รู้จัก คุณสมฤดี ชัยมงคล อดีต CEO ที่เริ่มต้นจากตำแหน่ง พนักงานต้อนรับ | SHE.E.O โดย ลงทุนเกิร์ล

ย้อนกลับไปเมื่อ 40 ปีก่อน ในปี พ.ศ. 2527

คุณสมฤดี จบการศึกษาในสาขาบัญชี จากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ
เธอเริ่มทำงานที่บ้านปูเป็นบริษัทแรก ในตำแหน่งพนักงานต้อนรับ

ในตอนแรก บ้านปู เป็นบริษัทผลิตและจัดจำหน่ายถ่านหิน

เนื่องจากในตอนนั้นบริษัทยังมีขนาดเล็ก และมีพนักงานไม่มาก
คุณสมฤดีจึงต้องทำงานหลาย ๆ หน้าที่ควบคู่ไปด้วย

ต่อมาบ้านปูชนะการประมูลสัมปทานเหมืองถ่านหิน ทำให้บริษัทมีการขยายตัว

คุณสมฤดีจึงได้รับโอกาสทำงานในสายงานบัญชี ซึ่งตรงกับสิ่งที่เธอเรียนมาในมหาวิทยาลัย

เธอค่อย ๆ เติบโตในสายงานการเงินและการบัญชี ไปพร้อมกับขนาดบริษัทที่ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ

จนกระทั่งปี พ.ศ. 2555 บริษัทบ้านปูประสบวิกฤติอย่างหนัก

ราคาถ่านหินตกต่ำ เหลือ 80 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน
จากที่เคยมีราคาเฉลี่ย 116 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน

ทำให้บริษัทมีรายได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง

ตอนนั้นคุณสมฤดี ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน

เธอได้ออกมาตรการลดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ รวมถึงค่าใช้จ่ายของผู้บริหาร เช่น ลดค่าเบี้ยประชุม ลดตั๋วเครื่องบินเป็นตั๋วชั้นประหยัด เพื่อให้บริษัทดำเนินกิจการต่อไปได้

นอกจากนั้น คุณสมฤดียังขยายธุรกิจของบ้านปู ให้ไม่ต้องพึ่งพาถ่านหินเพียงอย่างเดียว

ทำให้ปัจจุบันบริษัทบ้านปู กลายเป็น บริษัทพลังงานแบบครบวงจร ครอบคลุม 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่

1.“กลุ่มธุรกิจแหล่งพลังงาน” ธุรกิจเหมืองและธุรกิจก๊าซธรรมชาติ รวมถึงงานที่เกี่ยวข้อง เช่น การตลาดการค้า โลจิสติกส์ การจัดหาเชื้อเพลิงสายส่ง

2.“กลุ่มธุรกิจผลิตพลังงาน” ธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานความร้อนและจากพลังงานหมุนเวียน

3.“กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน” ธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาและทุ่นลอยน้ำ ธุรกิจแบตเตอรี่ ธุรกิจขายไฟฟ้า ธุรกิจอี-โมบิลิตี ธุรกิจพัฒนาเมืองอัจฉริยะและจัดการพลังงาน

ทั้งนี้ คุณสมฤดีได้ขึ้นมารับตำแหน่ง CEO ตั้งแต่ปี 2558 จนกระทั่งเมื่อต้นเดือนเมษายน ปี 2567 ที่ผ่านมา ได้ก้าวลงจากตำแหน่ง CEO และส่งไม้ต่อให้กับคุณสินนท์ ว่องกุศลกิจ เป็นที่เรียบร้อย

ตลอด 40 ปีที่คุณสมฤดีอยู่ร่วมกับบ้านปูมา เธอได้แสดงให้เห็นถึงความมานะอดทน ไม่ยอมแพ้กับปัญหา จนสามารถพาบริษัทให้รอดพ้นจากวิกฤติมาได้

ปิดท้ายด้วยแนวคิดที่น่าสนใจของคุณสมฤดี

โดยทั่วไปเมื่อเกิดวิกฤติขึ้นกับบริษัท หนึ่งในวิธีที่หลายคนนึกถึง คงเป็นการลดค่าใช้จ่ายด้วยการให้พนักงานออก

แต่สำหรับคุณสมฤดี กลับมองว่า แทนที่จะเลือกวิธีปลดพนักงาน
เธอกลับมองว่าสิ่งสำคัญคือการเสริมทักษะ สร้างความรู้ความชำนาญให้กับพนักงาน

เพราะเมื่อมีทีมงานที่ดี อยู่ในวัฒนธรรมองค์กรที่ดี ก็จะสามารถสร้างแผนกลยุทธ์ที่ดี พัฒนาองค์กรให้ก้าวต่อไปได้..

References:
-https://forbesthailand.com/people/cover-story/%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%A4%E0%B8%94%E0%B8%B5-%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A5-%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%99-2
-https://www.tiscowealth.com/trust-magazine/Issue-61/people-61.html