Squatty Potty ที่วางเท้าขณะนั่งส้วม ที่ขายได้ 5,000 ล้าน
Business

Squatty Potty ที่วางเท้าขณะนั่งส้วม ที่ขายได้ 5,000 ล้าน

6 ม.ค. 2022
Squatty Potty ที่วางเท้าขณะนั่งส้วม ที่ขายได้ 5,000 ล้าน /โดย ลงทุนเกิร์ล
เมื่อเรามีอายุมากขึ้น สุขภาพร่างกายของใครหลายคนก็จะเริ่มแย่ลง
และหนึ่งในอาการป่วยที่จะพบได้เมื่อเราแก่ขึ้น ก็คืออาการ “ท้องผูก”
ซึ่งเป็นปัญหาหนักท้องของใครหลายคน โดยหนึ่งในนั้นก็คือคุณ Judy Edwards
พอเรื่องเป็นแบบนี้ ลูกชายของเธอจึงอยากที่จะช่วยคุณแม่ของตัวเอง ให้มีความสุขกับการเข้าห้องน้ำ จนได้คิดค้น Squatty Potty ที่วางเท้า สำหรับใช้ตอนนั่งอยู่บนโถส้วม ซึ่งจะช่วยให้ทุก ๆ คนสามารถขับถ่ายได้อย่างราบรื่นกว่าที่เคย
ที่น่าสนใจคือ เก้าอี้วางขาที่ดูเป็นของชิ้นเล็ก ๆ ไม่ได้มีนวัตกรรมล้ำยุคอะไร กลับขายได้มากกว่า 5,000 ล้านบาทแล้ว
แล้วเรื่องราวของ Squatty Potty น่าสนใจอย่างไร ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
ก่อนที่จะมาเป็น Squatty Potty นั้น จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้มาจากคุณ Judy Edwards คุณแม่วัย 60 ปี ที่มีปัญหาการขับถ่าย จนต้องไปปรึกษาแพทย์เพื่อหาทางออก ซึ่งแพทย์ก็ได้แนะนำว่า ให้ลองหาที่วางเท้า มาวางรองไว้ขณะทำธุระในห้องน้ำ
และเมื่อคุณ Judy Edwards ลองทำดูก็พบว่า เธอสามารถขับถ่ายได้สะดวกมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ก็ติดปัญหาอยู่เล็กน้อย เนื่องจากรูปร่างของเก้าอี้ทั่วไป ไม่เหมาะ
กับการวางในห้องน้ำ
ทำให้ทางด้านลูกชายของคุณ Judy Edwards หรือคุณ Bobby Edwards มองว่า
นี่คือโอกาสทางธุรกิจอย่างหนึ่งที่เขาจะสามารถทำได้
และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์ Squatty Potty ซึ่งเป็นชื่อที่ได้แรงบันดาลใจมาจากห้องน้ำแบบหลุม
แบบดั้งเดิมจากประเทศจีน หรือก็คือส้วมซึมแบบในบ้านเรานั่นเอง
ถึงแม้ว่าหลายคนอาจมองว่าโถส้วมซึมใช้งานลำบาก แต่รู้หรือไม่ว่าท่าทางขณะนั่งใช้ส้วมซึมนั้น
เป็นท่าที่ดีมาก ๆ สำหรับการทำธุระหนักให้ไหลลื่นไม่มีสะดุด
ดังนั้นคุณ Bobby Edwards จึงออกแบบที่วางเท้าของ Squatty Potty ให้คล้าย ๆ กับเก้าอี้เตี้ย ๆ ที่เราใช้นั่งซักผ้าในสมัยก่อน โดยมีรูปทรงเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มีความโค้ง เพื่อให้ตัวที่วางเท้า สามารถสอดเข้ากับชักโครกได้พอดี และมีระดับความสูงที่จะช่วยยกขาเราให้นั่งคล้าย ๆ ท่านั่งยองเวลาใช้ส้วมซึม
ในตอนแรกที่วางเท้าของ Squatty Potty จะทำมาจากไม้ เพื่อให้มีหน้าตาสวยงาม
และใช้กันเองในครอบครัว ก่อนที่จะเริ่มแจกจ่ายเป็นของขวัญให้กับญาติ ๆ ซึ่งผลปรากฏว่า
ทุกคนตอบรับเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ
จนในที่สุด ครอบครัวของคุณ Bobby Edwards จึงตัดสินใจใช้เงิน 1.1 ล้านบาท เพื่อสร้างเว็บไซต์และเริ่มผลิตสินค้าขึ้นมาจริง ๆ
อย่างไรก็ตาม การที่ Squatty Potty ผลิตจากไม้นั้น ทำให้ต้นทุนการผลิตมีราคาที่ค่อนข้างสูง คุณ Bobby Edwards จึงตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้ พลาสติกในการผลิตแทน เพื่อลดต้นทุน
หลังจากนั้นก็สั่งผลิตสินค้าจากประเทศจีน เป็นจำนวนกว่า 2,000 ชิ้นทันที
ในช่วงแรกของ Squatty Potty อาศัยการส่งสินค้าไปยังบล็อกเกอร์ด้านสุขภาพ เพื่อให้บล็อกเกอร์เหล่านั้นช่วยโปรโมตและสร้างกระแส จน Squatty Potty เริ่มเป็นที่รู้จัก
มากไปกว่านั้น Squatty Potty ก็ได้มีโอกาสไปออกรายการ Shark Tank ในปี 2014
และคว้าเงินลงทุนจำนวน 11.7 ล้านบาทจากหนึ่งในคณะกรรมการ แลกกับหุ้นจำนวน 10%
รวมถึงหลังจากที่รายการออกอากาศไป Squatty Potty ก็สามารถขายสินค้าได้ 30 ล้านบาท
ภายในระยะเวลาเพียง 24 ชั่วโมงเท่านั้น
และในปี 2015 Squatty Potty ก็สร้างปรากฏการณ์อีกครั้งด้วยการเปิดตัววิดีโอโฆษณาในยูทูบ ที่มีเนื้อหาเป็นม้ายูนิคอร์นและเจ้าชายทรงเสน่ห์ มาบรรยายถึงคุณสมบัติของ Squatty Potty ผ่านการผลิตไอศกรีมของยูนิคอร์นด้วยการทำธุระหนัก จนกลายเป็นไวรัล ซึ่งมีผู้เข้าชมกว่า 100 ล้านครั้ง
รวมถึงยอดขายที่พุ่งสูงขึ้นเป็น 635 ล้านบาทในปีเดียวกัน
ที่น่าสนใจคือ โฆษณาตัวดังกล่าวใช้เงินในการสร้างถึง 8 ล้านบาทเลยทีเดียว แต่ผลตอบรับที่ได้กลับมาก็เรียกได้ว่าคุ้มค่า รวมถึงม้ายูนิคอร์นในโฆษณาเอง
ภายหลังก็ถูกนำมาผลิตเป็นตุ๊กตากึ่งแมสคอตของ Squatty Potty อีกด้วย
ปัจจุบันรายได้ตั้งแต่เปิดกิจการมาของ Squatty Potty อยู่ที่ 5,505 ล้านบาทเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งใครจะไปคิดว่าเพียงแค่ “ที่วางขา” ธรรมดา ๆ จะสามารถสร้างเงินเป็นหลักพันล้านบาทได้
นอกจากนี้ บริษัทยังมีผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขับถ่ายที่ถูกสุขลักษณะ เช่น กระดาษชำระ หรือแม้แต่ตุ๊กตายูนิคอร์น ที่สอนท่าทางการนั่งทำธุระหนักอย่างถูกวิธี
เรื่องราวของ Squatty Potty แม้จะดูเป็นการเริ่มต้นจากสิ่งง่าย ๆ แต่ก็เป็นการแสดงให้เห็นว่าจริง ๆ แล้วสินค้าที่จะขายในท้องตลาด ไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งที่พิเศษ หรือเป็นนวัตกรรมที่ล้ำยุคเสมอไป
ขอแค่เป็นสิ่งที่ช่วยแก้ปัญหาของคน
เช่นเดียวกับที่วางขาของ Squatty Potty
ที่ไม่ได้มีหน้าที่อะไรนอกจากช่วยให้เราทุกคนทำธุระได้สบายขึ้น
แต่กลับขายได้ จนกลายเป็นธุรกิจพันล้าน..
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.