Health & BeautyEntertainmentBusiness
เมื่อ Selena Gomez กำลังจะเป็น “แม่ค้า”
13 ส.ค. 2020
เมื่อ Selena Gomez กำลังจะเป็น “แม่ค้า” /โดย ลงทุนเกิร์ล
บ่อยครั้งที่เราเห็นดารา หรือคนมีที่ชื่อเสียงหันมาทำธุรกิจ
แค่ในสายธุรกิจความงาม เราก็แทบจะนับกันไม่หมด ยกตัวอย่างเช่น
แค่ในสายธุรกิจความงาม เราก็แทบจะนับกันไม่หมด ยกตัวอย่างเช่น
แบรนด์ Fenty Beauty ของ Rihanna
แบรนด์ Haus Beauty ของ Lady Gaga
แบรนด์ KKW ของ Kim Kardashian
แบรนด์ Kylie Cosmetics ของ Kylie Jenner
แบรนด์ Haus Beauty ของ Lady Gaga
แบรนด์ KKW ของ Kim Kardashian
แบรนด์ Kylie Cosmetics ของ Kylie Jenner
ตอนนี้คงถึงเวลาของ Selena Gomez ที่จะได้ก้าวเข้าสู่วงการธุรกิจความงามบ้าง
โดยเธอได้เปิดตัวแบรนด์เครื่องสำอางที่ชื่อว่า “Rare Beauty”
โดยเธอได้เปิดตัวแบรนด์เครื่องสำอางที่ชื่อว่า “Rare Beauty”
สำหรับใครที่ไม่รู้จัก Selena Gomez (เซลีนา โกเมซ)
เธอคือ นักร้อง และนักแสดง สัญชาติอเมริกัน
เธอคือ นักร้อง และนักแสดง สัญชาติอเมริกัน
เธอมีทั้งผลงานเพลงยอดฮิต อย่างเช่น
The Heart Wants What It Wants, It Ain't Me และ Come & Get It
The Heart Wants What It Wants, It Ain't Me และ Come & Get It
และเธอยังเป็นเด็กสาวที่เติบโตมาจากดิสนีย์
โดยผลงานการแสดงที่สร้างชื่อเสียงให้กับเธอเลยก็คือ
ซีรีส์ Barney & Friends และซีรีส์ Wizards of Waverly Place
โดยผลงานการแสดงที่สร้างชื่อเสียงให้กับเธอเลยก็คือ
ซีรีส์ Barney & Friends และซีรีส์ Wizards of Waverly Place
นอกจากนี้ อีกเรื่องที่ทำให้หลายๆ คนคุ้นชื่อเธอ
ก็อาจเป็นเพราะ Selena Gomez เป็นอดีตคนรักของนักร้องหนุ่มชื่อดังอย่าง Justin Bieber นั่นเอง
ก็อาจเป็นเพราะ Selena Gomez เป็นอดีตคนรักของนักร้องหนุ่มชื่อดังอย่าง Justin Bieber นั่นเอง
โดยปัจจุบันทาง Celebritynetworth ได้ประเมินมูลค่าทรัพย์สินของเธออยู่ที่ประมาณ 2.3 พันล้านบาท
ซึ่งรายได้หลักๆ ของ Selena Gomez จะมาจากค่าตัวและส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวกับผลงานเพลง
Selena Gomez เป็นหนึ่งในบุคคลที่มีชื่อเสียง ทรงอิทธิพลคนหนึ่งของโลก
บัญชีอินสตาแกรมของ Selena Gomez มียอดผู้ติดตามสูงถึง 185 ล้านคน
ซึ่งทำให้เธอติดอันดับที่ 5 ของบุคคลที่มีผู้ติดตามมากที่สุดในโลก
ซึ่งทำให้เธอติดอันดับที่ 5 ของบุคคลที่มีผู้ติดตามมากที่สุดในโลก
หลังจากที่เธอเปิดตัวแบรนด์ Rare Beauty ได้ไม่นาน
ยอดผู้ติดตามในอินสตาแกรม Rare Beauty ก็พุ่งขึ้นสูงถึง 1.3 ล้านคนอย่างรวดเร็ว
ซึ่งเรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลและกระแสตอบรับจากแฟนๆ ของเธออย่างดี
ยอดผู้ติดตามในอินสตาแกรม Rare Beauty ก็พุ่งขึ้นสูงถึง 1.3 ล้านคนอย่างรวดเร็ว
ซึ่งเรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลและกระแสตอบรับจากแฟนๆ ของเธออย่างดี
คอนเซปต์หลักของแบรนด์ Rare Beauty จะพูดถึงเรื่อง
“การทำลายมาตรฐานความสวยแบบพิมพ์นิยม”
“การทำลายมาตรฐานความสวยแบบพิมพ์นิยม”
แบรนด์ Rare Beauty มีจุดยืนที่ว่า ทุกคนมีความสวยในแบบของตัวเอง
และแค่เราไม่ได้สวยเหมือนคนอื่น ไม่ได้แปลว่าเราไม่สวย
และแค่เราไม่ได้สวยเหมือนคนอื่น ไม่ได้แปลว่าเราไม่สวย
แต่นั่นคือ ความสวยในแบบที่ยากจะพบเจอทั่วๆ ไป
เปรียบเสมือนกับสิ่งของล้ำค่าที่ยากจะหาพบ
และจุดนี้เองที่ได้กลายเป็นที่มาของชื่อแบรนด์ Rare Beauty
เปรียบเสมือนกับสิ่งของล้ำค่าที่ยากจะหาพบ
และจุดนี้เองที่ได้กลายเป็นที่มาของชื่อแบรนด์ Rare Beauty
Rare Beauty จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 3 กันยายนนี้
โดยจะวางขายที่ Sephora สหรัฐฯ แคนาดา และเม็กซิโก
โดยจะวางขายที่ Sephora สหรัฐฯ แคนาดา และเม็กซิโก
และจะเปิดตัวมาพร้อมกับรองพื้นและคอนซีลเลอร์ถึง 48 เฉดสี
ซึ่งเป็นการตอกย้ำจุดยืนของแบรนด์ ที่อยากให้ทุกคนสามารถสวยได้ในแบบที่เป็นตัวเอง
ไม่ว่าคุณจะมีสีผิวอะไรก็ตาม
ซึ่งเป็นการตอกย้ำจุดยืนของแบรนด์ ที่อยากให้ทุกคนสามารถสวยได้ในแบบที่เป็นตัวเอง
ไม่ว่าคุณจะมีสีผิวอะไรก็ตาม
นอกจากนี้ความน่าสนใจของเรื่องนี้ยังอยู่ที่ อีกหนึ่งในจุดประสงค์ของการสร้างแบรนด์
Selena Gomez มีอาการป่วยและต้องเข้ารับการดูแลสุขภาพจิตอยู่บ่อยครั้ง
ทำให้เธอค่อนข้างเข้าใจปัญหาของคนที่ป่วยทางจิตได้ดี
ทำให้เธอค่อนข้างเข้าใจปัญหาของคนที่ป่วยทางจิตได้ดี
ซึ่งในสหรัฐฯ ประเทศที่เธอกำลังอาศัยอยู่นั้น
ผู้ใหญ่ 1 ใน 5 คนจะมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพจิต
และแน่นอนว่าค่ารักษาพยาบาลของที่สหรัฐนั้นก็แพงจนหลายคนเอื้อมไม่ถึง
ทำให้ผู้ป่วยหลายคนปฏิเสธเข้ารับการรักษา
หรือบางรายที่อยากรักษา ก็ไม่มีเงินมากพอที่จะจ่าย
ผู้ใหญ่ 1 ใน 5 คนจะมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพจิต
และแน่นอนว่าค่ารักษาพยาบาลของที่สหรัฐนั้นก็แพงจนหลายคนเอื้อมไม่ถึง
ทำให้ผู้ป่วยหลายคนปฏิเสธเข้ารับการรักษา
หรือบางรายที่อยากรักษา ก็ไม่มีเงินมากพอที่จะจ่าย
ดังนั้น Selena Gomez จึงตัดสินใจที่จะสร้างกองทุน “Rare Impact” ขึ้น
เป้าหมายของกองทุนนี้ ก็คือ
“อุดช่องว่าง ในการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพจิต สำหรับชุมชนหรือผู้ที่ด้อยโอกาส”
“อุดช่องว่าง ในการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพจิต สำหรับชุมชนหรือผู้ที่ด้อยโอกาส”
ซึ่งเธอได้วางแผนไว้ว่า จะระดมทุนให้ถึง 100 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 3 พันล้านบาท ภายในเวลา 10 ปี
โดยยอดขาย 1% ของแบรนด์เครื่องสำอาง Rare Beauty จะถูกหักเข้ากองทุน
เพื่อนำไปเป็นค่ารักษาให้กับคนที่มีปัญหาสุขภาพจิตต่อๆ ไป..
เพื่อนำไปเป็นค่ารักษาให้กับคนที่มีปัญหาสุขภาพจิตต่อๆ ไป..
แบรนด์ Rare Beauty เป็นอีกที่หนึ่งแบรนด์ที่น่าจับตามอง
ไม่ใช่แค่เรื่องจุดยืน และเป้าหมายของการสร้างแบรนด์ที่แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ
ไม่ใช่แค่เรื่องจุดยืน และเป้าหมายของการสร้างแบรนด์ที่แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ
นอกจากนั้นความดังของ Selena Gomez และ Kylie Jenner ยังค่อนข้างใกล้เคียงกัน
แปลว่า ถ้าหาก Selena Gomez สามารถปั้นแบรนด์ออกมาได้ดี
เธออาจทำยอดขายได้สูงถึง 1 หมื่นล้านบาท
เหมือนกับ Kylie Jenner ตอนเปิดตัวแบรนด์ Kylie Cosmetics ก็เป็นได้..
แปลว่า ถ้าหาก Selena Gomez สามารถปั้นแบรนด์ออกมาได้ดี
เธออาจทำยอดขายได้สูงถึง 1 หมื่นล้านบาท
เหมือนกับ Kylie Jenner ตอนเปิดตัวแบรนด์ Kylie Cosmetics ก็เป็นได้..
References: