
News
<อัปเดต> Hermès โตแรงแซงโค้ง สวนทาง LVMH และ Kering
15 ก.พ. 2025
<อัปเดต> Hermès โตแรงแซงโค้ง สวนทาง LVMH และ Kering
หลังจากไม่กี่วันมานี้ บริษัทแบรนด์หรูต่างออกมารายงานว่ารายได้ไม่เติบโต กำไรลดลง จากตลาดแบรนด์หรูที่ซบเซา
นำโดย LVMH เจ้าของ Louis Vuitton กำไรลดลง 19%
ต่อด้วย Kering เจ้าของ Gucci กำไรลดลง 62%
ต่อด้วย Kering เจ้าของ Gucci กำไรลดลง 62%
แต่ล่าสุด Hermès ได้เปิดเผยงบผลประกอบการประจำปี 2024
-รายได้ 534,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13%
-กำไรสุทธิ 162,100 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7%
-กำไรสุทธิ 162,100 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7%
ถ้าเจาะรายได้ของ Hermès แยกตามภูมิภาค
-เอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น) เพิ่มขึ้น 7.4%
-ญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 22.5%
-สหรัฐอเมริกา เพิ่มขึ้น 15.5%
-ยุโรป (ไม่รวมฝรั่งเศส) เพิ่มขึ้น 18.9%
-ฝรั่งเศส เพิ่มขึ้น 13.5%
-ญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 22.5%
-สหรัฐอเมริกา เพิ่มขึ้น 15.5%
-ยุโรป (ไม่รวมฝรั่งเศส) เพิ่มขึ้น 18.9%
-ฝรั่งเศส เพิ่มขึ้น 13.5%
จะเห็นได้ว่า Hermès มีการเติบโตในทุกตลาดทั่วโลก โดยยังคงรักษาความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแบรนด์ไว้ได้อย่างแข็งแกร่ง ในขณะที่แบรนด์อื่น ๆ รายได้หดตัวลงแทบทั้งหมด
เนื่องมาจากบริษัทมุ่งเน้นมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าที่มีฐานะมั่งคั่ง ซึ่งพฤติกรรมการใช้จ่ายของลูกค้ากลุ่มนี้ ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยน้อยกว่าลูกค้ากลุ่มอื่น ๆ
อีกทั้งบริษัทมีอำนาจในการกำหนดราคาที่แข็งแกร่ง โดยในปีที่ผ่านมา Hermès ปรับขึ้นราคาสินค้าทั่วโลกราว 6% ถึง 7% และยังคงมีลิสต์ลูกค้าที่รอคิวซื้อกระเป๋า Birkin และ Kelly อย่างหนาแน่น
โดยผลประกอบการบริษัทเติบโตสูงกว่าที่นักลงทุนคาดการณ์ ส่งผลให้ราคาหุ้นเปิดตลาดสูงขึ้น 5% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงเวลาเปิดการซื้อขายที่ตลาดหุ้นปารีส และมีมูลค่าตลาดที่ 10.6 ล้านล้านบาท
แล้วถ้าเทียบกัน ระหว่างหุ้น LVMH, Kering และ Hermès
ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา เป็นอย่างไร ?
ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา เป็นอย่างไร ?
LVMH -11%
มูลค่าบริษัท 13.1 ล้านล้านบาท ซื้อขายกันที่ P/E 28 เท่า
มูลค่าบริษัท 13.1 ล้านล้านบาท ซื้อขายกันที่ P/E 28 เท่า
Kering -32%
มูลค่าบริษัท 1.3 ล้านล้านบาท ซื้อขายกันที่ P/E 31 เท่า
มูลค่าบริษัท 1.3 ล้านล้านบาท ซื้อขายกันที่ P/E 31 เท่า
ในขณะที่ Hermès +31%
มูลค่าบริษัท 10.6 ล้านล้านบาท ซื้อขายกันที่ P/E เกือบ 65 เท่า
มูลค่าบริษัท 10.6 ล้านล้านบาท ซื้อขายกันที่ P/E เกือบ 65 เท่า
ตรงนี้ก็น่าสนใจ ทั้ง 3 บริษัท ทำธุรกิจเดียวกัน
แถม Hermès ยังไม่ได้ครอบครองกิจการแบรนด์หรูมากมายเหมือนเครือ LVMH หรือ Kering
แถม Hermès ยังไม่ได้ครอบครองกิจการแบรนด์หรูมากมายเหมือนเครือ LVMH หรือ Kering
แต่ดูเหมือนว่าบริษัท จะสามารถรักษาภาพลักษณ์ และคุณภาพแบรนด์
จนลูกค้ากลับแย่งกันซื้อ และบางครั้งเตรียมเงินไว้เป็นแสน เป็นล้าน แต่ก็ยังไม่สามารถหาซื้อได้
จนลูกค้ากลับแย่งกันซื้อ และบางครั้งเตรียมเงินไว้เป็นแสน เป็นล้าน แต่ก็ยังไม่สามารถหาซื้อได้
ความเป็นแบรนด์ ความชัดระดับ Hermès ก็นับเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ดี
ที่ทำให้เห็นว่าไม่ว่าจะอยู่ในอุตสาหกรรมไหน
อุตสาหกรรมนั้น จะได้รับผลกระทบอะไร
แต่ถ้าเราสามารถสร้างความแตกต่างได้
ตลาดก็จะเห็น แบบ Hermès ที่ได้ตัวคูณจากกำไรเป็นมูลค่าบริษัท ต่างจากอีก 2 บริษัท หลายเท่าตัว..
อุตสาหกรรมนั้น จะได้รับผลกระทบอะไร
แต่ถ้าเราสามารถสร้างความแตกต่างได้
ตลาดก็จะเห็น แบบ Hermès ที่ได้ตัวคูณจากกำไรเป็นมูลค่าบริษัท ต่างจากอีก 2 บริษัท หลายเท่าตัว..
Reference
-ผลประกอบการปี 2024 บริษัท Hermès International
-https://www.bloomberg.com/news/articles/2025-02-14/hermes-sales-jump-as-label-outperforms-during-luxury-slowdown
-ผลประกอบการปี 2024 บริษัท Hermès International
-https://www.bloomberg.com/news/articles/2025-02-14/hermes-sales-jump-as-label-outperforms-during-luxury-slowdown