Business
รู้จัก Irene Zhao อินฟลูเอนเซอร์ ที่ขายรูปตัวเอง ได้สองร้อยล้าน
11 มี.ค. 2022
รู้จัก Irene Zhao อินฟลูเอนเซอร์ ที่ขายรูปตัวเอง ได้สองร้อยล้าน /โดย ลงทุนเกิร์ล
เมื่อไม่นานมานี้ มีข่าวของคุณ Irene Zhao ที่รูป NFT ของตัวเธอ ถูกขายไปเป็นมูลค่าถึง 245 ล้านบาท
ทั้ง ๆ ที่เธอเองก็ไม่ได้ตั้งใจ แต่มีเพื่อนร่วมธุรกิจ ได้นำภาพของเธอไปแปลงให้เป็น NFT และลงประกาศขาย
ทั้ง ๆ ที่เธอเองก็ไม่ได้ตั้งใจ แต่มีเพื่อนร่วมธุรกิจ ได้นำภาพของเธอไปแปลงให้เป็น NFT และลงประกาศขาย
แล้วคุณ Irene Zhao คือใคร ?
ทำไมรูปของเธอ จึงมีราคาสูงขนาดนี้ ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
ทำไมรูปของเธอ จึงมีราคาสูงขนาดนี้ ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
คุณ Irene Zhao หรืออีกชื่อคือคุณ Yuqing Zhao เป็นสาวชาวจีน ที่ย้ายมาใช้ชีวิตที่สิงคโปร์
โดยในปี 2008 เธอได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ เกี่ยวกับการสื่อสาร
ซึ่งเธอเองก็เหมือนวัยรุ่นทั่วไป ที่มักจะโพสต์รูปเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ลงบนอินสตาแกรม
ในตอนนั้นคำว่า อินฟลูเอนเซอร์ น่าจะไม่ใช่คำที่เราได้ยินบ่อยเท่าไรนัก และในช่วงแรก ๆ ตัวคุณ Irene Zhao ก็มีผู้ติดตามเพียง 800 คนเท่านั้น
เธอใช้เวลากว่า 6 ปีในการเพิ่มจำนวนผู้ติดตามสู่หลักแสน
และปัจจุบันอินสตาแกรมของเธอมีผู้ติดตามอยู่ที่ 420,000 คน
และปัจจุบันอินสตาแกรมของเธอมีผู้ติดตามอยู่ที่ 420,000 คน
พอเรื่องเป็นแบบนี้ ในปี 2016 เธอจึงเริ่มต้นอาชีพ “อินฟลูเอนเซอร์” และได้ทำงานร่วมกับแบรนด์ต่าง ๆ โดยเฉพาะแบรนด์จากประเทศฝั่งเอเชีย ซึ่งคอนเทนต์ส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับด้านแฟชั่น
ต่อมาเธอก็เริ่มต่อยอดสู่การทำวิดีโอแนว Vlog ในยูทูบเพิ่มเติมเข้ามา
ที่น่าสนใจคือ แม้เบื้องหน้าจะเป็นอินฟลูเอนเซอร์สาวสวย
แต่อีกด้านของชีวิต คุณ Irene Zhao ก็ทำงานในฝ่ายการเงิน ตำแหน่งนายหน้าซื้อขายสินค้า อยู่ในบริษัท globalORE ซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมเหมืองแร่, การผลิตเหล็ก รวมถึงเป็นโซลูชันอีคอมเมิร์ซ B2B ด้านสินค้าเหล็กและแร่ต่าง ๆ
ต่อมาเธอยังได้ขยับสู่การเป็น CMO หรือผู้บริหารฝ่ายการตลาดให้กับ KONOMI Network บริษัทเกี่ยวกับ DeFi หรือบริการทางการเงินแบบไร้ตัวกลาง
ถ้าเรามองเข้ามา ก็คงมองว่า คุณ Irene Zhao น่าจะมีความสุขกับสิ่งที่เป็นอยู่
ทั้งมีงานประจำ แถมยังเป็นอินฟลูเอนเซอร์ ที่มีผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก
ทั้งมีงานประจำ แถมยังเป็นอินฟลูเอนเซอร์ ที่มีผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก
แต่สำหรับตัวเธอ กลับไม่ได้รู้สึกแบบนั้น
คุณ Irene Zhao มองว่าเธอไม่มีความสุขกับการหาเงินด้วยการโพสต์รูปที่มีผู้สนับสนุน เพราะทำให้คอนเทนต์ดูไม่จริงใจในบางครั้ง รวมถึงยังต้องอาศัยการจ่ายค่าโฆษณาเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย
และในกรณีที่แย่ที่สุดคือ ผู้ติดตามบางคนอาจรำคาญได้ เมื่อต้องเจอกับโพสต์โฆษณาบ่อย ๆ
พอเรื่องเป็นแบบนี้ คุณ Irene Zhao ที่ก็มีประสบการณ์ด้านเทคโนโลยีบล็อกเชนมาบ้าง จึงเกิดไอเดียว่า ในเมื่อคอนเทนต์ที่เธอโพสต์คือรูปภาพ อย่างนั้น NFT ก็อาจเป็นคำตอบ ที่จะช่วยให้อินฟลูเอนเซอร์ขายคอนเทนต์ของตัวเองได้โดยตรง
เธอกับเพื่อนอีกคน จึงร่วมกันก่อตั้งแพลตฟอร์มหนึ่งชื่อ SO-COL ขึ้นมา ในปี 2021
แพลตฟอร์ม SO-COL ทำงานอย่างไร ?
SO-COL มาจาก “Social Collectables” คือแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียแบบไร้ตัวกลาง สำหรับให้เหล่าครีเอเตอร์ เปลี่ยนคอนเทนต์บนโซเชียลมีเดียของตัวเอง ให้เป็น NFT
โดยคุณ Irene Zhao มองว่า SO-COL จะทำหน้าที่เป็นเหมือนสะพาน ที่ช่วยเชื่อมระหว่างโซเชียลมีเดียแบบเดิม ๆ ที่เป็น Web 2.0 ให้เข้าสู่การเป็น Web 3.0 เพื่อสร้างคอมมิวนิตีให้อินฟลูเอนเซอร์และผู้ติดตาม สามารถสื่อสารกันได้ด้วย
แล้วการเป็น Web 2.0 ต่างกับ Web 3.0 อย่างไร ?
โดยทั่วไป เว็บไซต์ที่เราใช้กันในปัจจุบัน ผู้ใช้งานจะสามารถโต้ตอบกันได้แบบสองทาง หรือก็คือสามารถสื่อสารหากันได้ทั้งระหว่างเจ้าของเว็บไซต์และผู้ใช้งาน รวมถึงระหว่างผู้ใช้งานด้วยกันเอง
ถ้ายกตัวอย่างง่าย ๆ ก็คือ Facebook หรือ Twitter ที่เราใช้กัน
แต่ข้อเสียของ Web 2.0 คือการมีตัวกลางที่เป็นผู้ให้บริการ คอยกำกับดูแลอยู่เบื้องหลัง
เท่ากับว่าเจ้าของเว็บไซต์ สามารถเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้งานได้ ทำให้เกิดปัญหาความไม่เป็นส่วนตัว
และอาจนำไปสู่การขโมยข้อมูลส่วนตัวได้
และอาจนำไปสู่การขโมยข้อมูลส่วนตัวได้
พอเรื่องเป็นแบบนี้ จึงมีแนวคิดของ Web 3.0 ที่ตัด “ตัวกลาง” ออกไป
Web 3.0 จึงเป็นเว็บไซต์แบบไร้ตัวกลาง ทำให้ผู้ใช้งานสามารถกำหนดทิศทางของเว็บไซต์ได้เอง ซึ่งข้อมูลทุกอย่างก็จะถูกบันทึกเอาไว้ในบล็อกเชน ทำให้ผู้ใช้งานสามารถรู้ข้อมูลต่าง ๆ
ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำได้
ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำได้
ซึ่ง SO-COL ก็จะเป็นแพลตฟอร์มสำหรับสร้างชุมชนระหว่างครีเอเตอร์กับแฟนคลับ
ครีเอเตอร์จะได้รับเงินสนับสนุนจากผลงานโดยตรง
ส่วนแฟน ๆ ก็จะได้สนับสนุนผลงานของครีเอเตอร์ โดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง แถมยังเป็นอีกช่องทางในการลงทุนด้วย
ส่วนแฟน ๆ ก็จะได้สนับสนุนผลงานของครีเอเตอร์ โดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง แถมยังเป็นอีกช่องทางในการลงทุนด้วย
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากแนวคิด Web 3.0 ยังเป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหม่ ทำให้แพลตฟอร์ม SO-COL ยังอยู่ในขั้นตอนการเริ่มต้น และต้องพัฒนาอยู่เรื่อย ๆ
โดยระหว่างนั้น เพื่อให้ผู้คนหันมาให้ความสนใจกับคุณ Irene Zhao และแพลตฟอร์มของเธอ
เธอก็ได้ปล่อยคอลเลกชันสติกเกอร์ในแอปแช็ต Telegram ซึ่งเป็นรูปใบหน้าของเธอ พร้อมกับประโยคคำพูดสั้น ๆ ที่มักถูกใช้กันในวงการคริปโทฯ
และเพียง 4 วัน ก็มีการติดตั้งสติกเกอร์คอลเลกชันนี้ มากกว่า 1,000 ครั้ง
พอเรื่องเป็นแบบนี้ นักพัฒนาบล็อกเชนคนหนึ่งที่อยู่ในทีม จึงเสนอไอเดียให้ลองเอาสติกเกอร์นี้ มาเปลี่ยนให้กลายเป็น NFT
ซึ่งตอนแรกคุณ Irene Zhao ก็ไม่ได้สนใจมากนัก เนื่องจากตอนนั้น เธอกำลังตั้งใจทำ แพลตฟอร์ม SO-COL เป็นหลัก
แต่ด้านผู้ร่วมก่อตั้งของเธอและนักพัฒนาคนนั้น ก็ตัดสินใจสร้าง NFT ของเธอขึ้น
โดยในตอนที่พวกเขาตัดสินใจ เป็นช่วงเวลาที่เธอกำลังว่ายน้ำอยู่
ซึ่งพอเธอว่ายน้ำเสร็จ พวกเขาก็สร้าง NFT ของเธอเสร็จเรียบร้อยแล้ว และตั้งชื่อว่า IreneDAO
ซึ่งพอเธอว่ายน้ำเสร็จ พวกเขาก็สร้าง NFT ของเธอเสร็จเรียบร้อยแล้ว และตั้งชื่อว่า IreneDAO
คำว่า DAO ย่อมาจาก Decentralized Autonomous Organization เพื่อสื่อว่าเป็นสัญญาให้คนที่เข้ามาเป็นเจ้าของ NFT เหล่านี้ ลงคะแนนเสียงและมีสิทธิ์ตัดสินใจ เกี่ยวกับอนาคตของโครงการ NFT IreneDAO นี้ต่อไป
ที่น่าสนใจคือ IreneDAO ได้มีบุคคลที่มีชื่อเสียงอย่างคุณ Logan Paul ยูทูบเบอร์จากสหรัฐอเมริกา ที่มีจำนวนผู้ติดตามกว่า 23 ล้านคนบนยูทูบ และนักลงทุนจากสหรัฐอเมริกาชื่อคุณ Mike Novogratz
เข้ามาร่วมซื้อ NFT ในครั้งนี้ด้วย
เข้ามาร่วมซื้อ NFT ในครั้งนี้ด้วย
ส่งผลให้ IreneDAO ยิ่งดังและกลายเป็นที่รู้จักมากขึ้น ในระยะเวลาอันสั้น
ซึ่งผลงาน NFT ทั้งหมด 1,107 ชิ้น ในโปรเจกต์ IreneDAO ก็สามารถทำเงินไปได้กว่า 245 ล้านบาท
แม้ว่าสุดท้ายแล้วคุณ Irene Zhao จะไม่ได้เป็นเจ้าของเงินนี้ทั้งก้อน ด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่าง
แต่เรื่องนี้ก็ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจ ให้ผู้คนหันมาสร้างคอนเทนต์ในแบบของตัวเองมากขึ้น
แต่เรื่องนี้ก็ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจ ให้ผู้คนหันมาสร้างคอนเทนต์ในแบบของตัวเองมากขึ้น
รวมถึงส่งผลให้ SO-COL ถูกพูดถึงมากขึ้นอีกด้วย
ซึ่งไม่แน่ว่าในอนาคต เมื่อ Web 3.0 เริ่มมีภาพที่ชัดเจนขึ้น
แพลตฟอร์ม SO-COL ของเธอ ก็อาจจะกลายเป็นอีกหนึ่งในแพลตฟอร์ม
ที่เข้ามาเป็นตัวช่วยให้เหล่าอินฟลูเอนเซอร์หารายได้ ได้ง่ายขึ้นอีกช่องทาง
โดยที่ไม่จำเป็นต้องง้อสปอนเซอร์อีกต่อไปก็ได้..
แพลตฟอร์ม SO-COL ของเธอ ก็อาจจะกลายเป็นอีกหนึ่งในแพลตฟอร์ม
ที่เข้ามาเป็นตัวช่วยให้เหล่าอินฟลูเอนเซอร์หารายได้ ได้ง่ายขึ้นอีกช่องทาง
โดยที่ไม่จำเป็นต้องง้อสปอนเซอร์อีกต่อไปก็ได้..