<อัปเดต> Chanel อาจจำกัดการซื้อกระเป๋า Classic Flap และอื่น ๆ ในบางประเทศ ตามรอยเกาหลีใต้

เมื่อไม่นานมานี้ เว็บไซต์ Pursebop ได้รายงานว่า Chanel เตรียมจำกัดจำนวนการซื้อกระเป๋า Classic Flap ให้ลูกค้าสามารถซื้อได้คนละ 2 ใบต่อปีเท่านั้น

และล่าสุด สำนักข่าว Reuters ยังได้สัมภาษณ์คุณ Philippe Blondiaux ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (CFO) ของ Chanel ซึ่งได้คำตอบว่า

“Chanel อาจจำกัดจำนวนการซื้อกระเป๋า Classic Flap รวมถึงผลิตภัณฑ์ระดับไฮเอนด์อื่น ๆ” โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อปกป้องลูกค้า และควบคุมการกว้านซื้อจำนวนมากสำหรับนำไปขายต่อ (Reselling)

อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดนี้จะไม่ได้ถูกบังคับใช้ทั่วโลก แต่จะจำกัดในบางประเทศเท่านั้น

ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่า Chanel ต้องการทำให้แบรนด์มีความพิเศษมากขึ้น รวมถึงเป็นการรับมือกับตลาดรีเซลสำหรับสินค้าฟุ่มเฟือย ที่กำลังเฟื่องฟูอย่างมาก

ซึ่งถ้าหากย้อนกลับไปในช่วงตุลาคม ปี 2021
Chanel ในประเทศเกาหลีใต้ ก็เริ่มมีการออกกฎควบคุมจำนวนการซื้อกระเป๋ารุ่นยอดนิยม เช่น กระเป๋า Classic Flap และกระเป๋าถือ Coco Handle เพียง 1 ใบต่อปี

โดยมาตรการดังกล่าว เริ่มต้นขึ้นหลังพบว่า กระเป๋า Chanel ถูกนำไปขายต่อมากขึ้น

อีกทั้ง หน้าร้าน Chanel ในกรุงโซล มักจะมีลูกค้าจำนวนมากมาต่อแถวตั้งแต่รุ่งสาง เพื่อที่จะได้เข้าไปซื้อสินค้าเป็นคนแรก ๆ โดยบางกลุ่มก็คือคนที่จะมาซื้อกระเป๋า เพื่อนำไปขายต่อในราคาที่สูงขึ้น ซึ่งบางรายถึงขนาดจ้างคนมาต่อแถว ด้วยราคาสูงถึง 4,300 บาทต่อวันเลยทีเดียว

นอกจากนี้ คุณ Philippe Blondiaux ยังกล่าวว่า “Chanel อาจปรับราคาขึ้นในเดือนกรกฎาคม” ที่จะถึงนี้
เพื่อชดเชยความผันผวนของค่าเงิน โดยเฉพาะสกุลเงินยูโรที่อ่อนค่า และวิกฤติเงินเฟ้อ

เช่นเดียวกับ “LVMH” บริษัทแม่ของ Louis Vuitton และ “Kering” บริษัทแม่ของ Gucci ที่ก่อนหน้านี้ ก็มีการปรับราคาสินค้าขึ้น เพื่อรับมือกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นทั้งการผลิต และค่าขนส่ง

อย่างไรก็ดี การจำกัดจำนวนการซื้อสินค้าของ Chanel ในครั้งนี้
กลับมีความคิดเห็นจากหลายฝ่ายว่า จะทำให้มีการซื้อเพื่อเก็งกำไรมากยิ่งขึ้น และส่งผลให้กระเป๋า Chanel มีราคาพุ่งสูงขึ้นไปอีก..

Reference:
-https://www.reuters.com/markets/financials/chanel-upbeat-2022-growth-despite-china-recession-risk-2022-05-24/