YOU&I จากธุรกิจตกยุคของครอบครัว สู่ อาณาจักรบุฟเฟต์สุกี้สไตล์จีน 300 ล้าน /โดย ลงทุนเกิร์ล

วันนี้กินอะไรดี ? เป็นคำถามที่หลายคนตอบยาก
เพราะในบางครั้ง เราก็อยากกินอาหารหลายอย่างในมื้อเดียว

ดังนั้น “บุฟเฟต์” จึงเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่หลาย ๆ คนมองหา
เพราะมีเมนูหลากหลาย และกินได้ไม่จำกัด ถ้าไม่อิ่มหรือหมดเวลาเสียก่อน

ซึ่งมุมมองที่คนส่วนใหญ่มีต่อบุฟเฟต์ ก็มักจะเป็นแค่เพียง “ความคุ้มค่า” ไม่ใช่เรื่อง “คุณภาพ”

อย่างไรก็ตามด้วยสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป
การทำธุรกิจที่เน้นไปที่ปริมาณเพียงอย่างเดียว ก็อาจไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุด

วันนี้ทางลงทุนเกิร์ลจึงเชิญคุณยุพิน ชัยวิกรัย
เจ้าของกิจการ YOU&I ร้านสุกี้บุฟเฟต์สไตล์จีนสุดพรีเมียม
มาพูดคุยกันในประเด็นของการทำธุรกิจบุฟเฟต์ในมุมมองใหม่
ที่ไม่ได้เน้นแต่เรื่องความคุ้มค่าเพียงอย่างเดียว
แต่ยังให้ความสำคัญกับเรื่องคุณภาพของทั้งอาหารและบริการด้วย

YOU&I มีจุดเริ่มต้นอย่างไร ? อะไรคือสิ่งที่มัดใจลูกค้า ? วันนี้ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง

เชื่อหรือไม่คะว่า ร้าน YOU&I ก่อตั้งมาโดยคนที่ไม่มีความรู้ด้านอาหาร
รวมทั้งประสบการณ์การทำอาหาร ที่เรียกได้ว่าเป็นศูนย์

แต่ทุกอย่างนี้ กลับเกิดจากความหลงใหลใน “การกินบุฟเฟต์” ล้วน ๆ

ย้อนกลับไปเมื่อ 6 ปีก่อน คุณยุพิน ชัยวิกรัย หรือคุณแพม ต้องมาสานต่อกิจการร้านอาหารจีนแบบสายพานจากคุณพ่อ ที่ชื่อว่า “Lau Sang Dong”
โดยมีเป้าหมายว่า ต้องทำให้ร้านอาหารจีนนี้มีสาขามากที่สุดในประเทศไทย

แต่เรื่องนี้ก็ดูเป็นสิ่งที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
เนื่องจากตอนที่คุณแพมเข้ามารับช่วงต่อ ร้านอาหารจีนแบบสายพานไม่ค่อยเป็นที่นิยมแล้ว

อย่างไรก็ตาม ก็ไม่ได้หมายความว่า การเข้ามารับช่วงต่อในกิจการนี้จะถึงทางตันเสียทีเดียว
เพราะจุดแข็งที่เห็นได้ชัดของร้าน Lau Sang Dong
ก็คือ วัตถุดิบอาหารเกรดพรีเมียม ที่คัดสรรมาอย่างดี

คุณแพมจึงต่อยอดธุรกิจที่มีอยู่ในมือ ด้วยจุดเด่นของวัตถุดิบที่มีอยู่
บวกกับความมุ่งมั่นที่ต้องการสร้างร้านบุฟเฟต์ที่เสิร์ฟอาหารคุณภาพดีและหลากหลาย

การเริ่มต้นของ “YOU&I” ร้านสุกี้บุฟเฟต์สไตล์จีนสุดพรีเมียม
ที่มีหม้อสุกี้ส่วนตัวให้ลูกค้าได้ออกแบบสไตล์การต้มเป็นของตัวเองจึงเกิดขึ้น

ด้วยแนวคิดที่แตกต่างจากเจ้าอื่น ๆ ในตลาด จึงทำให้ YOU&I ได้ผลตอบรับที่ดีตามเป้าหมาย
เพียงแค่ 4 วันแรกก็มีลูกค้ามาใช้บริการจนแน่นร้าน

และทุก ๆ ครั้งที่เปิดสาขาใหม่ก็มีคนมารอต่อคิวยาว
จนปัจจุบันเดินมาถึงปีที่ 5 กับ 13 สาขา หากเป็นสถานการณ์ปกติ จำนวนลูกค้าก็ไม่ได้ลดลงเลย

เรามาดูกันว่า YOU&I มีกลยุทธ์อะไรที่สามารถรักษาลูกค้าไว้ได้

“คำแรกต้องเริ่มต้นด้วยความอร่อย” คือ คติที่คุณแพมยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจ
ซึ่งเธอก็ให้ความสำคัญกับ “คุณภาพ” เป็นอันดับต้น ๆ
มากกว่า ตั้ง “ราคาต่ำ ๆ” เพื่อดึงดูดลูกค้า

เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกถึงความ “คุ้มค่า” โดยที่ไม่ต้องกินอิ่มเกินไปจนแน่นท้อง
แต่เป็นการกินอิ่มที่ประทับใจ จนรู้สึกอยากกลับมาทานอีกครั้งแทน

ดังนั้นวัตถุดิบของ YOU&I จึงเน้นความสด สะอาด และปลอดภัย
และเพื่อให้ได้ของดีมีคุณภาพ 60% ของอาหารในร้าน YOU&I ก็ยังเป็นวัตถุดิบนำเข้าอีกด้วย
อย่างเนื้อสัตว์ที่เป็นหัวใจหลักของบุฟเฟต์ คุณแพมก็จะเป็นคนคัดสรรด้วยตัวเอง

นอกจากนั้นยังมีการใส่ใจในทุก ๆ รายละเอียด
แม้แต่การสไลซ์เนื้อ ก็ต้องมีความบางเหมาะสมในทุก ๆ คำ แบบจานต่อจาน

หรือหากเป็นของแช่แข็ง จะมีการรักษาอุณหภูมิตามมาตรฐานที่วางไว้
รวมทั้งวัตถุดิบแต่ละสาขาจะไม่มีการกักตุน เพราะส่งจากครัวกลางทุก ๆ 2-4 วัน
ผ่านมาตรฐาน HACCP และ GMP ที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก
ทำให้อาหารที่ได้มีความสดใหม่เสมอ

ประเด็นต่อมา คือ “คัดสรรเมนูที่หลากหลาย”

เพราะเพียงแค่เนื้อวัว ก็มีให้เลือกหลากหลายแล้ว
เช่น เนื้อวากิวบิสเก็ต, เนื้อแองกัส ชัคโรล รวมถึงลิ้นวัว
และอาหารทะเล เช่น ปลาบัตเตอร์ฟิช, ปลาไหล, หอยนางรม

เพื่อให้ครอบคลุมกับความชอบและความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มที่มาใช้บริการ

นอกจากนั้นยังมีน้ำจิ้มหลากหลายสูตร และน้ำซุปให้เลือกมากถึง 10 ประเภทด้วยกัน

ซึ่งคุณแพมมองว่าหนึ่งในปัญหาใหญ่ ๆ ของการทานสุกี้หรือชาบู คือ “ทานร่วมกัน”
เพราะแต่ละคนย่อมมีความชอบ ที่แตกต่างกันไป

บางคนไม่ทานเนื้อ ไม่ทานรสจัด หรือแพ้อาหารทะเล
และสิ่งเหล่านี้ ย่อมเป็นอุปสรรคในการหาจุดร่วมของทุกคน ให้มาอยู่ในหม้อเดียว

ดังนั้น YOU&I จึงเป็นร้านแรก ๆ ที่มีบริการหม้อส่วนตัวให้กับลูกค้า
โดย 1 หม้อต่อ 1 ที่นั่ง ดังนั้นลูกค้าจึงสามารถออกแบบสไตล์การกินของตัวเองได้

แน่นอนว่าการยกระดับคุณภาพสินค้าและบริการของ YOU&I ก็ต้องมาพร้อมกับค่าใช้จ่ายที่สูง
แต่เพราะคุณแพมวางแผน และคำนวณราคาอย่างดี
ตั้งแต่ระบบหลังบ้าน ทำให้ไม่มีการผลักภาระไปที่ลูกค้า

และการวางแผนที่ดีจากหลังบ้านนี้เอง
ยังช่วยให้ร้าน YOU&I รอดพ้นวิกฤติโรคระบาด ที่มีมานานเกือบ 2 ปีนี้ได้อีกด้วย

ซึ่งผลกระทบหลัก ๆ ที่ร้านบุฟเฟต์ต้องพบเจอ ก็คือ การห้ามนั่งทานอาหารในร้าน
ทำให้ YOU&I เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ต้องเปลี่ยนมาขายผ่านทาง “ดิลิเวอรี”

แต่สำหรับร้านอาหารบุฟเฟต์แล้ว การขายช่องทางดิลิเวอรีไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
เนื่องจากหลายคนมองว่าการสั่งมาที่บ้าน อาจจะไม่คุ้มค่าเท่าการรับประทานในร้าน

อย่างไรก็ตาม หากเราลองมาดูผลประกอบการของบริษัท ยู แอนด์ ไอ กรุ๊ป จำกัด

ปี 2561 รายได้ 205 ล้านบาท
ปี 2562 รายได้ 338 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้ 276 ล้านบาท

แม้ว่ารายได้ในปี 2563 ที่ผ่านมาจะลดลงไปบ้าง
แต่ส่วนหนึ่งก็น่าจะมาจากการปิดหน้าร้าน
ซึ่ง YOU&I ก็ยังสามารถรักษาระดับรายได้อยู่ ลดลงจากปีก่อนไปประมาณ 18%

โดยคุณแพมยังเล่าด้วยว่า ในครึ่งปีแรกของปี 2564
ยอดขายดิลิเวอรีก็เติบโตขึ้นหลายเท่าตัว เมื่อเทียบครึ่งปีหลังของปี 2563
แปลว่าสำหรับปี 2564 สถานการณ์ของ YOU&I ก็น่าจะดีขึ้นกว่าเดิม

ซึ่งตัวเลขเหล่านี้ทำให้เห็นชัดแล้วว่า YOU&I สามารถปรับตัวและรับมือได้เป็นอย่างดี
เรามาดูกันว่าร้าน YOU&I มีแผนรับมืออย่างไรกับสถานการณ์ครั้งนี้

เน้นความคุ้มค่า

แม้เราจะไม่สามารถสั่งอาหารได้ไม่อั้นเหมือนทานที่ร้าน
แต่ YOU&I ก็จัดสรรปริมาณอาหารได้คุ้มค่าโดยใน 1 เซตก็มากพอสำหรับกิน 2-4 คน
รวมถึงพัฒนาสูตรน้ำซุปใหม่ ให้มีรสชาติกลมกล่อมเหมือนกับทานที่ร้าน

พัฒนาไอเทมใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์สำหรับการกินที่บ้าน

เนื่องจากคุณแพมเล็งเห็นว่า สิ่งที่เราต้องทำหลังจากการกินสุกี้
คือการล้างหม้อและกองจานที่สูงพะเนิน

ซึ่งก่อนหน้านี้ YOU&I มี “หม้อไฟไฮเทค” ที่สามารถพกพาไปทานที่ไหนก็ได้
เพราะมีนวัตกรรมถ้วยที่สามารถทำความร้อนได้โดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้า

และล่าสุด YOU&I เพิ่งพัฒนาอุปกรณ์ที่ช่วยให้การกินสุกี้สะดวกสบายขึ้น
นั่นก็คือ “หม้อต้มกระดาษ” ที่สามารถนำความร้อนได้ นำมาใช้แทนหม้อสุกี้
พร้อมกับชุดชามกระดาษ ที่หลังจากเรากินเสร็จก็สามารถเก็บทิ้งได้เลย

นับว่าเป็นการนำนวัตกรรมใหม่ ๆ มาควบคู่การทำธุรกิจเดิมได้อย่างลงตัวเลยทีเดียว

ประสิทธิภาพของทีมงานหลังบ้าน

ความสำเร็จทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากขาดกำลังสำคัญจาก “คนในองค์กร”

โดย YOU&I เปิดโอกาสให้พนักงานมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ
ว่าควรทำการตลาดแบบใด ? มีวิธีการอย่างไร ? และส่งผลดีต่อร้านอย่างไร ?

โจทย์เหล่านี้จะทำให้พนักงานเรียนรู้ผิดถูก และรู้จักแก้ไขปัญหา
เพราะการทำธุรกิจจะประสบความสำเร็จไม่ได้เลย หากขาดทีมงานที่มีคุณภาพ

ซึ่งตลอดมา YOU&I จะเตรียมแผนล่วงหน้าไว้ไม่ต่ำกว่า 10 แผนงาน
ทำให้เมื่อเกิดวิกฤติหรือสถานการณ์ที่คาดเดาไม่ได้ YOU&I จะมีแผนสำรองไว้ตั้งรับได้ทันเวลา

ปิดท้ายด้วยคำกล่าวของคุณแพม
สำหรับการทำธุรกิจไม่มีคำว่าแต่ ไม่มีคำว่าไม่ มีแต่ต้องทำให้ได้

ดังนั้นอย่ามองทุกอย่างเป็นปัญหาที่จัดการไม่ได้
แต่ให้มองหาโอกาสจากปัญหาเหล่านั้นแทน..

References:
-สัมภาษณ์ตรงกับคุณยุพิน ชัยวิกรัย ผู้ก่อตั้งร้าน YOU&I
-กรมพัฒนาธุรกิจการค้า