Health & BeautyBusiness
Meitu แอปแต่งรูป 30,000 ล้าน
30 มิ.ย. 2021
Meitu แอปแต่งรูป 30,000 ล้าน /โดย ลงทุนเกิร์ล
รู้หรือไม่ ในปี 2020 ที่ผ่านมานี้ มีอุปกรณ์ที่เข้าใช้งานแอปพลิเคชันในเครือ Meitu มากถึง 2,200 ล้านเครื่อง
และนอกจาก Meitu แล้ว บริษัทผู้พัฒนาแอปพลิเคชันนี้ ยังเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์อื่น ๆ อีก เช่น
และนอกจาก Meitu แล้ว บริษัทผู้พัฒนาแอปพลิเคชันนี้ ยังเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์อื่น ๆ อีก เช่น
แอปพลิเคชันแต่งภาพอย่าง BeautyCam, MakeupPlus, SelfieCity
และแอปพลิเคชันโซเชียลมีเดีย Meipai ที่คล้ายกับ Instagram แต่จะเน้นไปที่ไลฟ์สด และวิดีโอเป็นหลัก
และแอปพลิเคชันโซเชียลมีเดีย Meipai ที่คล้ายกับ Instagram แต่จะเน้นไปที่ไลฟ์สด และวิดีโอเป็นหลัก
นอกจากนี้ บริษัทยังมี MeituEve ซึ่งเป็นเทคโนโลยีวิเคราะห์ผิวหน้า
และ Meitu Genius เทคโนโลยีทดลองแต่งหน้าเสมือนจริงอีกด้วย
และ Meitu Genius เทคโนโลยีทดลองแต่งหน้าเสมือนจริงอีกด้วย
อาณาจักร Meitu น่าสนใจอย่างไร ?
และรายได้ของ Meitu มาจากไหนบ้าง ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
และรายได้ของ Meitu มาจากไหนบ้าง ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
บริษัท Meitu ก่อตั้งขึ้นในเดือนตุลาคม ปี 2008
โดยมีผู้ก่อตั้งเป็นชายชาวจีน ที่ชื่อว่า Cai Wensheng
ซึ่งปัจจุบันเขาก็ยังคงดำรงตำแหน่งเป็นประธานของ Meitu
และขึ้นแท่นเป็นมหาเศรษฐี ที่มีมูลค่าทรัพย์สินถึง 27,672 ล้านบาท
โดยมีผู้ก่อตั้งเป็นชายชาวจีน ที่ชื่อว่า Cai Wensheng
ซึ่งปัจจุบันเขาก็ยังคงดำรงตำแหน่งเป็นประธานของ Meitu
และขึ้นแท่นเป็นมหาเศรษฐี ที่มีมูลค่าทรัพย์สินถึง 27,672 ล้านบาท
โดยที่มาของคำว่า “Meitu” หรือ “美图” นั้นมีความหมายว่า “ภาพอันสวยงาม”
ที่บริษัทต้องการจะสื่อว่า ทุกคนที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของ Meitu จะมีภาพสวยงามออกมานั่นเอง
ที่บริษัทต้องการจะสื่อว่า ทุกคนที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของ Meitu จะมีภาพสวยงามออกมานั่นเอง
ซึ่งจุดแข็งของ Meitu อยู่ที่การนำเทคโนโลยี AI เข้ามาใช้ในการประมวลผลภาพและวิดีโอ
ทำให้การปรับแต่งภาพทำได้เกือบสมจริง
ทำให้การปรับแต่งภาพทำได้เกือบสมจริง
และการใช้งานของแอปพลิเคชันก็ยังง่ายดายไม่ได้สลับซับซ้อนมากนัก ทำให้คนที่ไม่มีพื้นฐานในการใช้โปรแกรมแต่งภาพมาก่อนก็สามารถใช้ได้
นอกจากนี้ หลาย ๆ แอปพลิเคชันของเครือ Meitu ยังมีฟีเชอร์ให้เลือกหลากหลาย
ทั้งการปรับหน้าเรียว ผิวเนียน หรือจะแต่งหน้าให้มีขนตา ลิปสติก และเขียนคิ้วก็ทำได้หมด
ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็น Pain Point ของหลาย ๆ คนที่อยากจะให้รูปของเราออกมาดูดีที่สุด
ทั้งการปรับหน้าเรียว ผิวเนียน หรือจะแต่งหน้าให้มีขนตา ลิปสติก และเขียนคิ้วก็ทำได้หมด
ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็น Pain Point ของหลาย ๆ คนที่อยากจะให้รูปของเราออกมาดูดีที่สุด
ซึ่งความฉลาดของผลิตภัณฑ์ในเครือ Meitu นี้ก็มีที่มาจาก ความจริงจังในการพัฒนาระบบ
โดยบริษัทได้สร้างศูนย์วิจัยและพัฒนา MT Lab ขึ้น
เพื่อพัฒนา AI และนวัตกรรมการประมวลภาพให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
เพื่อพัฒนา AI และนวัตกรรมการประมวลภาพให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ซึ่งผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของบริษัท Meitu ที่ข้องเกี่ยวอยู่กับความงามนี้ก็ได้รับความนิยมจากชาวเน็ตทั่วโลก
จนส่งผลให้ในเดือนธันวาคม ปี 2016 บริษัท Meitu ก็สามารถจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงได้เป็นที่เรียบร้อย
จนส่งผลให้ในเดือนธันวาคม ปี 2016 บริษัท Meitu ก็สามารถจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงได้เป็นที่เรียบร้อย
และปัจจุบัน Meitu มีมูลค่าบริษัทอยู่ที่ 34,840 ล้านบาท
หากจะเทียบให้เห็นภาพชัด ๆ ก็อาจกล่าวได้ว่า
Meitu มีมูลค่าบริษัทพอ ๆ กับบริษัท โรงพยาบาลรามคำแหง จำกัด (มหาชน) ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นไทยเลยทีเดียว
หากจะเทียบให้เห็นภาพชัด ๆ ก็อาจกล่าวได้ว่า
Meitu มีมูลค่าบริษัทพอ ๆ กับบริษัท โรงพยาบาลรามคำแหง จำกัด (มหาชน) ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นไทยเลยทีเดียว
โดยในปี 2020 บริษัท Meitu ทำรายได้ไปกว่า 5,800 ล้านบาท
ซึ่งเติบโตขึ้น 22% จากปีก่อนหน้า
ซึ่งเติบโตขึ้น 22% จากปีก่อนหน้า
และสัดส่วนรายได้ของบริษัทจะแบ่งออกเป็น
โฆษณาออนไลน์ 57%บริการสมัครสมาชิกระดับพรีเมียม และการซื้อภายในแอปพลิเคชัน 17%บริการเสริม 4%และรายได้จากส่วนอื่น ๆ คิดเป็น 22%
โดยแอปพลิเคชันที่มีผู้ใช้งานต่อเดือน หรือ MAU สูงสุด 3 อันดับแรก ก็คือ
MeituBeautyCamBeautyPlus
ที่น่าสนใจ คือ ใน 1 เดือนจะมีผู้ใช้งานผลิตภัณฑ์ของ Meitu สูงถึง 261 ล้านคนต่อเดือน
โดยผู้ใช้กว่า 62% หรือ 163 ล้านคน จะอยู่ในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่
ส่วนผู้ใช้งานอีก 38% หรือประมาณ 98 ล้านคน จะอยู่ในประเทศอื่น ๆ
โดยผู้ใช้กว่า 62% หรือ 163 ล้านคน จะอยู่ในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่
ส่วนผู้ใช้งานอีก 38% หรือประมาณ 98 ล้านคน จะอยู่ในประเทศอื่น ๆ
นอกจากนี้ ในหลาย ๆ ประเทศผลิตภัณฑ์ของ Meitu ยังได้รับความนิยมอย่างมาก
จนมีบัญชีผู้ใช้งานเกินกว่า 10 ล้านคนต่อ 1 ประเทศ
เช่น สหรัฐอเมริกา, เกาหลีใต้, ไทย, มาเลเซีย, ไนจีเรีย, ปากีสถาน, อินโดนีเซีย, เวียดนาม, บราซิล, ญี่ปุ่น, บังกลาเทศ, ฟิลิปปินส์, เม็กซิโก, แคนาดา และตุรกี
จนมีบัญชีผู้ใช้งานเกินกว่า 10 ล้านคนต่อ 1 ประเทศ
เช่น สหรัฐอเมริกา, เกาหลีใต้, ไทย, มาเลเซีย, ไนจีเรีย, ปากีสถาน, อินโดนีเซีย, เวียดนาม, บราซิล, ญี่ปุ่น, บังกลาเทศ, ฟิลิปปินส์, เม็กซิโก, แคนาดา และตุรกี
ในขณะเดียวกัน บริษัทยังได้มีการร่วมมือกับแบรนด์ความงาม อย่าง Dior และ Effectim แบรนด์น้องใหม่จากเครือ Shiseido ที่มุ่งเป้าไปที่ตลาดจีนเป็นหลัก
โดยความร่วมมือของบริษัท Meitu กับแบรนด์ความงามเหล่านี้จะเป็นในลักษณะการใช้ AI เข้ามาช่วยในการทดลองใช้เครื่องสำอางเสมือนจริง
ทำให้ลูกค้าไม่ต้องไปลองสินค้าจริงถึงที่หน้าร้าน
และยังช่วยลดความอึดอัดจากการถูกกดดันเวลาต้องลองสินค้าหลาย ๆ ชิ้นได้
และยังช่วยลดความอึดอัดจากการถูกกดดันเวลาต้องลองสินค้าหลาย ๆ ชิ้นได้
ทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวของ Meitu บริษัทที่เริ่มต้นจากการสร้างแอปพลิเคชันแต่งภาพ
ที่ใคร ๆ อาจมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ แต่มันกลับสร้างมูลค่าได้มากมายมหาศาล
ที่ใคร ๆ อาจมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ แต่มันกลับสร้างมูลค่าได้มากมายมหาศาล
และยังสามารถต่อยอดไปสู่การสร้างเครื่องวิเคราะห์ผิวหน้า หรือแม้กระทั่งการทดลองเครื่องสำอางในระบบเสมือนจริง
จนทำให้หลาย ๆ แบรนด์ต้องหันมาพึ่งพาเทคโนโลยีเหล่านี้
จนทำให้หลาย ๆ แบรนด์ต้องหันมาพึ่งพาเทคโนโลยีเหล่านี้
และไม่แน่ว่า ในอนาคตเราอาจได้เห็นทุก ๆ แบรนด์ความงามก้าวเข้ามาใช้เทคโนโลยีนี้จนกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วก็เป็นได้..