Business
รู้จัก Lindt แบรนด์ช็อกโกแลต 177 ปี ที่บางคนได้รับ ตอนวาเลนไทน์
14 ก.พ. 2022
รู้จัก Lindt แบรนด์ช็อกโกแลต 177 ปี ที่บางคนได้รับ ตอนวาเลนไทน์ /โดย ลงทุนเกิร์ล
รู้หรือไม่ว่า 7 วันก่อนวันวาเลนไทน์ ในประเทศสหรัฐอเมริกา จะมีการบริโภคช็อกโกแลต กว่า 2,630 ล้านตัน หรือเทียบเท่ากับปลาวาฬสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นสัตว์ที่มีน้ำหนักตัวมากที่สุดในโลกถึง 17 ตัว
อย่างไรก็ตาม หากลองเข้าไปดูประวัติการค้นหา แบรนด์ช็อกโกแลตของประเทศฝั่งยุโรป
เราจะพบว่า Lindt จะเป็นแบรนด์ช็อกโกแลตอันดับ 1 ที่ถูกผู้คนค้นหา ตามมาด้วยอันดับ 2 คือ Godiva
เราจะพบว่า Lindt จะเป็นแบรนด์ช็อกโกแลตอันดับ 1 ที่ถูกผู้คนค้นหา ตามมาด้วยอันดับ 2 คือ Godiva
วันนี้ลงทุนเกิร์ลจึงได้หยิบเอาเรื่องราวของ Lindt แบรนด์ช็อกโกแลต ที่มีอายุกว่า 177 ปี มาเล่าให้ฟัง
ย้อนกลับไปในปี 1845 คุณ David Sprüngli และคุณ Rudolf Sprüngli-Ammann ผู้เป็นลูกชาย ได้ผลิต “ช็อกโกแลตบาร์” และเปิดร้านขายเป็นเจ้าแรก ๆ ในย่านพื้นที่ที่พูดภาษาเยอรมัน ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งก็ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว
ต่อมาในปี 1899 ก็ดำเนินมาถึงรุ่นหลานของตระกูล หรือก็คือลูกชายของคุณ Rudolf Sprüngli-Ammann ที่ได้ก้าวขึ้นมาบริหารธุรกิจของครอบครัว และได้ตัดสินใจเข้าซื้อกิจการ โรงงานช็อกโกแลตของคุณ Rodolphe Lindt ด้วยเงินประมาณ 1.5 ล้านฟรังก์ทอง
โดยคุณ Rodolphe Lindt นี้ ถือว่าเป็นบุคคลที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมช็อกโกแลต ของสวิตเซอร์แลนด์ให้โด่งดังเลยก็ว่าได้
เพราะจากเดิมช็อกโกแลตมีเนื้อสัมผัสที่แข็ง รวมถึงรสชาติที่ขม กินยาก แต่ด้วยการค้นพบโดยบังเอิญของเขา ที่เผลอเปิดเครื่องทำช็อกโกแลตทิ้งเอาไว้นานกว่าปกติ ทำให้มนุษยชาติได้สัมผัสช็อกโกแลตที่มีเนื้อเนียน ละลายในปาก และรสชาติหวานมัน
ซึ่งคุณ Rodolphe Lindt ก็ยอมขายธุรกิจนี้ ให้กับครอบครัว Sprüngli โดยมีเงื่อนไขว่า ชื่อของ “Lindt” จะต้องยังอยู่ จึงเป็นที่มาของการเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Lindt & Sprüngli นั่นเอง
หลังจากนั้น ยอดขายช็อกโกแลตของ Lindt ก็เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เริ่มมีการส่งออกสินค้าไปทำตลาดในต่างประเทศมากขึ้น
แล้วปัจจุบัน Lindt ขายดีแค่ไหน ?
เรามาดูผลประกอบการของ บริษัท Lindt & Sprüngli
เรามาดูผลประกอบการของ บริษัท Lindt & Sprüngli
ปี 2019 รายได้ 160,428 ล้านบาท กำไร 21,098 ล้านบาท
ปี 2020 รายได้ 142,888 ล้านบาท กำไร 11,385 ล้านบาท
และครึ่งปีแรกของปี 2021 รายได้ 64,541 ล้านบาท กำไร 3,593 ล้านบาท
ปี 2020 รายได้ 142,888 ล้านบาท กำไร 11,385 ล้านบาท
และครึ่งปีแรกของปี 2021 รายได้ 64,541 ล้านบาท กำไร 3,593 ล้านบาท
โดยปัจจุบันบริษัท Lindt & Sprüngli ยังเป็นเจ้าของแบรนด์ช็อกโกแลตอื่น ๆ อย่าง LINDOR, Lindt GOLD BUNNY, Ghirardelli, Russell Stover, Caffarel และ Hofbauer and Küfferle
แล้วอะไรคือสิ่งที่ทำให้ช็อกโกแลต Lindt ขายดีมานานกว่า 177 ปี ?
อย่างแรกคือ คุณภาพของสินค้า
ซึ่ง Lindt จะนำวัตถุดิบที่มีคุณภาพสูง มาใช้ในการผลิตช็อกโกแลตเสมอ เพื่อให้ได้รสชาติช็อกโกแลตที่ดี ถึงแม้การเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพ จะส่งผลให้ราคาสินค้าสูงขึ้น แต่เพราะ Lindt ได้เปิดเผย ที่มาและขั้นตอนการผลิต ทำให้ลูกค้ารับรู้ได้ถึงคุณภาพของสินค้า และพร้อมที่จะจ่าย
อย่างต่อมาคือ การมีสินค้าจากนวัตกรรมใหม่ ๆ
แม้ว่า Lindt จะเป็นช็อกโกแลตเจ้าแรก ๆ ที่เข้ามาเปลี่ยนวงการช็อกโกแลตของโลก แต่บริษัทก็ไม่เคยหยุดที่จะเข้าซื้อธุรกิจขนมใหม่ ๆ เพื่อให้บริษัทมีสินค้าใหม่ ๆ เข้ามาเสิร์ฟลูกค้าเสมอ
และค่อย ๆ ขยายตลาด โดยเจาะความต้องการของผู้บริโภคแต่ละกลุ่ม
และค่อย ๆ ขยายตลาด โดยเจาะความต้องการของผู้บริโภคแต่ละกลุ่ม
และสุดท้ายคือความสม่ำเสมอของแบรนด์
ถึง Lindt จะมีการออกสินค้าใหม่ ๆ มาเสมอเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการ
แต่ Lindt จะมีการออกสินค้าที่คอยตอกย้ำภาพจำแบรนด์ Lindt กับผู้บริโภคอยู่เสมอ
แต่ Lindt จะมีการออกสินค้าที่คอยตอกย้ำภาพจำแบรนด์ Lindt กับผู้บริโภคอยู่เสมอ
เช่น การออกสินค้าคอลเลกชันคริสต์มาส ที่เป็นช็อกโกแลตตุ๊กตาหมี ซึ่งเป็นสินค้าที่มีทุกปี
เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถนึกถึงและจดจำแบรนด์ได้ เมื่อเห็นสินค้านี้ในวันคริสต์มาส
เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถนึกถึงและจดจำแบรนด์ได้ เมื่อเห็นสินค้านี้ในวันคริสต์มาส
เราจึงอาจสรุปเรื่องราวความสำเร็จของ Lindt ได้ว่า ขอเพียงแค่ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ
ไม่จมอยู่กับความสำเร็จเดิม ๆ และคอยออกสินค้าใหม่ ๆ รวมถึงสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์
เพื่อให้แบรนด์ยังคงอยู่ในความทรงจำของผู้บริโภคเสมอไม่ว่าเวลาจะผ่านมา 177 ปีแล้วก็ตาม..
ไม่จมอยู่กับความสำเร็จเดิม ๆ และคอยออกสินค้าใหม่ ๆ รวมถึงสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์
เพื่อให้แบรนด์ยังคงอยู่ในความทรงจำของผู้บริโภคเสมอไม่ว่าเวลาจะผ่านมา 177 ปีแล้วก็ตาม..