Last Crumb ทำอย่างไรให้ตั้งราคาคุกกี้ กล่องละ 5,000 บาท แล้วยังขายดี /โดย ลงทุนเกิร์ล

ถ้าเรามีเงิน 400 บาท เราจะสามารถซื้อคุกกี้อิมพีเรียลกล่องสีแดง ได้ประมาณ 2 กล่อง
แต่สำหรับ Last Crumb ต้องมีเงินถึง 5,000 บาท ถึงจะสามารถซื้อคุกกี้ได้ 1 กล่อง ซึ่งมีจำนวนเพียงแค่ 12 ชิ้นเท่านั้น

ที่น่าสนใจคือคุกกี้ที่มีราคาแพงขนาดนี้
กลับขายสินค้าหมดเกือบทุกครั้ง ที่แบรนด์เปิดรอบจำหน่าย
และเปิดตัวได้เพียงแค่ 2 ปี ก็สามารถระดมทุนได้กว่า 110 ล้านบาท

แล้วเรื่องราวของ Last Crumb น่าสนใจอย่างไร ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง

Last Crumb ก่อตั้งขึ้นในปี 2020 โดยคุณ Derek Jaeger และคุณ Alana Arnold

โดยทั้งคุณ Derek Jaeger และคุณ Alana Arnold ต่างก็เป็นมนุษย์เงินเดือนด้วยกันทั้งคู่

แต่เมื่อไม่ได้ทำงาน คุณ Derek Jaeger ก็จะใช้เวลาไปกับการทำอาหารและทำขนม ซึ่งหนึ่งในขนมที่เขาหมกมุ่นอยู่กับการทำบ่อย ๆ ก็คือ “คุกกี้”

พอเรื่องเป็นแบบนี้ เขาจึงค้นพบว่า ตัวเขาอยากทำงานในวงการธุรกิจอาหาร และคุณ Alana Arnold ที่ได้ยินเรื่องนี้ ก็พร้อมที่จะกระโดดเข้าสู่วงการอาหารไปพร้อม ๆ กัน

ทำให้ Last Crumb เกิดขึ้นมาในที่สุด

ต่อมาทั้งสองคนก็ได้ไปพบกับคุณ Matt Jung ซึ่งเป็นคนที่มีประสบการณ์ ในการปั้นแบรนด์ต่าง ๆ มาแล้วถึง 15 ปี เช่น แพลตฟอร์มจับคู่แบรนด์กับครีเอทิฟอย่าง Likewise, สกินแคร์ Sonne หรือแบรนด์แฟชั่น Wellen

โดยคุณ Derek Jaeger และคุณ Alana Arnold ได้บอกกับคุณ Matt Jung ว่า พวกเขาต้องการจะสร้าง “Rolex แห่งวงการคุกกี้”

แม้คุณ Matt Jung จะไม่มีประสบการณ์ในธุรกิจอาหารมาก่อน แต่เขาก็ตกลงร่วมมือ
และเข้ามาดำรงตำแหน่ง CEO ให้กับ Last Crumb

โดย Last Crumb ตั้งราคาขายสูงถึง กล่องละ 140 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 5,000 บาท

ซึ่งภายในกล่องจะประกอบไปด้วยคุกกี้จำนวน 12 รสชาติ
แปลว่า คุกกี้ 1 ชิ้น จะมีราคามากกว่า 400 บาท เลยทีเดียว

ที่น่าสนใจคือ เปิดจองกี่ครั้ง
ก็ขายหมดแทบทุกครั้ง

แล้วทำไม คนถึงยอมจ่ายเงิน เพื่อซื้อคุกกี้ชิ้นละ 400 บาทได้ ?

หนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ผู้บริโภคยอมที่จะควักกระเป๋าจ่าย ก็เพื่อแลกกับประสบการณ์สุดพิเศษ

โดย Last Crumb ให้ความใส่ใจตั้งแต่กล่องใส่คุกกี้ พลาสติกห่อคุกกี้ ไปจนถึงวัตถุดิบต่าง ๆ
ที่เลือกใช้แต่ของดีมีคุณภาพ รวมถึงมีกรรมวิธีการผลิตที่พิถีพิถัน เพื่อให้ได้คุกกี้รสเลิศ

พอสินค้าที่นำมาขายมีความพรีเมียมในตัวแล้ว Last Crumb ก็ทำการใส่เรื่องราวให้กับสินค้า
โดยชื่อรสชาติของคุกกี้แต่ละชิ้น จะไม่ได้บอกถึงรสชาติของขนมตรง ๆ

แต่ในเว็บไซต์ของร้าน ก็จะมีคำบรรยายสนุก ๆ เขียนเอาไว้ ว่าถ้าเรากัดคุกกี้แต่ละชิ้น แล้วเราจะเจออะไรบ้าง

เช่น Donkey Kong คุกกี้เครื่องแน่น ประกอบไปด้วยมาร์ชเมลโล พุดดิง ไวต์ช็อกโกแลต เวเฟอร์วานิลลา และกล้วยจริง ๆ

The Madonna คุกกี้ที่ใส่เนยถั่วชนิดต่าง ๆ และมิลก์ช็อกโกแลต โรยหน้าด้วยเกลือออร์แกนิกยี่ห้อ Maldon

Everything But The Candles คุกกี้ที่พยายามสร้างสรรค์เค้กวันเกิด ให้ออกมาอยู่ในรูปแบบของคุกกี้

ซึ่งชื่อเหล่านี้ ก็มาจากการที่คุณ Derek Jaeger นำเอาสิ่งต่าง ๆ ที่เขาพบเจอในชีวิต มาเปลี่ยนให้กลายเป็นคุกกี้แสนอร่อย ช่วยเพิ่มเรื่องราวให้คุกกี้มีสีสันมากขึ้น

นอกจากนั้น Last Crumb ยังใช้วิธีการ “พรีออร์เดอร์”
เปิดให้ลูกค้ามา “ลงชื่อ” เพื่อซื้อสินค้าเป็นรอบ ๆ

เพราะเนื่องจากพวกเขาไม่สามารถผลิตคุกกี้ในจำนวนมาก ๆ ได้เท่ากับแบรนด์ใหญ่ ๆ ที่สามารถเปิดหน้าร้านเพื่อขายสินค้าได้

อย่างไรก็ตาม การเปิดให้ลูกค้าเข้ามาจับจองสินค้า ก็จะทำให้ทราบว่ามีลูกค้าที่ให้ความสนใจเท่าไร

รวมถึงการปล่อยให้ลูกค้า “รอ” ก็เป็นหนึ่งในวิธีการสร้างมูลค่าให้กับแบรนด์อีกด้วย ว่าเป็นสิ่งที่ไม่ใช่ว่าจะได้มาง่าย ๆ แต่ต้องต่อสู้เพื่อจับจองมาให้ได้

ที่น่าสนใจคือด้วยวิธีการแบบนี้ ก็ทำให้มีคนกว่า 200,000 คนลงชื่อ
เพื่อให้ตัวเองได้มีโอกาสซื้อคุกกี้ราคากล่องละ 5,000 บาท เลยทีเดียว

และใช้เวลาเพียง 1 ปีหลังเปิดตัว ทุกครั้งที่ Last Crumb เปิดรอบขายสินค้า
ก็จะขายสินค้าหมดทุกครั้งภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที

โดย Last Crumb ก็ไม่ได้มอบเพียงแค่สินค้า และประสบการณ์ที่ดีเท่านั้น
แต่ยังมีการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพกับลูกค้าด้วย จึงทำให้แบรนด์เติบโตได้อย่างรวดเร็ว

ซึ่ง Last Crumb จะเน้นการทำตลาดบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ในช่องทาง Instagram ที่มีผู้ติดตาม 99,700 บัญชี และ TikTok ที่มีผู้ติดตามอีก 135,700 บัญชี

นอกจากนั้น คอนเทนต์เกี่ยวกับ Last Crumb ก็ยังเป็นที่นิยมบน TikTok
เช่น แนว Unboxing และรีวิวสินค้า
จน #LastCrumb มียอดวิวกว่า 89.5 ล้านครั้ง

และทั้งหมดนี้ ก็ทำให้ Last Crumb สามารถระดมทุนได้แล้วกว่า 110 ล้านบาท ซึ่งจะถูกนำมาใช้สำหรับการจัดตั้งโรงงาน เพื่อให้แบรนด์สามารถผลิตสินค้าได้มากขึ้น

Last Crumb จึงนับเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่น่าสนใจ สำหรับคนที่อยากขายสินค้าพรีเมียม

เพราะถ้าเรารู้จักสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้ลูกค้ารู้สึก “คุ้มค่า” ที่จะจ่าย

ไม่ว่าจะเป็นสินค้าประเภทไหน ก็สามารถขายในราคาแพงได้..

----------------------------------

Sponsored by JCB

JCB แบรนด์ผู้ให้บริการเครือข่ายบัตรเครดิตจากประเทศญี่ปุ่น - พิเศษเฉพาะผู้ถือบัตรเครดิต JCB พบกับโปรโมชั่นในไทยและต่างประเทศมายมาย สิทธิประโยชน์ที่ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ ทั้ง กิน เที่ยว ช้อป ติดตามความพิเศษที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะคุณได้ที่ www.facebook.com/JCBCardThailandTH และ LINE Official Account : @JCBThailand (https://bit.ly/JCBTHLine)

#JCBใช้ได้ทุกที่ทุกเวลา #JCBThailand #JCBOwnHappinessOwnStory

----------------------------------

References:
-https://www.businessinsider.com/how-startup-last-crumb-nabbed-3-million-seed-round-vc-2022-7
-https://commerhttps://www.businessinsider.com/how-startup-last-crumb-nabbed-3-million-seed-round-vc-2022-7cialbaking.com/last-crumb-ceo-matthew-jung-on-the-rolex-of-cookies-and-life-by-the-drop/
-https://www.pasadenanow.com/weekendr/last-crumb-sells-designer-cookies-to-the-world-from-pasadena/
-https://www.retailbrew.com/stories/2021/09/22/last-crumb-s-ceo-on-the-cookie-drop-company-s-winning-strategy