FoodBusiness
Kopi Kenangan ร้านกาแฟอินโดนีเซียที่ Serena Williams และ Jay-Z ลงทุน
3 มิ.ย. 2021
Kopi Kenangan ร้านกาแฟอินโดนีเซียที่ Serena Williams และ Jay-Z ลงทุน /โดย ลงทุนเกิร์ล
หากให้เรานึกถึงเชนร้านกาแฟที่มีชื่อเสียง หลายคนก็น่าจะนึกถึงชื่อร้านกาแฟ Starbucks
แต่ถ้าเราไปถามคนอินโดนีเซีย คำตอบที่ได้ ก็อาจจะต่างกันออกไป
และหนึ่งในนั้นก็น่าจะมี “Kopi Kenangan” อ่านว่า โกปิ เกอนันงัน ที่กำลังเติบโตอย่างร้อนแรง
แต่ถ้าเราไปถามคนอินโดนีเซีย คำตอบที่ได้ ก็อาจจะต่างกันออกไป
และหนึ่งในนั้นก็น่าจะมี “Kopi Kenangan” อ่านว่า โกปิ เกอนันงัน ที่กำลังเติบโตอย่างร้อนแรง
ที่น่าสนใจคือ Kopi Kenangan ยังมีการระดมทุนในรูปแบบสตาร์ตอัป
ซึ่งก็มีทั้ง Jay-Z ซูเปอร์สตาร์แรปเปอร์ และ Serena Williams นักเทนนิสหญิงระดับโลก เข้ามาเป็นผู้ร่วมให้เงินระดมทุนอีกด้วย
ซึ่งก็มีทั้ง Jay-Z ซูเปอร์สตาร์แรปเปอร์ และ Serena Williams นักเทนนิสหญิงระดับโลก เข้ามาเป็นผู้ร่วมให้เงินระดมทุนอีกด้วย
แล้วคนดังเหล่านี้ เห็นอะไรในสตาร์ตอัปกาแฟสัญชาติอินโดนีเซีย ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
Kopi Kenangan ถือเป็นเชนร้านกาแฟรุ่นใหม่
เพราะก่อตั้งขึ้นในปี 2017 หรือเพียง 4 ปีที่แล้ว
มีผู้ก่อตั้งก็คือ คุณ Edward Tirtanata, คุณ James Prananto และคุณ Cynthia Chaerunnisa
เพราะก่อตั้งขึ้นในปี 2017 หรือเพียง 4 ปีที่แล้ว
มีผู้ก่อตั้งก็คือ คุณ Edward Tirtanata, คุณ James Prananto และคุณ Cynthia Chaerunnisa
โดยจุดเริ่มต้นของร้านกาแฟแห่งนี้เกิดขึ้นจาก การเห็นช่องว่างด้านราคาขนาดใหญ่ในตลาดกาแฟอินโดนีเซีย
ระหว่างร้านแบบท้องถิ่น ที่ใช้กาแฟสำเร็จรูป แก้วละ 2 บาท
กับร้านกาแฟคุณภาพสูง ที่เฉลี่ยราคาแก้วละ 85 บาท
กับร้านกาแฟคุณภาพสูง ที่เฉลี่ยราคาแก้วละ 85 บาท
ซึ่งกาแฟคุณภาพนี้ เรียกได้ว่าเป็น “สินค้าราคาแพง” สำหรับชาวอินโดนีเซียเลยก็ว่าได้
นั่นเพราะว่ารายได้เฉลี่ยของคนทั่วไปในประเทศแห่งนี้ มักจะต่ำกว่า 460 บาทต่อวัน
นั่นเพราะว่ารายได้เฉลี่ยของคนทั่วไปในประเทศแห่งนี้ มักจะต่ำกว่า 460 บาทต่อวัน
แต่ Kopi Kenangan กลับมองเรื่องนี้เป็นโอกาส
และได้เข้ามาวางตัวเป็นแบรนด์กาแฟระดับแมส ในราคากลาง ๆ ที่คนทั่วไป จับต้องได้
และได้เข้ามาวางตัวเป็นแบรนด์กาแฟระดับแมส ในราคากลาง ๆ ที่คนทั่วไป จับต้องได้
โดยหลังจากได้ไอเดียแล้ว ผู้ก่อตั้งทั้ง 3 คน
ก็ได้เปลี่ยนมันเป็นร้านกาแฟสาขาแรก มีพื้นที่แค่ 12 ตารางเมตร
ก็ได้เปลี่ยนมันเป็นร้านกาแฟสาขาแรก มีพื้นที่แค่ 12 ตารางเมตร
และด้วยผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ Kopi Kenangan ก็สามารถคืนทุนใน 3 เดือน ด้วยยอดขาย 700 แก้วต่อวัน
ซึ่งหลังจากนั้นเพียง 2 ปี Kopi Kenangan ยังได้ขยายธุรกิจ จนมีสาขามากถึง 200 แห่งใน 18 เมืองทั่วอินโดนีเซีย และมีพนักงานกว่า 1,800 คน
ในขณะที่รายได้ของทางบริษัท ก็มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 4,272% ต่อปี
ที่น่าสนใจคือ เมื่อ Kopi Kenangan ต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ อย่างการแพร่ระบาดของโควิด 19
Kopi Kenangan ก็ได้ปรับกลยุทธ์ ไปเปิดร้านย่านที่อยู่อาศัยและทำเลที่มีการสั่งออนไลน์มาก
ซึ่งก็นับเป็นความเคลื่อนไหวที่สำเร็จ
เพราะว่ายอดซื้อผ่านแอปพลิเคชันเพิ่มกว่า 200% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
และเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ทางบริษัทมียอดขายถึง 30 ล้านแก้วในปี 2020
เพราะว่ายอดซื้อผ่านแอปพลิเคชันเพิ่มกว่า 200% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
และเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ทางบริษัทมียอดขายถึง 30 ล้านแก้วในปี 2020
แถมยังสามารถขยายสาขาเพิ่มขึ้น จนปัจจุบัน Kopi Kenangan มี 426 สาขาใน 24 เมืองทั่วอินโดนีเซียเป็นที่เรียบร้อย
อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนก็คงสงสัยกันแล้วว่า
อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ Kopi Kenangan ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว ?
อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ Kopi Kenangan ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว ?
ปัจจัยแรก คือ โมเดลธุรกิจ “Grab & Go”
Kopi Kenangan เน้นรูปแบบ Grab & Go ซื้อไวไปไว ไม่เน้นนั่งที่ร้าน ประหยัดต้นทุนการดำเนินงาน สามารถสั่งซื้อเครื่องดื่มออนไลน์ล่วงหน้า และไปรับที่สาขาที่ต้องการ หรือสั่งผ่านแอปพลิเคชันส่งถึงที่ได้ เข้ากับพฤติกรรมการซื้อสินค้าของผู้บริโภคในปัจจุบัน
ปัจจัยที่สอง คือ คุณภาพของกาแฟ
ตัวแบรนด์ Kopi Kenangan ใช้เมล็ดกาแฟเกรดส่งออก ที่ปลูกและคั่วบดเองในอินโดนีเซีย
นอกจากนั้นยังใช้นม Greenfields ระดับพรีเมียม
รวมถึงเลือกใช้ La Marzocco เครื่องชงกาแฟชั้นนำของโลกอีกด้วย
นอกจากนั้นยังใช้นม Greenfields ระดับพรีเมียม
รวมถึงเลือกใช้ La Marzocco เครื่องชงกาแฟชั้นนำของโลกอีกด้วย
โดยสินค้าขายดีที่สุดของร้าน ก็คือ "Es Kopi Kenangan Mantan” กาแฟรสชาติจากน้ำตาลต้นปาล์ม
ปัจจัยที่สาม คือ ราคา
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้ว ร้านกาแฟคุณภาพสูงส่วนใหญ่จะเริ่มขายลัตเต ในราคา 85 บาท ซึ่งถือเป็นระดับราคาที่แพงเมื่อเทียบกับค่าครองชีพในประเทศ
Kopi Kenangan จึงใช้กลยุทธ์การตั้งราคา ให้เป็นราคาที่ลูกค้าสามารถบริโภคได้ทุกวัน
โดยขาย Kopi Susu หรือกาแฟใส่นม ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 40 บาท ถูกกว่าปกติกว่าครึ่ง
โดยขาย Kopi Susu หรือกาแฟใส่นม ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 40 บาท ถูกกว่าปกติกว่าครึ่ง
ซึ่งทั้งหมดนี้ ก็ทำให้ Kopi Kenangan กลายเป็นเชนร้านกาแฟที่เติบโตอย่างรวดเร็ว
ทั้งที่จริง ๆ แล้ว “ธุรกิจกาแฟ” ถือว่าเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันกันอย่างเข้มข้นในหลายประเทศ
ทั้งที่จริง ๆ แล้ว “ธุรกิจกาแฟ” ถือว่าเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันกันอย่างเข้มข้นในหลายประเทศ
แต่เมื่อนำกลยุทธ์ที่แตกต่างมาใช้ได้ จึงทำให้สตาร์ตอัปแห่งนี้สามารถคืนทุน และสร้างกำไรได้หลังจากทำธุรกิจได้เพียงไม่กี่เดือน
ที่สำคัญยังเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด รวมถึงมีแนวโน้มว่าจะเติบโตไปได้อีกมาก
จนทำให้ Kopi Kenangan สามารถระดมทุนไปแล้ว 2 รอบ
จนทำให้ Kopi Kenangan สามารถระดมทุนไปแล้ว 2 รอบ
- Series A ระดมทุนได้ 620 ล้านบาท
- Series B ระดมทุนได้ 3,300 ล้านบาท
- Series B ระดมทุนได้ 3,300 ล้านบาท
ซึ่งตัวอย่างผู้ลงทุน ก็มีทั้ง Jay-Z ที่ลงทุนผ่าน Arrive
และ Serena Williams ที่ลงทุนผ่านบริษัท Serena Ventures
และ Serena Williams ที่ลงทุนผ่านบริษัท Serena Ventures
โดยเหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำให้ Arrive ตัดสินใจลงทุนกับ Kopi Kenangan คือวิสัยทัศน์การบริหาร
ศักยภาพการดำเนินธุรกิจ ที่เห็นได้จากการขยายสาขาอย่างรวดเร็ว
และจุดยืนของแบรนด์ ที่นักลงทุนมองว่าตลาดผู้บริโภคระดับกลางมีแนวโน้มจะประสบความสำเร็จ
ศักยภาพการดำเนินธุรกิจ ที่เห็นได้จากการขยายสาขาอย่างรวดเร็ว
และจุดยืนของแบรนด์ ที่นักลงทุนมองว่าตลาดผู้บริโภคระดับกลางมีแนวโน้มจะประสบความสำเร็จ
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
ปัจจุบัน Kopi Kenangan ถูกประเมินมูลค่าอยู่ที่ราว 15,500 ล้านบาท
และมีลูกค้าเกินกว่าล้านรายบนแอปพลิเคชันของแบรนด์
และมีลูกค้าเกินกว่าล้านรายบนแอปพลิเคชันของแบรนด์
ซึ่งถ้ายังสามารถรักษาอัตราการเติบโตแบบนี้ได้ต่อไปเรื่อย ๆ
ไม่แน่ว่าประเทศอินโดนีเซีย อาจจะมียูนิคอร์นตัวใหม่ ที่ชื่อ Kopi Kenangan ก็เป็นได้..
ไม่แน่ว่าประเทศอินโดนีเซีย อาจจะมียูนิคอร์นตัวใหม่ ที่ชื่อ Kopi Kenangan ก็เป็นได้..