Snail Girl เทรนด์สาว Gen Z ไม่ถวายชีวิตเพื่อองค์กร แล้วหันมารักตัวเอง ใช้ชีวิตให้ช้าเหมือนหอยทาก
Business

Snail Girl เทรนด์สาว Gen Z ไม่ถวายชีวิตเพื่อองค์กร แล้วหันมารักตัวเอง ใช้ชีวิตให้ช้าเหมือนหอยทาก

8 ก.ค. 2024
Snail Girl เทรนด์สาว Gen Z ไม่ถวายชีวิตเพื่อองค์กร แล้วหันมารักตัวเอง ใช้ชีวิตให้ช้าเหมือนหอยทาก /โดย ลงทุนเกิร์ล
สมัยก่อนคนมองว่าความขี้เกียจคือนิสัยแง่ลบที่ควรหลีกเลี่ยง และคนที่ทำงานหนักเท่านั้นถึงจะประสบความสำเร็จ
แต่ปัจจุบัน ไม่เห็นต้องแข่งกับใคร แข่งกับตัวเองให้กลับบ้านไปนอนได้เร็วขึ้นดีกว่า
หลายคน หันมาให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเอง และมองว่าความสุขมีค่ามากกว่าการเติบโตในหน้าที่การงาน
ซึ่งเทรนด์ไลฟ์สไตล์ที่ว่าก็คือ “Snail Girl” ที่ตรงใจสาว ๆ Gen Z หลายคนในยุคนี้ และเป็นขั้วตรงข้ามของแนวคิดหญิงแกร่งแบบ Girl Boss
แล้ว Snail Girl คืออะไร ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
ยุคนี้คนหันมาใส่ใจกับชีวิตตัวเองมากขึ้น ต่างกับสมัยก่อนที่คนมักยุ่งกับงานประจำ มีความทะเยอทะยานเพื่อก้าวหน้าในอาชีพ จนไม่มีเวลาให้ครอบครัวหรือแม้แต่ตัวเอง
เราจึงเริ่มเห็นเทรนด์การทำงานที่เปลี่ยนไป เช่น
-Bare Minimum Mondays การทำงานน้อย ๆ ในวันแรกของสัปดาห์ เพื่อลดอาการเกลียดวันจันทร์ (Monday Blues)
-Quiet Quitting ภาวะหมดไฟ แต่ทนทำงานให้จบไปวัน ๆ ไม่ได้มีแรงใจในการทำงาน
จนเข้าสู่ยุคของ Snail Girl ที่เริ่มได้รับความสนใจตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว
Snail Girl คือตัวแทนกลุ่มคนที่ “ช้า” ไม่ใช่ในแง่ของการทำงาน แต่คือการไม่รีบเร่งที่จะประสบความสำเร็จ เดินตามเส้นทางด้วยจังหวะความเร็วของตัวเอง
พูดง่าย ๆ คือสาว ๆ ที่เห็นคุณค่าของ Work-life Balance การดูแลตัวเอง การค้นพบความสุขที่แท้จริง มากกว่าจมอยู่กับงานและมัวแต่วิ่งไล่ตามความสำเร็จ
สาว ๆ กลุ่มนี้ อาจจะใช้ชีวิตแบบไปเล่นพิลาทิสก่อนไปทำงาน ไม่ทำงานนอกเวลา เลือกที่จะทำงานแบบ Work from Anywhere หรือเลือกสถานที่ที่ทำงานเพียงแค่ 4 วันต่อสัปดาห์ ซึ่งเริ่มมีเทรนด์นี้แล้วในเบลเยียมและอังกฤษ
โดยแนวคิด Snail Girl เริ่มมาจากคุณ Sienna Ludbey ดิไซเนอร์ชาวออสเตรเลีย เจ้าของแบรนด์กระเป๋าแฮนด์เมด ที่ได้เล่าแนวคิดนี้ลงในเว็บไซต์ Fashion Journal ผ่านบทความที่ชื่อว่า “Snail girl era”: Why I’m slowing down and choosing to be happy rather than busy
เธอเล่าว่าเธอเคยมีชีวิตที่ยุ่งเหยิงและวุ่นวาย หมกมุ่นอยู่กับการเป็น Girl Boss จนรู้สึกกดดันที่ต้องใช้ชีวิตเพื่อให้ถูกมองว่าประสบความสำเร็จ
จนกระทั่งเกิดโรคระบาด ทำให้เธอตระหนักได้ว่าชีวิตที่มีจุดมุ่งหมายไม่ได้แปลว่าจะประสบความสำเร็จเสมอไป
เธอจึงเลือกใช้ชีวิตให้ช้าลง ไม่กดดันตัวเองมากเกินไป มีสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว ที่สำคัญคือ หยุดเปรียบเทียบตนเองกับคนอื่น
แน่นอนว่า Snail Girl อาจไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายของการจ้างงาน
แต่ในยุคดิจิทัลเช่นนี้ ผู้หญิงมีทางเลือกด้านอาชีพที่มากขึ้น แถมปัจจุบันก็มีแพลตฟอร์มรับงาน Freelance หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าใครก็สามารถหารายได้เสริม รับงานจากที่ไหนก็ได้
นับเป็นทางเลือกใหม่ให้ชาว Snail Girl ที่ต้องการความยืดหยุ่น
ส่วนสำหรับสาว ๆ ที่ยังทำงานประจำ เราก็มีเทคนิคการเป็น Snail Girl ที่ไม่กระทบกับการทำงาน เช่น
1.เวลางานคือเวลางาน เวลาพักคือพัก
เมื่อถึงเวลาทำงาน ก็ต้องทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อให้งานเสร็จทันเวลาที่มีอยู่น้อยนิด
ในขณะเดียวกัน เมื่อหมดเวลางาน หรือเลิกงานไปแล้ว ก็ตัดขาดออกจากโลกของการทำงานไปใช้ชีวิตส่วนตัว
2.เรียนรู้ที่จะตอบปฏิเสธ
ไม่จำเป็นต้องพูด “ได้” หรือ “ตกลง” ในทุกเรื่อง เมื่อมีใครมาขอร้องให้เราช่วย
ก่อนที่จะตอบตกลงช่วยเหลือใคร ลองใช้เวลาประเมินขีดความสามารถที่ตัวเราเองจะรับไหว และเวลาของเราเสียก่อน ว่างานที่เราต้องไปช่วยคนอื่นนั้นใช้เวลามาก จนมาเบียดเบียนชีวิตส่วนตัวเราหรือไม่
3.ทำสิ่งที่ตัวเองมีความสุข
ให้เวลากับตัวเองในการทำสิ่งที่เราชอบหรือสนุกไปกับมัน อะไรที่ทำแล้วไม่ต้องเครียด เช่น หางานอดิเรกทำ พบปะเพื่อนฝูง ออกไปท่องเที่ยว ทานอาหารค่ำ หาร้านกาแฟดี ๆ อ่านหนังสือ ดูซีรีส์ หรือนอนกลิ้งอยู่บนโซฟา
อย่างไรก็ดี แม้ว่าการเลือกใช้ชีวิตแบบ Snail Girl จะดูสบาย และน่าพึงพอใจมากกว่า แต่ก็อาจเกิดปัญหาด้านการเงินหรือปัญหาอื่น ๆ เกิดขึ้นตามมา
เช่นเดียวกับในมุมของ Girl Boss ที่แม้จะมีภาพลักษณ์สาวสตรอง แต่ก็อาจเผชิญกับปัญหา Burnout และความเครียดสะสมจากการทำงาน
ดังนั้นไม่มีคำตอบที่ถูกหรือผิดสำหรับการเป็น Snail Girl หรือ Girl Boss
เพราะทุกคนต่างเป็นผู้กำหนดชีวิตของตัวเอง
และไม่ว่าจะเลือกทางใด ก็สามารถเป็นผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จได้ทั้งนั้น..
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.