“Grillz” และ “Tooth Gems” เทรนด์เครื่องประดับฟัน ที่อาจเป็นโอกาสใหม่ของวงการทันตกรรม /โดย ลงทุนเกิร์ล

ก่อนหน้านี้ หลายคนอาจคุ้นหน้าคุ้นตากับ “Grillz” หรือที่ครอบแผงฟัน ประดับด้วยทองคำหรือเพชร ที่เหล่านักร้องฮิปฮอปหรือแรปเปอร์ชาวผิวสี นิยมใส่กันตั้งแต่ช่วงยุคปลายปี 80’s

แต่ปัจจุบัน เทรนด์เครื่องประดับฟันเริ่มมีความหลากหลายมากขึ้น และมีความมินิมัลมากขึ้น จนเกิดเป็นเทรนด์ “Tooth Gems” หรือการนำเพชรเม็ดเล็ก ๆ มาติดบนฟันแค่เพียงบางซี่เท่านั้น

ซึ่ง Tooth Gems กลายเป็นเทรนด์ฮิต ที่เหล่าเซเลบริตีอย่าง คุณลิซ่า มโนบาล, คุณ Kendall Jenner, คุณ Hailey Bieber และอีกหลาย ๆ คนที่หันมาติด Tooth Gems ออกงาน รวมถึงใส่ในชีวิตประจำวัน

ทำให้เทรนด์นี้เป็นที่สนใจของคนทั่วไป จนหลายคนอยากจะหาร้านทำ Tooth Gems หรือ Grillz ตามบ้าง

แล้ว Tooth Gems และ Grillz น่าสนใจอย่างไร ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง

ก่อนอื่นต้องขอเล่าที่มาของวัฒนธรรมเครื่องประดับบนฟันแบบคร่าว ๆ ที่มีมายาวนานกว่าที่หลายคนคิด โดยมีหลักฐานการใช้ Grillz ที่เก่าแก่ที่สุดพบได้ในอารยธรรมโบราณ

ย้อนไปไกลราว 200-800 ปีก่อนคริสตกาล
นักโบราณคดีขุดค้นพบกระดูกชาว Etruscan กลุ่มคนโบราณที่อาศัยอยู่ในแถบอิตาลี มีอัญมณีติดอยู่บนฟัน โดยคาดว่าเครื่องประดับนี้เป็นที่นิยมในหมู่ผู้หญิงฐานะร่ำรวย

นอกจากนี้ยังมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์จากอาณาจักรมายาโบราณ (Ancient Mayan Civilization) ที่พบอัญมณีหลากสีหรือหยก ติดอยู่บนฟันของซากศพบุคคลที่มีตำแหน่งสูง ๆ ในสังคม

ซึ่ง Grillz เหล่านี้ แสดงให้เห็นว่าวัฒนธรรมโบราณให้ความสำคัญกับฟัน และใช้ Grillz เป็นเครื่องประดับเพื่อแสดงออกถึงสถานะทางสังคมและความเชื่อทางศาสนา

ส่วนในยุคปัจจุบัน หรือช่วง 2-3 ทศวรรษนี้ ว่ากันว่า ผู้ที่คิดค้นเทรนด์เครื่องประดับฟันจนแพร่หลาย คือ คุณ Eddie Plein ชาวอเมริกาใต้ ผู้ย้ายถิ่นฐานมาอาศัยอยู่ย่าน Brooklyn เมือง New York

ซึ่งวันหนึ่งที่คุณ Plein ได้กลับไปที่บ้านเกิด เขาทำฟันตัวเองหลุด 1 ซี่ เขาจึงได้รับข้อเสนอจากทันตแพทย์ให้ใส่ที่ครอบฟันทองแทน

เนื่องจากคนในบ้านเกิดของคุณ Plein นิยมใส่ที่ครอบฟันทอง อีกทั้งทองคำยังเป็นสินค้าส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของประเทศในเวลานั้น

จากเหตุการณ์ชวนหวาดเสียวนี้ คุณ Plein จึงเกิดไอเดียทำเครื่องประดับฟันขึ้นมา โดยผสมผสานเรื่องวัฒนธรรมชาวฮิปฮอปผิวสี ที่นิยมใส่เครื่องประดับจิวเวลรี เช่น สร้อยเชนทองคำ

ทำให้เมื่อเขากลับไปสหรัฐฯ เขาก็ตัดสินใจเริ่มเส้นทางธุรกิจ ด้วยการเลือกเข้าเรียนทันตแพทย์ และเริ่มประดิษฐ์ Grillz เพื่อไปขายที่ร้านรับจำนำในย่าน Queens เนื่องจากร้านรับจำนำมักจะขายจิวเวลรีที่มีมูลค่าอยู่แล้ว คุณ Plein จึงใช้วิธีเสนอขาย Grillz ให้ลูกค้าที่มาที่หน้าร้าน และเมื่อลูกค้าสนใจ ก็จะพาไปทำที่หลังร้าน

หลังจากเปิดร้านไปสักพัก คุณ Plein ก็ประสบความสำเร็จ จากการที่แรปเปอร์ชื่อดังอย่างคุณ Just-Ice เข้ามาซื้อ Grillz ที่ร้าน และนำไปใส่ใน MV จนทำให้นักร้องฮิปฮอปและแรปเปอร์ท่านอื่น ๆ เช่น คุณ Flavor Flav และคุณ Jay-Z เข้ามาซื้อ Grillz เพื่อใส่ถ่าย MV ไปตาม ๆ กัน

โดยจุดประสงค์หลักของการนำ Grillz มาใส่ถ่าย MV ก็เพื่อแสดงความ Flex หรือ การแสดงความร่ำรวยแบบอู้ฟู่ และต้องการแสดงให้ผู้คนเห็นถึงความโดดเด่นที่ไม่เหมือนใคร

ตรงนี้เราจะเห็นว่า ไม่ว่าจะเป็นยุคโบราณ ที่มีการประดับฟันด้วยอัญมณีหลากสีสัน หรือยุคสมัยใหม่ ที่นิยมที่ครอบฟันที่ประดับไปด้วยเพชร เงิน หรือ ทองคำ สุดท้ายแล้วมีจุดประสงค์คล้ายกันนั่นก็คือ การแสดงถึงฐานะที่มั่งคั่ง

จนกระทั่งในช่วงปี 1990-2000 Grillz ได้ขยายความนิยมมากขึ้น จากเดิมที่มีเพียงนักร้องฮิปฮอปและแรปเปอร์ ก็ขยายสู่แวดวงนักกีฬาชื่อดัง หรือเซเลบริตี ที่มักจะหยิบ Grillz มาเป็นเครื่องประดับไอเทมใหม่ ทำให้ในสหรัฐฯ เต็มไปด้วยร้านรับทำ Grillz

เช่น ร้าน Johnny Dang & Co ที่ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1998 แต่ยังได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน โดยราคาทำ Grillz ทองคำ สำหรับฟันสองซี่ของร้านนี้ เริ่มต้นที่ 3,600 บาท ส่วนราคาสำหรับการทำเพชรครอบฟันบน-ล่าง จะมีราคาเริ่มต้นที่ 140,000 บาท

ซึ่งหากเราดูจากราคาเริ่มต้นในการทำ Grillz ที่ค่อนข้างสูง อาจเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ตอบคำถามได้ว่า ทำไมในช่วงนั้นถึงมีแต่ศิลปินและเซเลบริตีที่นิยมเทรนด์นี้

อย่างไรก็ตาม จากผลสำรวจของ Google Trends พบว่า ผู้คนเซิร์ชหาคีย์เวิร์ดอย่าง Tooth Gems มากขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2022 จนถึงปัจจุบัน อีกทั้งในประเทศอื่นนอกเหนือจากสหรัฐฯ ก็มีธุรกิจเครื่องประดับฟันมากขึ้น

ยกตัวอย่างสตูดิโอที่มีชื่อเสียงสำหรับการเทรนและบริการทำ Grillz และ Tooth Gems โดยเฉพาะ เช่น Chai Beauty ในลอนดอน สหราชอาณาจักร ที่มีโอกาสได้ทำงานร่วมกับแบรนด์แฟชั่นและความงามเจ้าดังอย่าง Maybelline New York และ Nike

หรือในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซหลายที่ก็ขาย Grillz และ Tooth Gems Kit เซตอุปกรณ์ที่สามารถติดเองได้ที่บ้านในราคาย่อมเยา

อย่างไรก็ตาม เซตอุปกรณ์ที่สามารถติดเองได้ที่บ้าน กำลังเป็นที่ถกเถียงในวงการทันตแพทย์เรื่องความสะอาดและความปลอดภัย ทำให้หลายคนหันไปปรึกษาทันตแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านช่องปากแทน

นี่จึงอาจจะเป็นโอกาสทอง ในการต่อยอดและขยายธุรกิจของธุรกิจทันตกรรม ที่ร้านของทันตแพทย์เฉพาะทาง หรือผู้ที่เรียนรู้ทางด้านทันตกรรมความงามโดยตรง จะมีการเพิ่มบริการตกแต่งเครื่องประดับฟัน ด้วยวัสดุที่ปลอดภัยได้โดยไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เป็นเซอร์วิสใหม่ ๆ ให้กับลูกค้า

แม้ทุกวันนี้ในประเทศไทย เราอาจไม่ได้พบเห็นคลินิกทำฟันทั่วไป ที่รับทำ Grillz และ Tooth Gems เหมือนกรณีร้านทันตกรรมเฉพาะทางในต่างประเทศ

แต่หากในอนาคต เทรนด์นี้มีจำนวนความต้องการในตลาดมากพอ บวกกับความชำนาญทางการแพทย์พัฒนาจนเป็นที่ยอมรับมากขึ้น

ไม่แน่ว่าเราอาจเห็น Grillz และ Tooth Gems เป็นอีกหนึ่งศาสตร์ด้านทันตกรรมความงามในคลินิกทำฟัน ที่ปัจจุบันเราคุ้นเคยจากการจัดฟันใส Invisalign หรือ การทำ Veneer ก็เป็นได้..

References:
-https://www.ft.com/content/c30d7871-2460-425e-8add-6dd6e867562a
-https://cheezelooker.com/web/article/CHZ210900090
-https://www.byte.com/community/resources/article/history-of-grillz
-https://vogue.sg/tooth-gems/
-https://www.businessoffashion.com/news/beauty/from-35-crystals-to-30000-diamonds-the-jaw-dropping-rise-of-tooth-jewellery/
-https://www.grinmag.com/2024-news/are-tooth-gems-safe
-https://thelinknewspaper.ca/article/tooth-gems-through-status-and-fashion
-https://www.popsugar.com/beauty/tooth-gems-history-48671592
-https://nr.world/eddie-plein/