รู้จัก แบรนด์ Clé de Peau Beauté เครื่องสำอาง หลักหมื่น แต่ขายดี /โดย ลงทุนเกิร์ล

Clé de Peau Beauté อ่านว่า “เคลย์ เดอ โป โบเต้”
ซึ่งมีที่มาจากภาษาฝรั่งเศส แปลว่า “กุญแจ สู่ ความงามของผิวพรรณ”

พอเห็นชื่อแบรนด์แบบนี้แล้ว
หลายคนอาจจะคิดว่า เคลย์ เดอ โป โบเต้ น่าจะมาจากประเทศฝรั่งเศส

แต่จริงๆ แล้วแบรนด์นี้ไม่ได้มาจากฝรั่งเศส
และก็ไม่ได้มาจากประเทศฝั่งยุโรปด้วย

เคลย์ เดอ โป โบเต้ ก่อตั้งขึ้นที่ “ประเทศญี่ปุ่น” ในปี 1982
โดยบริษัทความงามยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นอย่าง Shisedo

แบรนด์เคลย์ เดอ โป โบเต้ ถูกจัดอยู่ในกลุ่มแบรนด์ความงามระดับ Luxury
ซึ่งราคาสินค้าของแบรนด์ เคลย์ เดอ โป โบเต้
จะอยู่ที่ประมาณหลักพัน ถึง หลักหมื่นบาท

โดยบริษัทแม่อย่าง Shisedo ได้ตั้งใจสร้างแบรนด์ เคลย์ เดอ โป โบเต้ ขึ้นมาเพื่อตีตลาดแบรนด์หรู
จึงทำภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ออกมามีความเป็นสากล
และเข้าถึงคนได้หลากหลายเชื้อชาติมากขึ้น

นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่แบรนด์ใช้ชื่อเป็นภาษาฝรั่งเศส
เพราะถ้าจะนึกถึงแบรนด์หรู เราก็มักจะนึกถึงแบรนด์จากประเทศฝรั่งเศสเป็นลำดับแรกๆ

ดังนั้นการตั้งชื่อ และสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ออกมาในลักษณะนี้
ก็น่าจะช่วยให้หลายคนเปิดใจยอมรับแบรนด์
และสร้างความน่าเชื่อถือได้มากกว่าการใช้ชื่อเป็นภาษาญี่ปุ่น

อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนอาจคิดว่า แล้วใช้ชื่อแบรนด์เป็นภาษาญี่ปุ่นไม่ดีตรงไหน
เพราะเราก็ใช้แบรนด์ความงามจากญี่ปุ่นหลายแบรนด์
แถมพอฟังว่ามาจากญี่ปุ่น ก็ยิ่งดูน่าเชื่อถือด้วยซ้ำ

แต่ในความเป็นจริงเราต้องไม่ลืมว่า แบรนด์ เคลย์ เดอ โป โบเต้
ไม่ได้ขายสินค้าอยู่แค่ในประเทศแถบเอเชียเท่านั้น
แต่ยังส่งไปขายในประเทศโซนยุโรป และสหรัฐอเมริกา อีกด้วย

ซึ่งการส่งแบรนด์หรู ราคาหลักหมื่น ไปขายในประเทศแถบยุโรป
ที่มีเจ้าตลาดเป็นแบรนด์ฝั่งยุโรปอยู่แล้ว ไม่ใช่เรื่องง่าย

เพราะนอกจากการเข้าไปชิงส่วนแบ่งการตลาดแล้ว

ถ้าแบรนด์เป็นชื่อที่ลูกค้าชาวยุโรปออกเสียงยาก หรือเป็นภาษาที่ไม่คุ้นเคยอีก
สุดท้ายก็อาจส่งผลกระทบต่อการจดจำแบรนด์

แล้วปัจจุบัน เคลย์ เดอ โป โบเต้ ได้รับการตอบรับดีแค่ไหน?

ปัจจุบันสินค้าของแบรนด์ เคลย์ เดอ โป โบเต้ ถูกส่งไปขายทั้งในประเทศจีน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา เอเชียแปซิฟิก และโซนประเทศ EMEA (ยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา)

นอกจากนี้ในปี 2019 แบรนด์เคลย์ เดอ โป โบเต้ ก็เพิ่งจะเปิดสาขาใหม่ที่ห้างหรูอย่าง Harrods ณ กรุงลอนดอน ซึ่งผลปรากฏว่าแบรนด์ได้รับผลตอบรับดีเกินคาด

จนตอนนี้ เคลย์ เดอ โป โบเต้ ได้กลายเป็นหนึ่งในแบรนด์อันแข็งแกร่งของบริษัท Shisedo
โดยจุดแข็งของแบรนด์จะอยู่ที่สินค้าในกลุ่ม “สกินแคร์”

ในขณะเดียวกัน เคลย์ เดอ โป โบเต้ ยังเป็นแบรนด์ที่ทำรายได้สูงเป็นอันดับที่ 2 ในบริษัท
เป็นรองเพียง Shisedo แบรนด์เดียวเท่านั้น

และที่สำคัญเลยก็คือ เคลย์ เดอ โป โบเต้ ยังครองส่วนแบ่งอันดับ 1 ของตลาดความงามระดับ Luxury ในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย

แล้วอะไรที่ทำให้คนยอมควักเงินในกระเป๋า
เพื่อซื้อครีมหรือเครื่องสำอางหลักหลายพันไปจนถึงหลายหมื่น?

จุดเด่นของแบรนด์ เคลย์ เดอ โป โบเต้ ก็คือ
สินค้าทุกชิ้นของแบรนด์นี้ จะถูกคิดค้น พัฒนาและทำวิจัย
โดยนักวิทยาศาสตร์ของ เคลย์ เดอ โป โบเต้ โดยเฉพาะ

จุดนี้เองที่ทำให้เคลย์ เดอ โป โบเต้ แตกต่างจากแบรนด์ความงามหลายๆ แบรนด์
เพราะบางแบรนด์เลือกที่จะประหยัดต้นทุนในส่วนนี้
แล้วหันมาใช้วิธีเป็นการจ้างเหมาบริษัทอื่น ให้ผลิตสินค้าแทน

ดังนั้นการมีทีมนักวิทยาศาสตร์เป็นของตัวเอง
จะช่วยให้แบรนด์เคลย์ เดอ โป โบเต้ รู้จักทุกๆ ส่วนประกอบของสินค้านั้นอย่างละเอียด

นอกจากนี้ แบรนด์ เคลย์ เดอ โป โบเต้ ก็ต้องการจะสื่อว่า
สินค้าของ เคลย์ เดอ โป โบเต้ ไม่ใช่แค่สกินแคร์ หรือเครื่องสำอางทั่วๆ ไป
แต่มันคือ “เทคโนโลยี และนวัตกรรม สำหรับการดูแลผิว”
ที่ผ่านการคิดค้นและถ่ายทอดความรู้มากกว่า 38 ปี

จึงทำให้ลูกค้ามั่นใจว่า เคลย์ เดอ โป โบเต้
จะกลายเป็นกุญแจดอกสำคัญ ที่จะไขสู่ความงามของผิวพรรณ
เหมือนกับชื่อของแบรนด์นั่นเอง..

References: