skinlab x ลงทุนเกิร์ล

สำหรับคนรักการปรนนิบัติผิว และบำรุงผิวด้วยสกินแคร์อยู่แล้ว
คงคุ้นเคยกับแบรนด์ skinlab ศูนย์รวม niche skincare หายาก สารพัดแบรนด์ไว้ในที่เดียว

ตั้งแต่สกินแคร์สายออร์แกนิก, สกินแคร์ที่ให้ความรู้สึกเหมือนไปสปาของ Susanne Kaufmann ไปจนถึงสกินแคร์ที่ผลิตโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างแบรนด์ ZELENS

ตลอดจนสกินแคร์ที่ได้รับความนิยม จากยุโรปและสหรัฐอเมริกาอีกหลายแบรนด์
เช่น Kat Burki, Cosmetics 27, ARgENTUM เป็นต้น

จุดเริ่มต้นของแบรนด์ skinlab ก่อตั้งขึ้นโดย คุณโอม-ณัฐพงศ์ นาคทอง และ คุณหญิง บุษกล เกียรติไพบูลย์ ในปี 2018 โดยมีความเชื่อที่ว่า “อยากให้ลูกค้าทั้งผิวดีและรู้สึกดี”

จึงมีความมุ่งมั่นที่จะเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการ และปัญหาของลูกค้า ด้วยความเข้าใจให้ได้มากที่สุด

เพราะเชื่อว่าแค่ผิวดีอย่างเดียวไม่พอ แต่ยังต้องให้ความรู้สึกดีทุกครั้งที่ใช้สกินแคร์ที่คัดสรรมาอย่างดี และผ่านการทดลองมาแล้วว่าเห็นผลจริง โดยต้องไม่เคลมคุณสมบัติเกินจริงอีกด้วย

ความตั้งใจกลายเป็นจุดขายสำคัญ ที่ทำให้เหล่าสกินแคร์เลิฟเวอร์ติดใจแบรนด์ skinlab ตลอด 5 ปีที่ผ่านมาทำให้ลูกค้าติดใจจนเกิดการบอกต่อ

ซึ่งการตลาดแบบปากต่อปากแบบนี้นี่เอง ที่ทำให้ skinlab เติบโตในช่องทางการขายออนไลน์จาก ปี 2022 สู่ ปี 2023 เติบโตขึ้น 98% เลยทีเดียว

ล่าสุด skinlab ก้าวไปอีกขั้น เมื่อผู้ก่อตั้ง skinlab ร่วมมือกับผู้บริหารห้างเซ็นทรัล
คุณรวิศรา จิราธิวัฒน์ Chief Marketing Officer of Central Department Store and Robinson Department Store, under Central Retail. เปิดช่องทางขายใหม่ของ skinlab ผ่านทั้งเว็บไซต์ www.central.co.th และแอปพลิเคชัน CENTRAL APP ขยายตลาดจับกลุ่มลูกค้าใหม่อย่าง “High net worth young generation”

ซึ่งเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีรายได้สูง ที่นิยมใช้สกินแคร์ระดับพรีเมี่ยม และคาดหวังการบริการแบบลักชัวรี

โดยเปิดจำหน่ายผ่าน Central Online และ CENTRAL APP ครั้งแรกไปแล้วเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2023 หรือตรงกับ 11.11 วันช็อปปิงโลกพอดิบพอดี

ความร่วมมือกันในครั้งนี้ เรียกได้ว่าเป็นการรวมตัวกันของช่องทางการขายออนไลน์ ที่เน้นเข้าถึงลูกค้ากลุ่มพรีเมี่ยมได้อย่างตรงกลุ่ม ซึ่งเป็นจุดแข็งของ Central Online และ CENTRAL APP

และเมื่อได้มาเจอกับผู้ให้บริการ ที่รวบรวมสกินแคร์และผลิตภัณฑ์ความงาม ระดับพรีเมี่ยมจากทั่วทุกมุมโลก อย่าง skinlab

ที่ทำให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ประโยชน์สองต่อ ทั้งได้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวแบรนด์โปรดที่มีคุณภาพ
แถมยังได้รับการบริการระดับพรีเมี่ยม ด้วยระบบซื้อขายที่สะดวกสบาย และปลอดภัย

ที่สำคัญยังสามารถสะสมคะแนน the 1 card เพื่อแลกรับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่ทำให้เงินที่ใช้จ่ายไปในแต่ละครั้ง คุ้มค่ากว่าที่เคย