปเที่ยวจังหวัดอุดรธานี ก็แวะไปลองทานอาหารอีสานร่วมสมัย ของทางร้านดูกันสักครั้ง..
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ ที่มาของชื่อร้านซาหมวยแอนด์ซันส์ มาจากร้านห้องเสื้อ “ซาหมวย” ชื่อของคุณแม่ที่ทำอาชีพตัดเย็บเสื้อผ้า และต่อท้ายด้วย “แอนด์ซันส์” ที่หมายถึงลูกทั้งสองคน คือ คุณหนุ่มและคุณโจ้ นั่นเอง..