3 ผู้ก่อตั้ง สตาร์ตอัปกาแฟชื่อดัง แจกสูตร ตีตลาดอย่างไรให้แมสในอาเซียน
Business

3 ผู้ก่อตั้ง สตาร์ตอัปกาแฟชื่อดัง แจกสูตร ตีตลาดอย่างไรให้แมสในอาเซียน

6 ธ.ค. 2024
3 ผู้ก่อตั้ง สตาร์ตอัปกาแฟชื่อดัง แจกสูตร ตีตลาดอย่างไรให้แมสในอาเซียน /โดย ลงทุนเกิร์ล
Starbucks คือเชนร้านกาแฟอันดับหนึ่งที่มีสาขากระจายอยู่ทั่วโลก ไม่ว่าแบรนด์นี้จะไปทำธุรกิจที่ประเทศไหน เราก็มักจะเห็นว่าแบรนด์นี้เป็นที่นิยมแทบทั้งนั้น
แต่ดูแล้ว Starbucks คงหืดขึ้นคออยู่เหมือนกัน เพราะต้องเผชิญการแข่งขันอันรุนแรงจากแบรนด์ท้องถิ่น และในตอนนี้ ก็กำลังเจอกับคู่แข่งที่น่ากลัวในอาเซียน อย่าง
Flash Coffee ก่อตั้งในปี 2019 จากประเทศอินโดนีเซีย ปัจจุบันมีสาขาราว 200 แห่ง มาพร้อมคอนเซปต์ “Grab & Go”Kopi Kenangan ก่อตั้งในปี 2017 จากประเทศอินโดนีเซีย ปัจจุบันมีสาขา 868 แห่ง มาพร้อมคอนเซปต์ “ความหลงใหลในกาแฟตามแบบฉบับอินโดนีเซีย ในฐานะแบรนด์ท้องถิ่นสู่สาขาทั่วโลก”ZUS Coffee ก่อตั้งในปี 2019 จากประเทศมาเลเซีย ปัจจุบันมีสาขา 586 แห่ง มาพร้อมคอนเซปต์ “ทำกาแฟให้เป็นของจำเป็น ไม่ใช่ของหรูหราราคาแพง”
จะเห็นได้ว่าทั้ง 3 แบรนด์ เป็นแบรนด์ที่เพิ่งเกิดใหม่ในระยะเวลาไม่ถึง 10 ปี แต่สามารถขยายสาขาได้อย่างรวดเร็วทั่วภูมิภาค
คำถามคือเชนร้านกาแฟสตาร์ตอัปทั้ง 3 แบรนด์นี้ทำได้อย่างไร ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
ความลับของเรื่องนี้ได้ถูกเฉลยโดย
คุณ David Brunier ผู้ร่วมก่อตั้ง Flash Coffeeคุณ James Prananto ผู้ร่วมก่อตั้ง Kopi Kenanganคุณ Venon Tian ผู้ร่วมก่อตั้ง ZUS Coffee
ภายในงาน “Tech in Asia Conference 2024” ที่จัดขึ้นในประเทศมาเลเซีย โดยมีเรื่องราวดังนี้
ช่องว่างในตลาดกาแฟ
ผู้ก่อตั้งทั้ง 3 แบรนด์มองว่าตลาดกาแฟยังมีช่องว่างที่เห็นได้ชัดระหว่าง ร้านสะดวกซื้อที่ขายกาแฟได้อย่างรวดเร็วและราคาไม่แพง กับร้านกาแฟพรีเมียมที่มอบประสบการณ์หรูหราแต่มีราคาแพง
พวกเขาจึงเห็นโอกาสธุรกิจว่ายังมีช่องว่างสำหรับกาแฟคุณภาพสูง ในราคากลาง ๆ ที่คนทั่วไปเข้าถึงได้
เทคโนโลยีเป็นตัวเปลี่ยนเกม
จุดแข็งของสตาร์ตอัปกาแฟคือ การนำเทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาทั้งด้านลูกค้า และการดำเนินงานภายในธุรกิจ
โดยการสร้างแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน ช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงการบริการได้หลากหลายและรวดเร็วมากขึ้น เช่น การสั่งซื้อล่วงหน้า, การสั่งดิลิเวอรี และการสะสมแต้ม
รวมไปถึงการใช้เทคโนโลยีในการเก็บข้อมูลลูกค้า เช่น พฤติกรรมการซื้อ ตำแหน่งที่ตั้ง และเมนูที่ชอบ เพื่อนำข้อมูลไปใช้วิเคราะห์ทางการตลาด ยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า และปรับปรุงการดำเนินงานในอนาคต
นอกจากนี้เทคโนโลยี ยังช่วยให้ธุรกิจมีประสิทธิภาพมากขึ้น จากตัวอย่างของ Kopi Kenangan ที่มีระบบเฉพาะช่วยให้บาริสตาสามารถสั่งวัตถุดิบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดข้อผิดพลาด และลดของเสียภายในร้าน
การปรับตัวให้เข้ากับท้องถิ่น
คุณภาพของกาแฟ และประสบการณ์ของลูกค้า เป็นแก่นหลักของการทำธุรกิจร้านกาแฟ ดังนั้นเมื่อตั้งเป้าขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ ทั้ง 3 แบรนด์จึงเน้นย้ำถึงการปรับเมนูให้เข้าถึงคนท้องถิ่น
เช่น การปรับเปลี่ยนกาแฟให้เหมาะกับรสนิยมของคนท้องถิ่น โดยรักษาเอกลักษณ์ของแบรนด์ไว้ หรือการจ้างทีมงานในพื้นที่ เพื่อช่วยให้แบรนด์เข้าใจความชอบของคนท้องถิ่น
จากตัวอย่างของ ZUS Coffee ที่เข้าไปบุกตลาดฟิลิปปินส์ ก็ได้ปรับเมนูให้เข้ากับรสนิยมของคนท้องถิ่น และเปิดตัวซีรีส์ Ube เป็นเมนูเครื่องดื่มหลายรูปแบบที่ผสมผสานกับมันเทศสีม่วงที่ชาวฟิลิปปินส์ชื่นชอบ
การดิไซน์ร้าน
เนื่องจากทั้ง 3 แบรนด์ให้ความสำคัญกับประสบการณ์การซื้อกาแฟที่รวดเร็ว จึงไม่เน้นขยายสาขาที่มีพื้นที่กว้างขวางเหมือนร้านกาแฟทั่ว ๆ ไป
แต่เน้นการขยายสาขาในพื้นที่เล็ก ๆ ที่สามารถให้บริการกาแฟแบบ Grab & Go เพื่อให้ลูกค้าใช้เวลาในแต่ละสาขาไม่นาน
ซึ่งการมีพื้นที่หน้าร้านเล็ก ช่วยให้ประหยัดต้นทุนในการเปิดสาขาใหม่ และเป็นจุดแข็งที่ทำให้ทั้ง 3 แบรนด์สามารถปรับตัว หรือขยายร้านกาแฟไปได้หลายพื้นที่
ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวที่ทำให้สตาร์ตอัปกาแฟทั้ง 3 แบรนด์ที่มีโมเดลธุรกิจแตกต่างจากร้านกาแฟแบบดั้งเดิม สามารถประสบความสำเร็จในการขยายสาขาได้อย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม แม้ตลาดกาแฟอาเซียนกำลังมีการเติบโตสูง แต่ทั้ง 3 แบรนด์ก็ต้องเจองานหินไม่เบา เพราะนอกจากจะมีคู่แข่งร้านกาแฟเกิดใหม่มากมายแล้ว เทรนด์การบริโภคกาแฟก็เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเช่นกัน
สตาร์ตอัปทั้ง 3 แบรนด์จึงต้องวางแผนแก้เกม เช่น Kopi Kenangan ที่กำลังขยายตลาดด้วยการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ “Satu Kenangan” ที่มีราคาเข้าถึงง่ายขึ้น
ZUS Coffee มุ่งเน้นไปที่การสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นในมาเลเซีย และมองหาลู่ทางตลาดใหม่ ๆ
Flash Coffee เลือกขยายขนาดร้าน เพื่อมอบประสบการณ์แบรนด์ที่ครบครันยิ่งขึ้น ในขณะที่ยังคงเน้นคอนเซปต์ “Grab & Go”
อีกทั้ง สตาร์ตอัปทั้ง 3 แบรนด์นี้ก็กำลังศึกษาวิธีใช้ระบบอัตโนมัติและพึ่งพาเทคโนโลยีให้มากยิ่งขึ้น
ดูแล้ว ผู้ประกอบการร้านกาแฟ คงจะต้องทำงานกันหนักขึ้น ส่วนคนที่ได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ คงหนีไม่พ้นผู้บริโภคอย่างเรา ๆ นั่นเอง..
References:
-เว็บไซต์ของแต่ละแบรนด์
-https://vulcanpost.com/866619/tech-driven-coffee-startups-zus-kenangan-flash-redefine-coffee-industry/
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.