FashionLifestyleBusiness
CHARLES & KEITH X ลงทุนเกิร์ล สรุป เส้นทาง 25 ปีของ CHARLES & KEITH จากร้านรองเท้าเล็ก ๆ ในสิงคโปร์ สู่ แบรนด์แฟชั่นระดับโลก
21 ต.ค. 2021
CHARLES & KEITH X ลงทุนเกิร์ล
รู้หรือไม่ ปัจจุบัน CHARLES & KEITH มีสาขาอยู่มากกว่า 600 แห่ง
ครอบคลุมทั้งในสหรัฐอเมริกา, ยุโรป, เอเชียแปซิฟิก และตะวันออกกลาง
ซึ่งนี่ถือว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ที่แบรนด์แฟชั่นจากเอเชีย จะสามารถขยายกิจการไปได้ไกลขนาดนี้
และที่สำคัญ คือ ในปีนี้ แบรนด์ CHARLES & KEITH ก็ได้เดินทางมาถึงปีที่ 25 แล้ว
ครอบคลุมทั้งในสหรัฐอเมริกา, ยุโรป, เอเชียแปซิฟิก และตะวันออกกลาง
ซึ่งนี่ถือว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ที่แบรนด์แฟชั่นจากเอเชีย จะสามารถขยายกิจการไปได้ไกลขนาดนี้
และที่สำคัญ คือ ในปีนี้ แบรนด์ CHARLES & KEITH ก็ได้เดินทางมาถึงปีที่ 25 แล้ว
แต่กว่าที่ CHARLES & KEITH จะประสบความสำเร็จอย่างในทุกวันนี้ จะมีความเป็นมาอย่างไร ?
และครบรอบ 25 ปี แบรนด์ CHARLES & KEITH จะมีอะไรรอทุกคนอยู่
ลงทุนเกิร์ลเล่าให้ฟัง..
และครบรอบ 25 ปี แบรนด์ CHARLES & KEITH จะมีอะไรรอทุกคนอยู่
ลงทุนเกิร์ลเล่าให้ฟัง..
แบรนด์ CHARLES & KEITH ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 1996 หรือเมื่อประมาณ 25 ปีที่แล้ว
โดยสองพี่น้องชาวสิงคโปร์ที่ชื่อว่า คุณ Charles และคุณ Keith Wong
โดยสองพี่น้องชาวสิงคโปร์ที่ชื่อว่า คุณ Charles และคุณ Keith Wong
แต่จริง ๆ แล้วก่อนหน้าที่ทั้งคู่จะมาก่อตั้งแบรนด์อย่างเป็นกิจลักษณะ
ครอบครัวของพวกเขาตั้งแต่ในรุ่นพ่อแม่ ก็เริ่มต้นธุรกิจจากการเปิดร้านขายรองเท้า
ครอบครัวของพวกเขาตั้งแต่ในรุ่นพ่อแม่ ก็เริ่มต้นธุรกิจจากการเปิดร้านขายรองเท้า
จนกระทั่งคุณ Charles Wong ในวัย 22 ปีได้แยกตัวออกมาเปิดร้านรองเท้าเล็ก ๆ ของตัวเอง
และพบว่า ร้านรองเท้าของเขาในขณะนั้น ยังไม่มีอะไรที่แตกต่างจากร้านรองเท้าอีกนับร้อยแห่งในสิงคโปร์
และพบว่า ร้านรองเท้าของเขาในขณะนั้น ยังไม่มีอะไรที่แตกต่างจากร้านรองเท้าอีกนับร้อยแห่งในสิงคโปร์
ดังนั้น คุณ Charles Wong จึงได้คิดว่าทางออกของปัญหานี้ คือ การออกแบบรองเท้าขึ้นใหม่ และสร้างแบรนด์ขึ้นมาเป็นของตัวเอง พร้อมกับยังได้ไปชักชวนน้องชายคุณ Keith Wong ให้เข้ามาร่วมกันสร้างแบรนด์รองเท้าด้วยกัน และตอนนี้เองที่แบรนด์ CHARLES & KEITH ได้ถือกำเนิดขึ้น..
ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเดินมาได้ถูกทาง
เพราะหลังจากเริ่มวางขายสินค้าที่ออกแบบ และผลิตกันขึ้นเองภายในบ้านของพวกเขา สินค้าก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างดี จนต้องไปจ้างโรงงานเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตเลยทีเดียว
เพราะหลังจากเริ่มวางขายสินค้าที่ออกแบบ และผลิตกันขึ้นเองภายในบ้านของพวกเขา สินค้าก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างดี จนต้องไปจ้างโรงงานเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตเลยทีเดียว
ที่น่าสนใจ คือ หลังจาก CHARLES & KEITH ก่อตั้งมาได้เพียงแค่ 2 ปี
แบรนด์ก็สามารถขยายกิจการออกไปนอกประเทศเป็นครั้งแรกได้สำเร็จ
โดยเริ่มจากอินโดนีเซีย และหลังจากนั้นอีก 4 ปีก็เริ่มรุกเข้าสู่ตลาดฟิลิปปินส์
แบรนด์ก็สามารถขยายกิจการออกไปนอกประเทศเป็นครั้งแรกได้สำเร็จ
โดยเริ่มจากอินโดนีเซีย และหลังจากนั้นอีก 4 ปีก็เริ่มรุกเข้าสู่ตลาดฟิลิปปินส์
และต่อมาในปี 2004 ที่อาจจะเรียกว่าเป็นปีทองของ CHARLES & KEITH เลยก็ว่าได้
เพราะหลังจากที่แบรนด์วางขาย "รองเท้าส้นสูงหัวเข็มขัด" สินค้านี้ก็ได้กลายมาเป็นไอเทมที่สร้างชื่อให้แบรนด์ จนโด่งดังไปทั่วภูมิภาค แถมยังทำให้ลูกค้าหลายคนตกหลุมรักแบรนด์ CHARLES & KEITH และตามมาซื้อสินค้าอื่น ๆ ของแบรนด์กันอย่างไม่ขาดสาย
และในปีเดียวกันนี้ CHARLES & KEITH ยังได้เปิดตัวแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของตัวเองขึ้น
ซึ่งถือเป็น “แบรนด์แฟชั่นแรกของสิงคโปร์” ที่มีการให้บริการดังกล่าว
และยังเป็นการตัดสินใจที่สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของแบรนด์ที่เห็นความสำคัญของโลกดิจิทัล จนในปัจจุบันแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของ CHARLES & KEITH สามารถให้บริการได้ใน 70 ประเทศทั่วโลก
ซึ่งถือเป็น “แบรนด์แฟชั่นแรกของสิงคโปร์” ที่มีการให้บริการดังกล่าว
และยังเป็นการตัดสินใจที่สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของแบรนด์ที่เห็นความสำคัญของโลกดิจิทัล จนในปัจจุบันแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของ CHARLES & KEITH สามารถให้บริการได้ใน 70 ประเทศทั่วโลก
หลังจากประสบความสำเร็จ จากผลงานการออกแบบรองเท้าแล้ว
CHARLES & KEITH ก็ได้ต่อยอดด้วยการเปิดตัวคอลเลกชัน "กระเป๋า" ขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2005
ซึ่งก็ได้รับผลตอบรับที่ดีอีกเช่นเคย และในปัจจุบัน กระเป๋าก็ได้กลายมาเป็นหนึ่งในสินค้าหลักของแบรนด์เป็นที่เรียบร้อย..
CHARLES & KEITH ก็ได้ต่อยอดด้วยการเปิดตัวคอลเลกชัน "กระเป๋า" ขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2005
ซึ่งก็ได้รับผลตอบรับที่ดีอีกเช่นเคย และในปัจจุบัน กระเป๋าก็ได้กลายมาเป็นหนึ่งในสินค้าหลักของแบรนด์เป็นที่เรียบร้อย..
ขณะเดียวกัน CHARLES & KEITH ยังคงได้เดินหน้าขยายสาขาไปยังประเทศอื่นเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ซึ่งหนึ่งในนั้นรวมถึงประเทศไทย ที่ CHARLES & KEITH ได้เข้ามาเปิดสาขาอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2006 หรือประมาณ 15 ปีที่แล้ว ก่อนที่จะตามมาด้วยประเทศเวียดนาม และมาเลเซีย
ซึ่งหนึ่งในนั้นรวมถึงประเทศไทย ที่ CHARLES & KEITH ได้เข้ามาเปิดสาขาอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2006 หรือประมาณ 15 ปีที่แล้ว ก่อนที่จะตามมาด้วยประเทศเวียดนาม และมาเลเซีย
นอกจาก CHARLES & KEITH จะประสบความสำเร็จในแวดวงธุรกิจแล้ว
ในส่วนของผลงานแฟชั่น ก็โดดเด่นไม่แพ้กัน
ในส่วนของผลงานแฟชั่น ก็โดดเด่นไม่แพ้กัน
เพราะบ่อยครั้งที่สินค้าของ CHARLES & KEITH มักจะถูกหยิบไปใช้ออกงานโดยบรรดาเซเลบริตีคนดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Gigi Hadid, Naomi Scott, Lottie Moss และ Maisie Williams ที่ถือกระเป๋าทรงสามเหลี่ยมของแบรนด์ไปเดินพรมแดงงาน Emmy Awards 2016 จนทำให้สินค้ารุ่นนั้น Sold Out บนเว็บไซต์อย่างรวดเร็ว
ในขณะเดียวกัน CHARLES & KEITH ยังได้ร่วมงานกับคุณ Molly Goddard หนึ่งในดีไซเนอร์ผู้ทรงอิทธิพลของโลกแฟชั่น บนรันเวย์ London Fashion Week ในคอลเลกชัน Spring/Summer 2019 อีกด้วย
และต่อมาในเดือนพฤษภาคม 2020 แบรนด์ CHARLES & KEITH ยังได้เปิดตัวคอลเลกชัน ร่วมกับคุณ Cecilie Bahnsen ดีไซเนอร์ชื่อดัง ชาวเดนมาร์ก
นอกจากนี้ CHARLES & KEITH ยังได้ตอกย้ำความสำเร็จอีกครั้ง
จากผลงานกระเป๋าหนังสะพานข้างรุ่น “Gabine” ที่มาพร้อมอะไหล่สีทอง ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในไอเทมยอดฮิตอย่างรวดเร็ว และยังมีบรรดาคนดังพากันสะพายกระเป๋ารุ่นนี้ไม่ขาดสาย
จากผลงานกระเป๋าหนังสะพานข้างรุ่น “Gabine” ที่มาพร้อมอะไหล่สีทอง ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในไอเทมยอดฮิตอย่างรวดเร็ว และยังมีบรรดาคนดังพากันสะพายกระเป๋ารุ่นนี้ไม่ขาดสาย
และสำหรับในปี 2021 นี้ CHARLES & KEITH ก็ได้เข้าสู่ที่ปี 25 พร้อมทั้งเตรียมเซอร์ไพรส์ไว้รอทุกคน
ด้วยการเปิดตัว "โลกเสมือน Virtual Anniversary" ที่เราสามารถเข้าไปสร้างอวตาร 3D ของตัวเอง พร้อมกับเดินเข้าชม Virtual Showroom ที่ราวกับว่าเราได้เข้าไปเดินชมแกลเลอรี และสตูดิโอด้วยตัวเอง
ด้วยการเปิดตัว "โลกเสมือน Virtual Anniversary" ที่เราสามารถเข้าไปสร้างอวตาร 3D ของตัวเอง พร้อมกับเดินเข้าชม Virtual Showroom ที่ราวกับว่าเราได้เข้าไปเดินชมแกลเลอรี และสตูดิโอด้วยตัวเอง
สำหรับใครที่อยากลองเข้าไปเล่น Virtual Anniversary คลิกที่ลิงก์นี้ได้เลยค่ะ
https://www.charleskeith.com/sg/charles-keith-turns-twenty-five/virtual-anniversary.html
https://www.charleskeith.com/sg/charles-keith-turns-twenty-five/virtual-anniversary.html
อีกทั้ง CHARLES & KEITH ยังมาพร้อมกับคอลเลกชัน “The Anniversary Series"
ที่มีทั้ง รองเท้าแตะสไตล์มินิมอล, รองเท้าส้นสูง, รองเท้าบูท ไปจนถึง กระเป๋าหลากหลายแบบ
ที่มีทั้ง รองเท้าแตะสไตล์มินิมอล, รองเท้าส้นสูง, รองเท้าบูท ไปจนถึง กระเป๋าหลากหลายแบบ
โดยคอลเลกชันนี้ ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบ มาจากยุค 90
เพื่อให้เราทุกคนได้ย้อนกลับไปสู่ช่วงที่แบรนด์เพิ่งได้ก่อตั้งขึ้นนั่นเอง
เพื่อให้เราทุกคนได้ย้อนกลับไปสู่ช่วงที่แบรนด์เพิ่งได้ก่อตั้งขึ้นนั่นเอง
และอีกหนึ่งความพิเศษของคอลเลกชันนี้ ก็คือ การใช้ "วัสดุรีไซเคิล" ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมทั้งหมด
ซึ่งเกิดขึ้นจากมุมมองของทีมออกแบบ CHARLES & KEITH ที่อยากให้การครบรอบ 25 ปีนี้เป็นโอกาสที่ดีในการช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อม และยั่งยืนขึ้น
เรียกได้ว่าเป็นการฉลองครบรอบ 25 ปี ที่ไม่เพียงแค่จะชวนให้เรานึกถึงวันวานที่เพิ่งก่อตั้งแบรนด์
แต่ก็ยังคำนึงถึงเรื่องสิ่งแวดล้อมไม่แพ้กัน
แต่ก็ยังคำนึงถึงเรื่องสิ่งแวดล้อมไม่แพ้กัน
ซึ่งนี่ก็ถือเป็นการตัดสินใจที่น่าจับตามองเลยทีเดียว เพราะถ้าหากแบรนด์ใหญ่ ๆ อย่าง CHARLES & KEITH ที่เริ่มหันมาใช้วัสดุรักษ์โลกมากขึ้น ก็อาจจะช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลงต่อวงการแฟชั่นให้หลาย ๆ น้อยใหญ่ แบรนด์หันมาเห็นความสำคัญกับเรื่องนี้เพิ่มขึ้น ซึ่งมันก็คงจะดีกับโลกของเราไม่น้อย..
นอกจากนี้ CHARLES & KEITH ยังมาพร้อมกับเซอร์ไพรส์อีกหนึ่งอย่าง ด้วย Playlist จาก “Spotify” ที่ชวนให้เราทุกคนได้สัมผัสการเดินทาง 25 ปีของ CHARLES & KEITH ผ่านบทเพลงถึง 28 เพลง
และสำหรับใครที่อยากรู้ว่า การเส้นทาง 25 ปีของ CHARLES & KEITH ที่ถูกถ่ายทอดผ่านบทเพลงจะเป็นอย่างไร เข้าไปฟังได้ที่ Spotify หรือคลิกลิงก์ด้านล่างได้เลยค่ะ https://open.spotify.com/embed/playlist/6HwLyXODqXkOZeA6DNBDTF
ส่วนใครที่เป็นสายรักการอ่าน สามารถเข้าไปอ่านเรื่องราว 25 Moments ของ CHARLES & KEITH ได้ที่ https://www.charleskeith.com/sg/charles-keith-turns-twenty-five/moments-highlights.html