Business
รู้จัก เศรษฐีรวยสุดในอินเดีย ที่จ้าง Beyoncé และ Rihanna มาร้องเพลงงานแต่งลูก..
1 มี.ค. 2024
รู้จัก เศรษฐีรวยสุดในอินเดีย ที่จ้าง Beyoncé และ Rihanna มาร้องเพลงงานแต่งลูก.. /โดย ลงทุนเกิร์ล
กลายเป็นไวรัลไปทั่วโซเชียลมีเดีย เมื่อมีข่าวงาน Pre-Wedding ของคู่รักระหว่างคุณ Anant Ambani ลูกชายของคุณ Mukesh Ambani อภิมหาเศรษฐีอินเดีย และคุณ Radhika Merchant ลูกสาวเจ้าของธุรกิจยักษ์ใหญ่ในอินเดีย
โดยงานนี้จะจัดขึ้น 3 วัน 3 คืน ในเมือง Jamnagar ใกล้โรงกลั่นน้ำมันของตระกูล Ambani
หากถามถึงความอลังการของงาน Pre-Wedding ในครั้งนี้ มีตั้งแต่
- Dress Code หรือกฎระเบียบการแต่งกาย ที่มีความยาวถึง 9 หน้า
- บริการแต่งหน้า ทำผม จัดการเครื่องแต่งกายให้แขก
- บริการเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว รับส่งแขก ระหว่างเมืองมุมไบ-นิวเดลี
- รายชื่อของแขกที่จะมาร่วมงาน ไม่ว่าจะเป็น ผู้บริหารระดับโลก อย่าง คุณ Bill Gates, คุณ Mark Zuckerberg, คุณ Bob Iger, คุณ Sundar Pichai และคุณ Larry Fink เหล่ามหาเศรษฐี นักธุรกิจชาวอินเดียอย่างคุณ Gautam Adani และคุณ Kumar Mangalam Birla
ไปจนถึงนักแสดงภาพยนตร์บอลลีวูด นักกีฬาคริกเก็ต นักการเมือง และราชวงศ์
ไปจนถึงนักแสดงภาพยนตร์บอลลีวูด นักกีฬาคริกเก็ต นักการเมือง และราชวงศ์
- แขกที่มาร่วมงานจะได้ลิ้มลองอาหารประมาณ 500 เมนู ที่รังสรรค์โดยเชฟ 100 คน
แต่ที่เรียกเสียงฮือฮามากที่สุด คงหนีไม่พ้นการจ้าง คุณ Rihanna มาร่วมร้องเพลงในงาน ที่หลัง ๆ มานี้ เราจะได้เห็นเธอในบทบาทนักร้องอยู่น้อยครั้ง
ซึ่งย้อนกลับไปในปี 2018 คุณ Mukesh Ambani ก็เคยจัดงานแต่งงานให้กับลูกสาวอีกคน ที่มีค่าใช้จ่าย 3,035 ล้านบาท นับเป็นงานแต่งงานชาวอินเดียที่แพงที่สุดตลอดกาล
โดยในปีนั้นมีการจ้างคุณ Beyoncé เจ้าแม่แห่งวงการ R&B เพื่อมาร้องเพลงในงานแต่งงานอีกด้วย
แล้วคุณ Mukesh Ambani เป็นใคร มาจากไหน ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
คุณ Mukesh Ambani (อ่านว่า มูเกช อัมบานี) คือ อภิมหาเศรษฐีชาวอินเดีย เจ้าของคฤหาสน์ 27 ชั้นในมุมไบ ที่ว่ากันว่าเป็นบ้านที่แพงที่สุดในโลก
เขามีทรัพย์สิน มูลค่า 4.1 ล้านล้านบาท
รวยสุดในอินเดีย มีทรัพย์สินมากกว่าเสี่ยธนินท์ บุคคลรวยสุดในประเทศไทย เป็น 3.4 เท่า
แถมรวยเป็นอันดับ 9 ของโลก ซึ่งเป็นชาวเอเชียคนเดียว ที่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก
รวยสุดในอินเดีย มีทรัพย์สินมากกว่าเสี่ยธนินท์ บุคคลรวยสุดในประเทศไทย เป็น 3.4 เท่า
แถมรวยเป็นอันดับ 9 ของโลก ซึ่งเป็นชาวเอเชียคนเดียว ที่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก
ความมั่งคั่งของคุณ Mukesh Ambani เริ่มต้นมาจากรุ่นคุณพ่อของเขา
โดยในปี 1948 หรือเมื่อ 76 ปีก่อน คุณ Dhirubhai Ambani คุณพ่อของคุณ Mukesh ได้เดินทางออกจากอินเดีย ประเทศบ้านเกิด ไปทำงานเสมียนที่ประเทศเยเมน
ทำให้เขาได้รู้จักกับเครือข่ายธุรกิจค้าขายระหว่างประเทศ ได้ดีลงานกับบริษัทมากมายที่ทำธุรกิจค้าขายสินค้าตั้งแต่น้ำตาล, เครื่องเทศ, สิ่งทอ รวมไปถึงน้ำมัน ในประเทศทวีปยุโรป ตะวันออกกลาง รวมถึงเอเชีย
หลังจากสะสมประสบการณ์เกือบ 10 ปี
คุณ Dhirubhai ก็ตัดสินใจกลับมายังอินเดียเพื่อก่อตั้งกิจการของตัวเอง
คุณ Dhirubhai ก็ตัดสินใจกลับมายังอินเดียเพื่อก่อตั้งกิจการของตัวเอง
คุณ Dhirubhai เริ่มต้นธุรกิจจากการนำเข้าเส้นใยสังเคราะห์และส่งออกเครื่องเทศ
โดยออฟฟิศแรกมีขนาด 33 ตารางเมตร มีโต๊ะกับเก้าอี้ 3 ตัว พร้อมโทรศัพท์ 1 เครื่อง
โดยออฟฟิศแรกมีขนาด 33 ตารางเมตร มีโต๊ะกับเก้าอี้ 3 ตัว พร้อมโทรศัพท์ 1 เครื่อง
ซึ่งจากประสบการณ์ที่เยเมน รวมกับคู่ค้าทางธุรกิจที่รู้จักกันดีจากต่างประเทศ
ทำให้ธุรกิจนำเข้า-ส่งออกของเขาเติบโตอย่างรวดเร็ว
เมื่อรวมกับรัฐบาลประเทศอินเดียสมัยนั้น ประกาศแผนพัฒนาอุตสาหกรรมระยะยาว
ทำให้ธุรกิจนำเข้า-ส่งออกของเขาเติบโตอย่างรวดเร็ว
เมื่อรวมกับรัฐบาลประเทศอินเดียสมัยนั้น ประกาศแผนพัฒนาอุตสาหกรรมระยะยาว
ทำให้คุณ Dhirubhai ปรับโครงสร้างธุรกิจ กลายมาเป็นผู้ผลิตสิ่งทอ และขยายกิจการไปในอุตสาหกรรมอื่น จนสุดท้ายเปลี่ยนมาใช้ชื่อบริษัทว่า “Reliance Industries” ในปี 1973
Reliance Industries สามารถ IPO ได้ในปี 1977 ซึ่งหุ้นของบริษัทก็มีชาวอินเดียสนใจลงทุนเป็นจำนวนมาก ถึงขนาดเคยจัดประชุมผู้ถือหุ้นที่สเตเดียม
ระหว่างที่ด้านคุณพ่อกำลังวางรากฐาน
ด้านคุณ Mukesh คนลูก หลังจากเรียนจบปริญญาตรี สาขาวิศวกรรมเคมีที่ University of Mumbai และสมัครเรียนต่อ MBA ที่ Stanford University ได้สำเร็จ
ด้านคุณ Mukesh คนลูก หลังจากเรียนจบปริญญาตรี สาขาวิศวกรรมเคมีที่ University of Mumbai และสมัครเรียนต่อ MBA ที่ Stanford University ได้สำเร็จ
อย่างไรก็ตาม เขาก็ต้องลาออกเพื่อมาช่วยธุรกิจคุณพ่อพร้อม ๆ กับน้องชาย เพราะธุรกิจกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว แต่แล้วคุณ Dhirubhai ก็ได้เสียชีวิตลงอย่างกะทันหันในปี 2002 แบบไม่มีพินัยกรรม
เรื่องนี้ดูเผิน ๆ เหมือนจะไม่มีอะไร แต่กลับทำให้สองพี่น้อง Ambani ที่เข้ามาช่วยบริหารธุรกิจพร้อม ๆ กันกลับทะเลาะกันร้ายแรงถึงขนาดต้องขึ้นศาล
สุดท้ายจบลงด้วยการที่ผู้เป็นแม่ต้องมาระงับศึก และผลก็คือคุณ Mukesh คนพี่ได้เป็นผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่ของครอบครัวอย่าง Reliance Industries
หลังจากนั้น คุณ Mukesh ก็ได้นำบริษัทแห่งนี้ ต่อยอดอุตสาหกรรมสิ่งทอไปยังอุตสาหกรรมปิโตรเคมีและโรงกลั่นน้ำมัน ซึ่งภายหลังกลายมาเป็นธุรกิจหลัก
นอกจากนี้ เขาก็ยังก่อตั้งธุรกิจเข้าไปแข่งขันในธุรกิจกลุ่มอื่น เช่น
Reliance Retail ธุรกิจค้าปลีกที่ตอนนี้ใหญ่สุดในอินเดีย มีจำนวนกว่า 18,774 สาขา ให้บริการทั่วประเทศReliance Jio Infocomm ธุรกิจโทรคมนาคม ที่ตอนนี้มีสมาชิกรายเดือนเกือบ 450 ล้านราย
แล้วปัจจุบัน Reliance Industries Limited ใหญ่ขนาดไหน ?
Reliance Industries Limited มีมูลค่าบริษัท 8.2 ล้านล้านบาท
เป็นบริษัทมูลค่ามากสุดในประเทศอินเดีย
เป็นบริษัทมูลค่ามากสุด อันดับที่ 44 ของโลก
เป็นบริษัทมูลค่ามากสุดในประเทศอินเดีย
เป็นบริษัทมูลค่ามากสุด อันดับที่ 44 ของโลก
และผู้ถือหุ้นใหญ่ ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน
นั่นก็คือ คุณ Mukesh Ambani และครอบครัว
ที่ถือหุ้นอยู่ 50.3% คิดเป็น ทรัพย์สินทั้งหมด ราว 4.1 ล้านล้านบาท..
นั่นก็คือ คุณ Mukesh Ambani และครอบครัว
ที่ถือหุ้นอยู่ 50.3% คิดเป็น ทรัพย์สินทั้งหมด ราว 4.1 ล้านล้านบาท..
References:
-https://edition.cnn.com/2024/03/01/style/india-anant-ambani-radhika-merchant-wedding-party/index.html
-https://www.tatler.com/article/anant-ambani-and-radhika-merchants-pre-wedding-party-all-the-gossip
-https://www.nytimes.com/2008/06/15/business/worldbusiness/15ambani.html
-https://www.forbes.com/profile/mukesh-ambani/
-https://www.businessinsider.in/thelife/personalities/news/anil-ambanis-journey-from-42-billion-net-worth-to-claiming-poverty/articleshow/74028627.cms
-https://edition.cnn.com/2024/03/01/style/india-anant-ambani-radhika-merchant-wedding-party/index.html
-https://www.tatler.com/article/anant-ambani-and-radhika-merchants-pre-wedding-party-all-the-gossip
-https://www.nytimes.com/2008/06/15/business/worldbusiness/15ambani.html
-https://www.forbes.com/profile/mukesh-ambani/
-https://www.businessinsider.in/thelife/personalities/news/anil-ambanis-journey-from-42-billion-net-worth-to-claiming-poverty/articleshow/74028627.cms