นักธุรกิจ ผู้กอบกู้ Burberry และอดีตตัวเต็ง CEO ของ Apple /โดย ลงทุนเกิร์ล

ครั้งหนึ่ง “Burberry เคยเผชิญวิกฤติ จนเกือบเสียชื่อความเป็นแบรนด์หรู แต่ก็สามารถพลิกกลับมารุ่งเรืองได้อีกครั้ง”

และครั้งหนึ่ง Apple เคยมีผู้บริหารระดับสูง เป็นผู้หญิง เพียงคนเดียว แถมเธอก็ยังเป็นผู้บริหารหญิงที่ได้รับ “ค่าจ้างมากที่สุด” ในสหรัฐฯ อีกด้วย

ซึ่งคนที่เรากำลังจะพูดถึง ก็คือ “คุณแองเจลา อาห์เรนดส์”

แล้วเรื่องราวของเธอคนนี้ น่าสนใจอย่างไร ?
และเธอได้สร้างผลงานอะไรไว้บ้าง ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง..

คุณแองเจลา อาห์เรนดส์ นักธุรกิจชาวอเมริกัน ที่เคยเป็นผู้บริหารระดับสูงในบริษัทหลายแห่ง ในวงการแฟชั่น เช่น

-DKNY แบรนด์แฟชั่นชื่อดัง จากนิวยอร์ก
-Liz Claiborne ซึ่งในขณะที่เธอทำงานอยู่ Liz Claiborne ถือเป็นบริษัทแฟชั่น รายใหญ่อันดับต้น ๆ ของสหรัฐฯ

แต่ผลงานที่ทำให้เธอโด่งดังไปทั่วโลก ก็คือ การเข้ามารับตำแหน่ง CEO ของ Burberry ในขณะที่บริษัทกำลังเกิดวิกฤติครั้งใหญ่

ต้องเท้าความแบบนี้ว่า ก่อนหน้าที่เธอจะเข้ามารับตำแหน่ง CEO

บริษัท Burberry ได้คิดวิธีหาเงินก้อนโต จากการขายลิขสิทธิ์ลาย “Burberry Check” (ลายตารางสีน้ำตาล-ครีม ตัดด้วยเส้นสีดำ) จนทำให้ลายนี้ ไปอยู่บนสินค้าหลากหลายชนิด ตั้งแต่กระโปรงจีบของผู้ชายชาวสกอต ไปจนถึงปลอกคอสุนัข

เนื่องจาก สมัยนั้นลาย Burberry Check กำลังเป็นที่นิยมในหมู่ชนชั้นสูงอย่างมาก

แต่หลังจากขายลิขสิทธิ์ไปแล้วไม่นาน ความพังก็บังเกิด..
เมื่อแบรนด์ไหน ๆ ก็ซื้อลาย Burberry Check ไปใช้จนดูเกร่อ แถมยังมีสินค้าเลียนแบบวางขายเกลื่อน

ลาย Burberry Check จึงหาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาด ไม่ใช่ลายที่แสดงถึงความหรูหราอีกต่อไป ทำให้คนชนชั้นสูงไม่อยากใช้แบรนด์ Burberry ไปโดยปริยาย

เหตุการณ์นี้นี่เองที่เกือบทำให้ Burberry ตกชั้นแบรนด์หรู แต่ก็รอดมาได้เพราะการแก้เกมของคุณอาห์เรนดส์

โดยหลังจากที่เธอได้รับตำแหน่ง CEO ของ Burberry ในปี 2006 เธอได้ทุ่มเงินซื้อลิขสิทธิ์ลาย Burberry Check กลับมาด้วยเงินหลายล้านดอลลาร์สหรัฐ ก่อนจะทยอยดำเนินคดีกับสินค้าที่ละเมิดลิขสิทธิ์

ในเวลาเดียวกัน ก็ทำการตลาดด้วยการดึงเหล่าเซเลบริตีมาเป็นพรีเซนเตอร์ และผลักดันให้สินค้าปรากฏอยู่ในนิตยสารชื่อดังบ่อย ๆ จน Burberry สามารถกลับมาเฉิดฉายในฐานะแบรนด์หรูได้อีกครั้งราวกับถูกชุบชีวิต

ด้วยความสามารถของคุณอาห์เรนดส์ ทำให้ขณะที่เธอขึ้นแท่น “CEO ที่ได้รับค่าตอบแทนสูงสุด” ในสหราชอาณาจักรเมื่อปี 2012

โดยทำรายได้รวม 26.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1,000 ล้านบาท

ชื่อเสียงของเธอก็โด่งดังในแวดวงธุรกิจ
จนแม้แต่ Apple ก็ยังสนใจที่จะร่วมงานด้วย

ต่อมาในปี 2014
คุณอาห์เรนดส์ ก็ผันตัวจาก CEO แบรนด์แฟชั่นหรูสู่วงการไอที และนั่งตำแหน่งผู้บริหารใหญ่ ฝ่ายค้าปลีกของ Apple

ซึ่งตอนนั้น เธอก็ยังเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียว ในบรรดาผู้บริหารระดับสูงทั้งหมดของ Apple

แถมคุณอาห์เรนดส์ ยังถือเป็น “ผู้บริหารหญิงที่ได้รับค่าจ้างมากที่สุดของในสหรัฐฯ”

โดยในปี 2014 เธอได้รับค่าจ้างเป็นจำนวน 73.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2,800 ล้านบาท เลยทีเดียว

ซึ่งผลงานเด่นของเธอคือ การอัปเกรด “Apple store โฉมใหม่” จนโด่งดังไปทั่วโลก ด้วยการปรับการขายของแอปเปิล ให้เป็นมากกว่าแค่การขาย Gadget ด้วยเทคนิคที่ทำให้ลูกค้ามีประสบการณ์ร่วมกับแบรนด์

อย่างการจัดเซสชัน “Today at Apple” กิจกรรมที่สร้างคอมมิวนิตี เช่น สอนเทคนิคการถ่ายภาพ และการวาดภาพบน iPad ที่ทำให้ลูกค้าสามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพจนไม่อยากเลิกใช้

ที่น่าสนใจ ก็คือ การเปิด Apple store ในกรุงเทพฯ ทั้ง ICONSIAM และ Central World รวมถึงกิจกรรมที่เกิดขึ้นที่นั่น จนได้รับการตอบรับจากแฟนแอปเปิลในไทยอย่างล้นหลาม ส่วนหนึ่งก็เป็นผลงานของเธอเช่นกัน

นอกจากนี้ เธอยังเข้าปรับระบบการขายผ่าน Apple Online Store ให้สามารถจองสินค้าออนไลน์ได้ง่ายขึ้น

รวมถึงระบบการสั่งจองสินค้าล่วงหน้า สำหรับสินค้าที่เปิดตัวใหม่ ซึ่งบริษัทจะจัดส่งสินค้าให้ถึงหน้าบ้านในวันเดียวกับวันแรก ที่เริ่มวางขายที่หน้าร้าน หรือจะเลือกไปรับที่ Apple store ใกล้บ้านก็ได้ก็เช่นกัน

ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้การซื้อสินค้าจาก Apple ทำได้ง่ายกว่าเดิม และไม่ต้องมาต่อคิวเก้อช่วงสินค้าขาดตลาดให้เสียอารมณ์ด้วย

นับว่า คุณอาห์เรนดส์ สามารถช่วยต่อจิกซอว์ชิ้นสำคัญของ Apple ได้อย่างดี จนทำให้หลายคนมองว่า คุณอาห์เรนดส์ นี่แหละ ที่จะมานั่งแท่น CEO Apple ต่อจาก คุณทิม คุก

แต่ก็ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด..

เมื่อเธอเลือกยุติบทบาทใน Apple เมื่อปี 2019 โดยไม่ได้เปิดเผยว่าจะไปทำงานด้านใดต่อ แถมบทสัมภาษณ์จากหลายแหล่ง ก็มีแนวโน้มไปในทิศทางเดียวกันว่า เธอก็ไม่ได้มีแผนที่จะกลับไปในวงการแฟชั่นเช่นกัน

น่าจับตาว่า เส้นทางของคุณอาห์เรนดส์ จะเปิดตัวในฐานะผู้บริหารแบรนด์ไหนอีกหรือไม่ หรือเธอจะสร้างประวัติศาสตร์อะไรให้ได้เห็นอีกบ้าง..

----------------------------------------------------------------

(ad)กลุ่มบริษัทธนจิรากรุ๊ป (TANACHIRA) เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าไลฟ์สไตล์ แฟชั่นแบรนด์ชั้นนำจากต่างประเทศ ได้แก่ Pandora (แพนดอร่า), Marimekko (มารีเมกโกะ), Cath Kidston (แคท คิดสตัน) และเจ้าของผลิตภัณฑ์เพื่อดูแลผิวพรรณ สปาแบบองค์รวมรายแรกในไทยภายใต้แบรนด์ HARNN (หาญ), VUUDH (วุฒิ), HARNN Heritage Spa (หาญ เฮอริเทจสปา) และ SCape by HARNN (เอสเคป บาย หาญ) มีสาขาอยู่ทั่วประเทศและในภูมิภาคกว่า 165 สาขา ภายใต้แนวคิด “Bring the Best of the Brand to the Best of Thailand”

https://www.facebook.com/TANACHIRA-GROUP-174055739828807/
#TANACHIRA

----------------------------------------------------------------

References:
-https://www.forbes.com/profile/angela-ahrendts/?sh=16eb2e8216d9
-https://www.theguardian.com/technology/2019/feb/06/angela-ahrendts-quits-as-head-of-apple-retail
-https://thematter.co/brief/angela-ahrendts/70460
-https://www.reuters.com/article/us-apple-moves/apple-retail-chief-angela-ahrendts-to-depart-in-april-iduskcn1pu2hh
-https://spin9.me/2017/10/21/exclusive-interview-angela-ahrendts-apple-svp-retail/
-https://spin9.me/2018/10/25/apple-store-bangkok-to-open-on-10-nov/
-https://thehowinstitute.org/angela-ahrendts/
-https://www.britannica.com/biography/Angela-Ahrendts
-https://www.vogue.co.th/fashion/article/bailey2ndhonour
-https://www.iphonemod.net/apple-iphone-sales-drop-q1-2019-idc-report.html
-https://money.cnn.com/2013/06/11/news/companies/burberry-pay-ceo/index.html
-https://brandinside.asia/angela-ahrendts-leave-apple/
-https://www.macthai.com/2019/02/06/angela-leave-apple/
-https://bit.ly/3FxM37O