Pagerie แบรนด์แฟชั่นของน้องหมา ราคาหลักหมื่น ที่กล้าใช้โรงฟอกหนังเดียวกับ Hermès
Business

Pagerie แบรนด์แฟชั่นของน้องหมา ราคาหลักหมื่น ที่กล้าใช้โรงฟอกหนังเดียวกับ Hermès

25 มี.ค. 2024
Pagerie แบรนด์แฟชั่นของน้องหมา ราคาหลักหมื่น ที่กล้าใช้โรงฟอกหนังเดียวกับ Hermès /โดย ลงทุนเกิร์ล
อย่าเห็นว่าเป็นแค่ “ปลอกคอของน้องหมา” แล้วจะมาดูถูกกันได้ ว่าไม่มีราคาค่างวด
เพราะถ้าเห็นราคาของปลอกคอหนังที่แบรนด์ Pagerie (อ่านว่า ปา-เฌอ-รี) แฟชั่นเฮาส์ สำหรับน้องหมาจากสหรัฐอเมริกา หลายคนอาจต้องขยี้ตา คิดว่าดูผิด
เพราะราคาแรงไม่แพ้ลักชัวรีแบรนด์ ที่แตกไลน์มาทำแอกเซสซอรีของสัตว์เลี้ยงเลย
โดยแค่ปลอกคอหนังที่คุ้นตา ก็สนนราคาอยู่ที่ 13,700 บาท
แต่ถ้าเป็นสายรัดอกที่ใส่แล้วน้องหมาดูเท่ขึ้นทันตา สนนราคาจะอยู่ที่ 26,000 บาท
และถ้าหากอยากได้สายจูงหนัง มาแมตช์แบบครบชุด ก็ต้องจ่ายเพิ่มอีก 19,800 บาท
เรียกได้ว่า เจ้าของสัตว์เลี้ยงต้องเตรียมควักกระเป๋าก้อนโต เพราะราคาแทบไม่ต่างจากการถอยกระเป๋าแบรนด์เนมใบใหม่มาถือเก๋ ๆ เลย
อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะเริ่มสงสัยว่า แล้วแบรนด์ Pagerie มีที่มาอย่างไร ?
ทำไมถึงกล้าตั้งราคาสินค้าถึงหลักหมื่น ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
จะเรียกว่าเป็นแบรนด์น้องใหม่ที่เพิ่งแจ้งเกิดได้ไม่นานก็ว่าได้ สำหรับ Pagerie เพราะเพิ่งเปิดตัวเมื่อปี 2019
โดยเจ้าของไอเดียนี้คือ คุณ Mandy Madden Kelley​ อดีตทนายความสาวที่ผันตัวเองแบบสุดขั้ว มาเป็นบิวตีอินฟลูเอนเซอร์
ซึ่งแรงบันดาลใจที่ทำให้เธอลุกขึ้นมาทำแบรนด์แฟชั่นน้องหมา ก็เพราะความรักหมาเป็นทุนเดิม
แต่เพิ่มเติมด้วยเหตุผลที่สะกิดใจให้ต้องลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่าง จากประสบการณ์ตรงที่เจอกับตัว หลังจากเธอย้ายตามสามีมาอยู่ที่ลอสแอนเจลิส
เธอพบว่าหลายครั้งเวลาไปกินร้านอาหารนอกบ้าน หรือแม้แต่งานอิเวนต์ งานแฟชั่น
เธอจะรู้สึกขัดใจทุกครั้งที่เห็นคนที่มิกซ์แอนด์แมตช์เสื้อผ้าหน้าผมมาแบบจัดเต็ม
แต่ดันต้องมาตกม้าตาย เพราะแอกเซสซอรีที่ใส่ให้น้องหมาที่พามาด้วย อย่างปลอกคอ หรือสายจูงพลาสติกที่ดูแล้ว ไม่ได้บ่งบอกรสนิยมของเจ้าของเอาเสียเลย
พอเป็นแบบนี้ ในฐานะคนรักหมา คุณ Kelley​ เลยอยากจะสนองความต้องการลึก ๆ ของตัวเอง ที่อยากจะออกแบบไอเทมที่ตอบโจทย์คนรักหมาในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ตั้งแต่การออกแบบ ไปจนถึงคุณภาพของวัสดุที่ใช้
เพราะต่อให้บรรดาลักชัวรีแบรนด์อย่าง Hermès, Goyard, Louis Vuitton หรือ Dior จะตบเท้ามาจับตลาดสัตว์เลี้ยง แตกไลน์เสื้อและแอกเซสซอรีของน้องหมา ที่มีตั้งแต่ปลอกคอ, ชามข้าว ไปจนถึงเตียงนอน
แต่ในฐานะทาสหมา เธอก็ยังรู้สึกว่า ยังไม่เจอชิ้นที่ถูกใจ และรู้สึกว่าเป็นชิ้นที่เลอค่าในแบบที่น้องหมาคู่ควร
เพราะเธออยากให้เจ้าของน้องหมารู้สึกว่า การลงทุนซื้อไอเทมดี ๆ ให้สัตว์เลี้ยง ก็ไม่ต่างจากการลงทุนซื้อกระเป๋าดี ๆ สักใบมาใช้
อย่างไรก็ตามแม้ความตั้งใจจะเกินร้อย แต่เพราะไม่ได้มีประสบการณ์ในสายนี้มาก่อน
กว่าจะตีโจทย์ทุกข้อให้ออกมาตรงใจ ก็ยิ่งยากเป็นทวีคูณ
ตั้งแต่การตามหาวัสดุคุณภาพเยี่ยมที่จะนำมาใช้ เพราะอย่างที่เกริ่นไปตอนต้นว่า คุณ Kelley​ ไม่ปลื้มกับปลอกคอและสายจูงพลาสติก เธอจึงเบนเข็มมาใช้วัสดุอย่าง “หนัง”
แต่ก็ไม่ใช่หนังธรรมดา เพราะเธอเลือกใช้หนังที่มาจากโรงฟอกเดียวกับที่ Hermès
แบรนด์กระเป๋าหนังระดับตำนาน ใช้ผลิต Birkin กระเป๋าในตำนาน ที่ราคาสูงถึงหลักล้านบาท
ในส่วนของฮาร์ดแวร์ต่าง ๆ เช่น ห่วงหรือตัวล็อก เธอเลือกใช้วัสดุเกรดเดียวกับที่ใช้ในเรือยอช์ต
เพื่อความทนทาน สวยงาม และไม่ต้องกลัวว่าใช้ไปนาน ๆ แล้วจะมีสีหลุดลอก
ซึ่งกว่าจะได้วัสดุที่ตอบโจทย์มาว่ายากแล้ว เธอยังต้องใช้เวลาเป็นปีกว่าจะหาโรงงานที่ผลิตฮาร์ดแวร์ต่าง ๆ ได้ตรงสเป็กที่วางไว้
นอกจากนั้น คุณ Kelley​ ยังได้เฟ้นหาช่างฝีมือชั้นยอด ที่มีการสืบทอดภูมิปัญญากันมาแบบรุ่นต่อรุ่นในการตัดเย็บทุกไอเทมด้วยมือ
เรียกได้ว่าเป็นการรังสรรค์ทุก ๆ องค์ประกอบ ให้ออกมาไร้ที่ติ ตั้งแต่วัสดุ ไปจนถึงกระบวนการผลิต ภายใต้หัวใจสำคัญอย่าง “การดิไซน์” ที่ดู “มินิมัลสุด ๆ” แต่กลับมีรายละเอียดที่น่าสนใจซ่อนอยู่
อย่างปลอกคอรุ่น The Babbi ที่น้องหมาใส่แล้ว จะดูองอาจเหมือนอาชา
นั่นก็เพราะคุณ Kelley และทีมงาน ได้แรงบันดาลใจมาจาก “ม้า” ที่มีท่วงท่าที่สง่า
เลยเอาไอเดียของอานม้ามาใช้ โดยปรับให้เข้ากับสรีระและการเคลื่อนไหวของน้องหมา
หรือสายจูง The Tascher ก็มีการเติมฟังก์ชันเข้ามาให้สามารถเพิ่มแอกเซสซอรี อย่างกระเป๋าเล็ก ๆ สำหรับเก็บของจุกจิก อย่างถุงเก็บอุนจิน้องหมา เวลาพาออกไปข้างนอก เป็นต้น
เท่านั้นยังไม่พอ เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่า สมกับราคาที่จ่ายไป
แต่ด้วยความที่ Pagerie ไม่ได้มีหน้าร้านให้ลูกค้า ต้องสั่งซื้อออนไลน์เท่านั้น คุณ Kelley จึงเล่นใหญ่ ด้วยการนำกิมมิกเก๋ ๆ ของบรรดาลักชัวรีแบรนด์มาเพิ่มประสบการณ์ให้ลูกค้า
ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบกล่องให้ดูเรียบหรู โดยเลือกใช้สีเบจ ที่ดูสบายตา
เมื่อเปิดกล่องออกมา จะเจอกับถุงผ้าฝ้ายที่ใช้บรรจุปลอกคอ หรือสายจูงที่ลูกค้าเลือกมาเป็นอย่างดี
แนบมาพร้อมใบรับประกันที่ยืนยันว่าของที่ส่งมาเป็นของแท้
เรียกได้ว่า สมกับเป็นแบรนด์ที่เกิดมา เพื่อเจาะตลาดคนรักน้องหมาที่เป็นสายเปย์ไม่พอ ต้องกระเป๋าหนักจริง ๆ แต่อย่างน้อยก็ช่วยให้ไม่ต้องหนักใจ
และถึงจะเปิดตัวมาไม่นานก็เจอกับสถานการณ์โรคระบาด แต่คุณ Kelley เชื่อว่าวิกฤติครั้งนี้ ยิ่งทำให้คนเหงา และเลือกจะมีสัตว์เลี้ยงไว้ข้างกาย
บวกกับ เทรนด์การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงแบบรักเหมือนลูก หรือ Pet Parent ก็น่าจะทำให้ตลาดสัตว์เลี้ยงยิ่งโตต่อเนื่อง
ซึ่งก็เป็นไปได้ว่า ในอนาคต คุณ Kelley อาจจะต้องขยายฐานลูกค้า ด้วยการไปเจาะกลุ่มทาสแมวด้วย เพราะก็ถือเป็นกลุ่มลูกค้าที่ใหญ่ไม่น้อยกว่ากลุ่มผู้เลี้ยงสุนัขเลย
เพราะอย่าลืมว่า ยิ่งตลาดสัตว์เลี้ยงหอมหวานเท่าไร ก็ย่อมมีคู่แข่งที่หมายตาจะเข้ามาชิงตลาด
โดยเฉพาะบรรดาลักชัวรีแบรนด์ที่ไม่ได้มีแค่ฐานแฟนขนาดใหญ่อยู่แล้ว
แต่เมื่อบวกกับชื่อเสียงของแบรนด์ ชนิดที่ว่าแค่เห็นโลโกหรือลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ ก็เป็นการการันตีถึงคุณภาพและความหรูหรา ที่ลูกค้าพร้อมจะควักเงินจ่าย
ผิดกับแบรนด์ที่เพิ่งแจ้งเกิด การจะพิสูจน์ให้ลูกค้าเชื่อว่าดิไซน์ และคุณภาพคับแก้วสมราคา ก็ต้องใช้เวลาและถือว่าเป็นโจทย์ที่หินไม่น้อยเลยทีเดียว..
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
รู้หรือไม่ว่า ชื่อของ Pagerie มาจากชื่อ Marie Josèphe Rose Tascher de La Pagerie
ซึ่งเป็นชื่อเดิมของ พระนาง Joséphine Bonaparte หญิงม่ายผู้เป็นรักแรกพบของ “จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 แห่งฝรั่งเศส”
และสาเหตุที่คุณ Kelley เลือกชื่อนี้ ก็เพราะนอกจากจะอินกับโศกนาฏกรรมความรักของทั้งคู่แล้ว
พระนาง Joséphine Bonaparte ยังมีสัตว์เลี้ยงที่เป็น “น้องหมา” อีกด้วย..
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.