Glow Recipe สกินแคร์ยอดขาย 10,000 ล้าน จาก 2 สาวเกาหลีที่อยู่ในอเมริกา
Business

Glow Recipe สกินแคร์ยอดขาย 10,000 ล้าน จาก 2 สาวเกาหลีที่อยู่ในอเมริกา

11 มี.ค. 2025
Glow Recipe สกินแคร์ยอดขาย 10,000 ล้าน จาก 2 สาวเกาหลีที่อยู่ในอเมริกา /โดย ลงทุนเกิร์ล
ถึงแม้ว่าเทรนด์ K-Beauty จะโด่งดัง
แต่สำหรับในประเทศฝั่งตะวันตก ก็ยังถือเป็นโจทย์หินสำหรับธุรกิจความงามเกาหลีอยู่
และยิ่งถ้าหากเป็นประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มีแบรนด์เจ้าตลาดหน้าเดิม ๆ อยู่แล้ว ยิ่งดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเครื่องสำอางเกาหลีเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม กลับมีแบรนด์สาย K-Beauty อย่าง “Glow Recipe” ที่ฝันใหญ่ และอยากจะทำให้สกินแคร์เกาหลี ไปเติบโตในประเทศฝั่งตะวันตกได้
และในวันนี้ Glow Recipe ก็กำลังไปได้ดีกับเส้นทางที่เลือก
ที่สำคัญคือ แบรนด์นี้ไม่ได้เป็นผลงานของบริษัทยักษ์ใหญ่
แต่เกิดขึ้นโดยหญิงสาวชาวเกาหลี 2 คนที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา..
เรื่องราวของ Glow Recipe น่าสนใจอย่างไร ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
Glow Recipe ก่อตั้งโดยคุณ Christine Chang และคุณ Sarah Lee
ทั้งคู่รู้จักกันตอนที่กำลังทำงานอยู่ในบริษัท L’Oréal ประเทศเกาหลีใต้ ก่อนที่จะได้ย้ายมาทำงานอยู่ใน L’Oréal ประเทศสหรัฐอเมริกาด้วยกัน
ที่น่าสนใจคือ พวกเธอเป็นพนักงานเกาหลีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ที่ได้ทำงานในตำแหน่งนักการตลาดระดับสูงของบริษัท
และด้วยความที่พวกเธอทำงานอยู่ในอุตสาหกรรมความงามในสหรัฐอเมริกา ผนวกกับการเป็นชาวเกาหลี ทำให้พวกเธอเห็นโอกาสในตัวสินค้าความงามของเกาหลี
แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่ว่าทุกแบรนด์ของเกาหลีจะสามารถขยายไปสู่ระดับโลกได้ ทำให้ในปี 2014 พวกเธอตัดสินใจลาออกจากบริษัท L’Oréal และก่อตั้ง Glow Recipe ขึ้น
ซึ่งในตอนนั้น Glow Recipe ยังไม่ได้มีสถานะเป็นแบรนด์สกินแคร์อย่างในปัจจุบัน แต่อยู่ในรูปแบบแพลตฟอร์มที่เป็นตัวกลางให้กับแบรนด์ความงามเกาหลีรายย่อย สามารถวางขายสินค้าในสหรัฐอเมริกา เพื่อเป็นการลดช่องว่างให้กับแบรนด์เกาหลีในตลาดสหรัฐอเมริกา
แต่ด้วยความที่ทั้งคู่ได้ใช้ชีวิตแบบ 2 วัฒนธรรมระหว่างเอเชียและตะวันตก ทำให้พวกเธอมองเห็นศักยภาพของธุรกิจความงามแบบเกาหลี
ทั้งคู่จึงเปลี่ยนเส้นทางจากการเป็นตัวกลาง มาสร้างแบรนด์สกินแคร์ของตัวเองอย่าง Glow Recipe ขึ้นมา
และทั้งคู่ก็เคยไปออกรายการ Shark Tank ในปี 2015 เพื่อหาเงินในการลงทุนสำหรับธุรกิจแบรนด์สกินแคร์
ซึ่งแม้ว่า Glow Recipe จะผ่านการคัดเลือกในรายการแล้ว แต่สุดท้ายพวกเธอก็ไม่ได้ร่วมลงทุนกับกรรมการอยู่ดี
อย่างไรก็ตาม การไปออกรายการในครั้งนั้นก็ช่วยให้พวกเธอได้รับคำแนะนำดี ๆ จากเหล่ากรรมการ และนำมาพัฒนาแบรนด์ต่อ
จนกระทั่งในปี 2017 สกินแคร์ของ Glow Recipe ก็เปิดตัวออกมา
โดยมีสินค้าตัวแรก คือ “มาสก์หน้าแตงโม” ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากคุณยายที่เคยเอาไวน์จากแตงโมมาพอกหน้า ลดอาการแสบร้อนผิวในช่วงหน้าร้อนที่เกาหลีใต้นั่นเอง
แล้วสกินแคร์ของ Glow Recipe มีจุดเด่นตรงไหน ทำไมถึงโด่งดังในตลาดสหรัฐอเมริกา ?
อย่างแรกคือ นวัตกรรมแบบเกาหลี ที่ยังไม่ค่อยมีให้เห็นในสกินแคร์ฝั่งตะวันตก เช่น เนื้อสัมผัสแบบเจลลีเด้งดึ๋ง ที่สามารถคืนตัวได้หลังใช้งาน หรือกลิ่นของสกินแคร์ ที่คล้ายกับผลไม้จริงมาก ๆ รวมถึงเอฟเฟกต์ผลลัพธ์ที่สามารถมองเห็นได้ในข้ามคืน
อย่างต่อมาคือ ความสดใหม่ของแบรนด์ ที่ใช้บรรจุภัณฑ์สีสันสดใส ซึ่งแตกต่างจากแบรนด์อื่น ๆ ที่มีอยู่ในท้องตลาดที่มักจะมีดิไซน์แบบเรียบ ๆ หรู ๆ ทำให้ความแตกต่างนี้ ช่วยดึงดูดสายตาของคนที่ผ่านไปมาได้อย่างดี
อีกด้านหนึ่งคือ สิ่งที่แบรนด์ Glow Recipe อยากจะสื่อสารออกมา ก็คือ “ความสุนทรีย์”
หลายคนที่ไม่ชอบทาสกินแคร์บนหน้า อาจจะเป็นเพราะภาพจำเดิม ๆ ที่เคยมีในอดีต เช่น ครีมที่ไม่มีสารเคมีต้องไม่มีกลิ่น หรือมีกลิ่นยา ในขณะเดียวกันก็อาจมีสัมผัส
แบบเหนียวหนึบหน้า ตื่นมาแล้วหน้ามันเป็นเงา
ทำให้บางคนก็มองว่า ช่วงเวลาของการทาสกินแคร์เป็นเรื่อง “น่าเบื่อ” และเรื่องนี้เองที่ Glow Recipe เข้ามาเปลี่ยนแปลงให้กลายเป็น “ความสนุก”
สำหรับคนที่เคยไม่ชอบสกินแคร์เพียงแค่เพราะกลิ่นหรือสัมผัส เมื่อมาเจอกับ Glow Recipe ก็อาจจะทำให้มุมมองต่อสกินแคร์เปลี่ยนไป
มาถึงปัจจุบัน Glow Recipe เป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ Gen Z และ Gen Alpha
โดยมีรายงานว่าในปี 2023 แบรนด์นี้สามารถสร้างรายได้สูงถึง 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 10,270 ล้านบาท
ซึ่งเรื่องราวของ Glow Recipe ก็ถือเป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษาที่น่าสนใจ เพราะเป็นการทำสินค้าออกมาได้เหมาะสมกับจังหวะเวลาเป็นอย่างมาก
เนื่องจากผู้ก่อตั้งทั้งสองที่มองเห็นว่าเทรนด์ความงามของเกาหลีกำลังเติบโต
ดังนั้นการทำสินค้ามารองรับเทรนด์ในสถานที่ที่ยังไม่ค่อยมีสินค้ามาตอบโจทย์ หรือมีการเข้าถึงของสินค้ายาก จึงส่งผลให้เมื่อเปิดตัว แบรนด์ก็กลายเป็นที่ยอมรับได้ไม่ยาก
และจากเรื่องนี้จึงอาจพูดได้ว่าความสำเร็จไม่ใช่แค่สินค้าที่ดี นวัตกรรมที่เจ๋ง แต่การมาถึงของสินค้า และเทรนด์ที่ถูกที่ถูกเวลาก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน..
© 2025 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.