
Business
เบื้องหลังการปั้นแบรนด์ Harmenstone เครื่องประดับสายมู ที่ขายดี จน Sold Out เกือบทุกคอลเลกชัน
15 มิ.ย. 2022
หนึ่งในแบรนด์เครื่องประดับสายมู ที่เปิดตัวมา 5 ปีแล้ว ก็ยังกระแสดีไม่มีแผ่ว ต้องยกให้ Harmenstone
ที่นอกจากจะสร้างมิติใหม่ให้วงการ ด้วยการเป็นแบรนด์แรกที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถ Customization อัญมณีหินได้ตามใจแล้ว
ที่นอกจากจะสร้างมิติใหม่ให้วงการ ด้วยการเป็นแบรนด์แรกที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถ Customization อัญมณีหินได้ตามใจแล้ว
ด้วยดีไซน์การออกแบบที่โดดเด่น จนมองเผิน ๆ เหมือนเป็นเครื่องประดับเท่ ๆ ที่ใส่ได้ในชีวิตประจำวันแบบไม่เขิน ยิ่งทำให้ Harmenstone กลายเป็นแบรนด์ที่หลายคนนึกถึง
พิสูจน์ความฮอตของแบรนด์ได้จาก กระแสตอบรับแบบถล่มทลายแทบทุกคอลเลกชัน
หลายคนอาจจะสงสัยว่า แบรนด์เครื่องประดับสายมูก็มีตั้งมากมาย
แล้ว Harmenstone มีกลยุทธ์การสร้างแบรนด์อย่างไรให้เป็นที่รู้จัก และยังอยู่ในกระแสตลอดเวลา ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
แล้ว Harmenstone มีกลยุทธ์การสร้างแบรนด์อย่างไรให้เป็นที่รู้จัก และยังอยู่ในกระแสตลอดเวลา ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
ก่อนอื่น ขอย้อนกลับไปสู่จุดเริ่มต้นของแบรนด์ ซึ่งก่อตั้งโดยสองหนุ่มดีกรีวิศวกร จากรั้วจามจุรี คุณบุ๊ค-หัสวีร์ วิรัลสิริภักดิ์ และ คุณเคน-นันท์ธร พรกุลวัฒน์

เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ทั้งคู่ได้ก่อตั้งแบรนด์ Harmenstone จากแพสชันที่สนใจในเครื่องประดับจากหินธรรมชาติเป็นทุนเดิม ถึงขนาดทำเป็นธุรกิจ ตั้งแต่เรียนอยู่ชั้นปีที่ 3
แต่ตอนนั้น เน้นทำแบบสนุก ๆ ไม่ได้มีการสร้างแบรนด์อย่างจริงจัง
แต่ตอนนั้น เน้นทำแบบสนุก ๆ ไม่ได้มีการสร้างแบรนด์อย่างจริงจัง
จนกระทั่งเรียนจบ ทั้งคู่ยังเห็นโอกาสในธุรกิจนี้ จึงเริ่มปั้นธุรกิจที่อยากช่วยแก้ Pain Point สำคัญของคนไทย ที่มีความเชื่อและความศรัทธา
แต่ติดปัญหาว่า เวลาอยากหาเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ หรือมีสิ่งที่เป็นมงคลติดตัว กลับไม่ได้มีทางเลือกมากนัก
แต่ติดปัญหาว่า เวลาอยากหาเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ หรือมีสิ่งที่เป็นมงคลติดตัว กลับไม่ได้มีทางเลือกมากนัก
ทั้งคู่ จึงอยากออกแบบเครื่องประดับที่ช่วยเสริมความมั่นใจ และใส่ได้ทุกวัน
พูดง่าย ๆ ว่า นำแฟชั่น มาผสมผสานกับความเชื่อและความศรัทธา
พูดง่าย ๆ ว่า นำแฟชั่น มาผสมผสานกับความเชื่อและความศรัทธา
เมื่อได้ไอเดียตั้งต้นชัดเจนแล้ว ก็มาถึงการลงมือทำ
คุณเคน บอกว่า วัสดุหลักที่ทางแบรนด์ใช้ คือ หินจากธรรมชาติ ที่คัดสรรจากแหล่งที่ดีที่สุดในโลก
เลือกเฉพาะหิน Premium Grade และมีการยืนยันจากแลบอัญมณี ว่าเป็นหินธรรมชาติแท้ 100%
คุณเคน บอกว่า วัสดุหลักที่ทางแบรนด์ใช้ คือ หินจากธรรมชาติ ที่คัดสรรจากแหล่งที่ดีที่สุดในโลก
เลือกเฉพาะหิน Premium Grade และมีการยืนยันจากแลบอัญมณี ว่าเป็นหินธรรมชาติแท้ 100%
ข้อดีของหินธรรมชาติ คือ นอกจากจะเชื่อกันว่าช่วยเสริมพลังให้ชีวิต แต่ละเม็ด ยังมีลวดลายหรือสีที่ไม่เหมือนกัน
ดังนั้น การเป็นเจ้าของเครื่องประดับ Harmenstone จึงเหมือนการได้เป็นเจ้าของเครื่องประดับที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลกเท่านั้น
นอกจากจะมีหินธรรมชาติเป็นพระเอกหลัก อีกหนึ่งจุดเด่นของ Harmenstone คือ การออกแบบชาร์มเงินแท้ 93.5% ซึ่งเป็นวัสดุที่มีมูลค่าสูง และเป็นที่นิยมทั่วโลก
ช่วง 6 เดือนแรกของการสร้างแบรนด์ ทั้งคู่ยอมรับว่าเป็น ช่วงวัดใจ ว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้
เพราะถึงแม้จะมีออร์เดอร์เข้ามาเรื่อย ๆ แต่แบรนด์ก็ยังไม่ได้เป็นกระแสในวงกว้าง ยังมีลูกค้าเป็นกลุ่มเล็ก ๆ
เพราะถึงแม้จะมีออร์เดอร์เข้ามาเรื่อย ๆ แต่แบรนด์ก็ยังไม่ได้เป็นกระแสในวงกว้าง ยังมีลูกค้าเป็นกลุ่มเล็ก ๆ
โชคดีที่ทั้งคู่ไม่ท้อ และยังตั้งใจทำในสิ่งที่เชื่อ โดยไม่ละเลยที่จะฟังเสียงของลูกค้า
เพื่อนำมาพัฒนาสินค้าและบริการ จนในที่สุด แบรนด์ก็ได้แจ้งเกิด
เพื่อนำมาพัฒนาสินค้าและบริการ จนในที่สุด แบรนด์ก็ได้แจ้งเกิด
“เราเปิดเพจขายทางเฟซบุ๊ก แล้วก็ไปออกบูทตามงาน ซึ่งข้อดี คือ ทำให้เราได้ฟีดแบ็กจากลูกค้าตลอด
อย่างช่วงแรก ๆ ลูกค้าจะติว่า แบบของเราไม่หลากหลายเท่าไร
อย่างหินธรรมชาติ เรายังมีให้เลือกแค่ 6 ชนิด (ตอนนี้มี 20 ชนิด)” คุณเคนฉายภาพให้เห็น
อย่างช่วงแรก ๆ ลูกค้าจะติว่า แบบของเราไม่หลากหลายเท่าไร
อย่างหินธรรมชาติ เรายังมีให้เลือกแค่ 6 ชนิด (ตอนนี้มี 20 ชนิด)” คุณเคนฉายภาพให้เห็น
ส่วนชาร์มเงิน คอลเลกชันแรก ๆ เราจะเน้นออกแบบให้มีสัญลักษณ์ตัว H ซึ่งมาจากชื่อของแบรนด์
เพราะ ทั้งคู่มีบทเรียนจากธุรกิจแรกว่า แค่ขายของให้ได้ยอดนั้นไม่พอ เพราะการสร้าง Brand Loyalty กับลูกค้าในระยะยาวก็สำคัญ
เพราะ ทั้งคู่มีบทเรียนจากธุรกิจแรกว่า แค่ขายของให้ได้ยอดนั้นไม่พอ เพราะการสร้าง Brand Loyalty กับลูกค้าในระยะยาวก็สำคัญ
“แต่สิ่งที่เราลืมไป คือ เราอาจจะมาถูกทางในเรื่องการคุมโทนภาพที่จะใช้โพสต์โปรโมตทางออนไลน์
แต่ในแง่ของการออกแบบ ต้องยอมรับว่า ช่วงแรก ๆ ลูกค้ายังไม่ได้อินกับความเป็นแบรนด์ของเราขนาดนั้น” คุณบุ๊คเสริม
แต่ในแง่ของการออกแบบ ต้องยอมรับว่า ช่วงแรก ๆ ลูกค้ายังไม่ได้อินกับความเป็นแบรนด์ของเราขนาดนั้น” คุณบุ๊คเสริม
เพราะฉะนั้น พอได้ฟีดแบ็กจากลูกค้ามาเรื่อย ๆ หน้าที่ของทั้งคู่ คือ กลับมาทำการบ้านใหม่ จนในที่สุดก็ตกผลึก และตีโจทย์ใหม่ว่า จากที่ทำ “เครื่องประดับที่ช่วยเสริมความมั่นใจ” ทำไม ไม่ลองทำ “เครื่องประดับที่เสริมให้ชีวิตคนอื่นดีขึ้น”
จึงกลายเป็นที่มาของการเปิดตัวคอลเลกชัน “เทพเจ้าปี่เซียะมงคล” ที่ผ่านพิธีการปลุกเสก จากวัดทิพยวารีวิหาร หรือวัดกัมโล่วยี่ หนึ่งในวัดจีนที่ขลังและเก่าแก่ที่สุดในไทย

ใครจะคิดว่า คอลเลกชันนี้ จะขายดีเป็นพลุแตก Sold out หลังจากเปิดตัว และกลายเป็นคอลเลกชันที่ต่อให้ผ่านมา 4 ปีแล้ว ก็ยังขายดีตลอดกาล
และยังเป็นใบเบิกทางที่ทำให้ Harmenstone หันมาชู “คอลเลกชันเทพเจ้ามงคล” ที่มีองค์เทพที่เป็นสัญลักษณ์ของความมงคลในแต่ละด้าน เป็น Hero Product
ไม่ว่าจะเป็น องค์เจ้าแม่กวนอิม องค์พระพิฆเนศ และคอลเลกชันล่าสุด คือ องค์ท้าวเวสสุวรรณ
ไม่ว่าจะเป็น องค์เจ้าแม่กวนอิม องค์พระพิฆเนศ และคอลเลกชันล่าสุด คือ องค์ท้าวเวสสุวรรณ
เทคนิคในการเลือกว่า จะนำองค์เทพองค์ไหน มาทำเป็นคอลเลกชัน คุณบุ๊คบอกว่า จะต้องผ่านการ R&D มาอย่างรอบคอบ มีการศึกษาเทรนด์มาอย่างดีจนมั่นใจ
ขณะที่คุณเคนเสริมว่า เมื่อได้ไอเดียมาแล้ว กฎเหล็กในการออกแบบ คือ ต้องค้นคว้า หาข้อมูลจนแน่ใจว่า ออกแบบได้ถูกต้องตามหลักทุกอย่าง
เพราะอยากให้ลูกค้ารับไปบูชาแล้ว รู้สึกมั่นใจและมีชีวิตที่ดีขึ้นจริง ๆ
เพราะอยากให้ลูกค้ารับไปบูชาแล้ว รู้สึกมั่นใจและมีชีวิตที่ดีขึ้นจริง ๆ
ที่ขาดไม่ได้ คือ เรื่องความสวยงาม ที่ทีมตั้งใจออกแบบให้เป็น Unisex ใส่ง่ายในชีวิตประจำวัน
นอกจากสินค้าจะปัง เพราะฟังฟีดแบ็กของลูกค้าแล้ว Harmenstone ยังโด่งดังจากบริการ Customise ที่ต่อยอดมาจากการรับฟังลูกค้าเช่นกัน
“เดิม เรามีบริการ Customise สร้อยข้อมือให้มีขนาดพอดีกับข้อมือของลูกค้าอยู่แล้ว
แต่ตอนหลังเราต่อยอดบริการ ให้ลูกค้าสามารถเลือกมิกซ์แอนด์แมตช์หินและชาร์มได้เอง แทนที่จะเลือกตามที่เราออกแบบไว้แล้ว”
แต่ตอนหลังเราต่อยอดบริการ ให้ลูกค้าสามารถเลือกมิกซ์แอนด์แมตช์หินและชาร์มได้เอง แทนที่จะเลือกตามที่เราออกแบบไว้แล้ว”
งานนี้ไม่ต้องกลัวว่า เลือกเองแล้วจะไม่สวยหรือไม่ปัง เพราะทางแบรนด์ มี Stone Master หรือทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านหิน คอยให้คำปรึกษา
เพื่อออกแบบกำไลหินตามราศี วันเกิด หรือตามความหมายมงคล พร้อมให้คำแนะนำเกี่ยวกับการบูชาสร้อยมงคลอีกด้วย
เพื่อออกแบบกำไลหินตามราศี วันเกิด หรือตามความหมายมงคล พร้อมให้คำแนะนำเกี่ยวกับการบูชาสร้อยมงคลอีกด้วย
ที่สำคัญ ต่อให้สั่งแบบออนไลน์ ก็สามารถใช้บริการ Customise ได้ โดยไม่จำเป็นต้องแวะมาที่หน้าร้าน
บริการที่แตกต่าง แต่ได้ใจลูกค้านี้เอง ทำให้ Harmenstone ยิ่งโด่งดัง
ที่สำคัญ ไม่ได้ถูกใจแค่ลูกค้าคนไทย แต่รวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยว ที่รู้จัก Harmenstone จากตอนที่เริ่มไปเปิด Pop up Store ตามห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
ที่สำคัญ ไม่ได้ถูกใจแค่ลูกค้าคนไทย แต่รวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยว ที่รู้จัก Harmenstone จากตอนที่เริ่มไปเปิด Pop up Store ตามห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
ในวันที่ Harmenstone เดินทางมาถึงปีที่ 5 ถ้าถามว่า อะไรคือ Key Success ที่ทำให้แบรนด์ประสบความสำเร็จในระดับที่น่าพอใจ ?
คุณเคน มองว่า ความใส่ใจในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเลือกวัสดุ การออกแบบ ไปจนถึงการทำพิธี เพื่อปลุกเสกเสริมความมงคล
โดยทางแบรนด์จะทำการบ้านเป็นอย่างดี เพื่อเลือกสถานที่ทำพิธี ที่ถูกหลักการของเทพแต่ละองค์ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อ
โดยทางแบรนด์จะทำการบ้านเป็นอย่างดี เพื่อเลือกสถานที่ทำพิธี ที่ถูกหลักการของเทพแต่ละองค์ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อ
นอกจากนี้ แต่ละปี Harmenstone จะมีการออกคอลเลกชันอย่างต่อเนื่อง เพราะคุณบุ๊คเชื่อว่า ทุกครั้งที่ออกคอลเลกชันใหม่ ก็เหมือนเป็นการสร้าง NEW S-Curve หรือ แรงกระเพื่อมใหม่ ๆ ให้กับธุรกิจอยู่ตลอดเวลา
หนึ่งในคอลเลกชันที่จะเรียกว่าเป็น NEW S-Curve ของแบรนด์ในปีนี้ ก็คือ คอลเลกชันเจ้าแม่กวนอิม ที่เปิดตัวไปเมื่อช่วงตรุษจีนที่ผ่านมา
จุดเด่นของคอลเลกชันนี้ คือ นอกจากจะออกแบบชาร์มรูปดอกบัวโภคทรัพย์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเจ้าแม่กวนอิม
ยังเป็นครั้งแรกที่แบรนด์ นำชาร์มไปทำพิธีปลุกเสกถึงวัดเจ้าแม่กวนอิมฮ่องฮำ หนึ่งในวัดที่เก่าแก่และโด่งดังที่สุดของเกาะฮ่องกง
ยังเป็นครั้งแรกที่แบรนด์ นำชาร์มไปทำพิธีปลุกเสกถึงวัดเจ้าแม่กวนอิมฮ่องฮำ หนึ่งในวัดที่เก่าแก่และโด่งดังที่สุดของเกาะฮ่องกง

ทุ่มทุนสร้างขนาดนี้ แน่นอนว่า ผลลัพธ์ที่ออกมาก็เป็นไปตามคาด หลังจากเปิดตัว ก็ Sold out ภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง เรียกว่า ใครช้า ก็ต้องอดใจรอสินค้าล็อตถัดไป ซึ่งทั้งคู่กระซิบว่าทำพิธีจากฮ่องกงมาแล้ว
สำหรับในอนาคต ทั้งคู่ตั้งใจว่า จะแตกไลน์สินค้าใหม่ ๆ เพิ่มเติม จากตอนนี้ที่มีทั้งสร้อยข้อมือ สร้อยคอ และกำไล โดยก่อนหน้านี้ ได้แตกแบรนด์ Karava นำเสนอองค์เทพบูชาตั้งโต๊ะ ให้สอดคล้องกับยุคสมัยใหม่
โดยการตัดทอน ทำให้โมเดิร์นขึ้น และเพิ่มบรรยากาศให้สวยงามกับพื้นที่ด้วย
โดยการตัดทอน ทำให้โมเดิร์นขึ้น และเพิ่มบรรยากาศให้สวยงามกับพื้นที่ด้วย
นอกจากนี้ยังมองไปถึงการหาพาร์ตเนอร์ เพื่อขยายแบรนด์ไปในภูมิภาคอาเซียน
ซึ่งมีความเชื่อและความศรัทธาคล้าย ๆ กับคนไทย เพราะเชื่อว่า เทรนด์เครื่องประดับสายมู จะยังไม่ไปไหน ตราบที่คนไทยยังมีความเชื่อและความศรัทธา
ซึ่งมีความเชื่อและความศรัทธาคล้าย ๆ กับคนไทย เพราะเชื่อว่า เทรนด์เครื่องประดับสายมู จะยังไม่ไปไหน ตราบที่คนไทยยังมีความเชื่อและความศรัทธา
สิ่งที่จะเปลี่ยนไป คือ เทรนด์ในการออกแบบ ซึ่งแบรนด์ต้องไม่หยุดอยู่กับที่ ต้องศึกษาเทรนด์
ทั้งในแง่ของการออกแบบ และ องค์เทพที่กำลังเป็นกระแส เพื่อนำมาเป็นโจทย์ในการทำงาน
ทั้งในแง่ของการออกแบบ และ องค์เทพที่กำลังเป็นกระแส เพื่อนำมาเป็นโจทย์ในการทำงาน
ที่สำคัญ Harmenstone ไม่ได้จำกัดตัวเองอยู่แค่การขายสินค้า แต่นิยามตัวเองว่า กำลังส่งมอบประสบการณ์ที่ทรงคุณค่าให้แก่ลูกค้าผ่านเครื่องประดับ
จึงมีบริการหลังการขาย ที่พร้อมดูแลลูกค้าแบบตลอดชีพ สามารถมาร้อยเอ็นใหม่ หรือถ้าเป็นเครื่องประดับเงินก็สามารถนำมาขัดเงาได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

ปิดท้ายด้วยคำถามที่หลายคนอาจจะคาใจว่า จากหนุ่มวิศวกรมาทำเครื่องประดับก็ว่าแปลกแล้ว ยังมาทำเครื่องประดับสายมูด้วย
เรื่องนี้คุณเคน ตอบอย่างน่าสนใจว่า “ถึงวิศวกรจะสอนให้คิดทุกอย่าง อย่างเป็นระบบ คิดอะไรเป็นเหตุเป็นผล
แต่ผมเชื่อว่าการจะไปถึงเป้าหมายหรือความสำเร็จ เรื่องความเชื่อ ความศรัทธาก็ต้องไปคู่ขนานกัน”
แต่ผมเชื่อว่าการจะไปถึงเป้าหมายหรือความสำเร็จ เรื่องความเชื่อ ความศรัทธาก็ต้องไปคู่ขนานกัน”
ซึ่งวันนี้ Harmenstone ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ความสำเร็จที่ทั้งคู่พูดถึง หน้าตาเป็นอย่างไร..
Reference
-สัมภาษณ์โดยตรงกับเจ้าของแบรนด์ คุณบุ๊ค-หัสวีร์ วิรัลสิริภักดิ์ และ คุณเคน-นันท์ธร พรกุลวัฒน์
-สัมภาษณ์โดยตรงกับเจ้าของแบรนด์ คุณบุ๊ค-หัสวีร์ วิรัลสิริภักดิ์ และ คุณเคน-นันท์ธร พรกุลวัฒน์