Business
ร้านค้าไทย ก็ขายต่างประเทศได้ง่าย ๆ ผ่าน Amazon
4 ก.พ. 2022
Amazon Global Selling x ลงทุนเกิร์ล
รู้หรือไม่คะว่า ในปี 2019 มีคนซื้อสินค้าออนไลน์ แบบสั่งข้ามประเทศ คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 20% บนแพลตฟอร์มของ Amazon
และยิ่งไปกว่านั้น คือ บริการ “อีคอมเมิร์ซแบบข้ามพรมแดน” หรือ Cross-Border E-Commerce
ยังมีอัตราการเติบโตที่สูงกว่า 2 เท่า เมื่อเทียบกับบริการอีคอมเมิร์ซในท้องถิ่น
ยังมีอัตราการเติบโตที่สูงกว่า 2 เท่า เมื่อเทียบกับบริการอีคอมเมิร์ซในท้องถิ่น
โดยตัวเลขนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึง แนวโน้มในอนาคต ที่การซื้อ-ขายสินค้าออนไลน์แบบข้ามพรมแดน อาจกลายมาเป็นเรื่องปกติในชีวิตคนเรา
เพราะ Amazon กำลังจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงการซื้อ-ขายสินค้าออนไลน์แบบข้ามพรมแดน ให้เป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ง่ายสำหรับทุกคน และไม่ว่าเราจะอยากซื้อสินค้าจากประเทศไหน ก็สามารถสั่งซื้อได้เองทันที โดยไม่ต้องจ้างใครไปหิ้วสินค้า หรือพรีออร์เดอร์
เพราะ Amazon กำลังจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงการซื้อ-ขายสินค้าออนไลน์แบบข้ามพรมแดน ให้เป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ง่ายสำหรับทุกคน และไม่ว่าเราจะอยากซื้อสินค้าจากประเทศไหน ก็สามารถสั่งซื้อได้เองทันที โดยไม่ต้องจ้างใครไปหิ้วสินค้า หรือพรีออร์เดอร์
แล้วธุรกิจในไทย จะได้ประโยชน์จากเรื่องนี้อย่างไร ?
และการส่งสินค้าไปขายต่างประเทศ ผ่าน Amazon มีขั้นตอนอะไรบ้าง ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง..
และการส่งสินค้าไปขายต่างประเทศ ผ่าน Amazon มีขั้นตอนอะไรบ้าง ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง..
หากพูดถึงการส่งสินค้าไปขายต่างประเทศ
เราอาจนึกถึง ความยุ่งยาก ซับซ้อน และเหมาะกับธุรกิจขนาดใหญ่เท่านั้น
เราอาจนึกถึง ความยุ่งยาก ซับซ้อน และเหมาะกับธุรกิจขนาดใหญ่เท่านั้น
เพราะปกติแล้ว “ผู้ผลิตสินค้า” จะต้องหา ผู้ส่งออก (Exporter) เพื่อส่งสินค้าไปต่างประเทศ
และเมื่อสินค้าเดินทางไปถึง ก็จะไปผ่านมือของ ผู้นำเข้า (Importer) ซึ่งก็จะส่งต่อสินค้าไปยัง ผู้ค้าส่ง และต่อด้วย ผู้ค้าปลีก ที่จะเป็นคนนำสินค้าไปถึงมือ “ผู้บริโภค”
และเมื่อสินค้าเดินทางไปถึง ก็จะไปผ่านมือของ ผู้นำเข้า (Importer) ซึ่งก็จะส่งต่อสินค้าไปยัง ผู้ค้าส่ง และต่อด้วย ผู้ค้าปลีก ที่จะเป็นคนนำสินค้าไปถึงมือ “ผู้บริโภค”
แต่หากเป็นการซื้อ-ขายข้ามพรมแดน บน Amazon
ขั้นตอนทั้งหมดนี้ จะถูกลดลงเหลือเพียง “2 ขั้นตอน” เท่านั้น
ขั้นตอนทั้งหมดนี้ จะถูกลดลงเหลือเพียง “2 ขั้นตอน” เท่านั้น
ซึ่งก็คือ “ผู้ผลิตสินค้า” สามารถส่งสินค้าตรงถึง “ผู้บริโภค” ได้ทันที
ที่น่าสนใจ คือ บน Amazon ยังมีผู้ใช้งานมากกว่า 300 ล้านบัญชี
พร้อมทั้งเปิดให้บริการในกว่า 180 ประเทศทั่วโลก
และถือเป็นอีคอมเมิร์ซอันดับต้น ๆ ของโลก
พร้อมทั้งเปิดให้บริการในกว่า 180 ประเทศทั่วโลก
และถือเป็นอีคอมเมิร์ซอันดับต้น ๆ ของโลก
ดังนั้น การเข้าไปขายสินค้าบน Amazon จึงเป็นเหมือนช่องทางสำคัญ ที่จะทำให้ธุรกิจของเราสามารถเชื่อมต่อกับผู้คนจากทั่วโลกได้
ประกอบกับสถานการณ์โรคระบาดในปัจจุบัน ที่ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป
ซึ่งแน่นอนว่า พฤติกรรมแรกที่เปลี่ยนไป ก็คือ ผู้บริโภคเริ่มหันมาช็อปปิงออนไลน์กันมากขึ้น
และพฤติกรรมที่ตามมา ก็คือ 36% ของผู้บริโภค ยินดีที่จะเปิดใจลองซื้อสินค้าจากแบรนด์ใหม่ ๆ
นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่า หากเราเป็นแบรนด์จากต่างประเทศที่คนในประเทศนั้นไม่คุ้นเคย ก็ยังมีโอกาสเข้าถึง
ผู้บริโภคในกลุ่มนี้ได้ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะต้องใช้เวลานานในการเข้าไปสร้างชื่อเพื่อให้แบรนด์ติดตลาด
และพฤติกรรมที่ตามมา ก็คือ 36% ของผู้บริโภค ยินดีที่จะเปิดใจลองซื้อสินค้าจากแบรนด์ใหม่ ๆ
นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่า หากเราเป็นแบรนด์จากต่างประเทศที่คนในประเทศนั้นไม่คุ้นเคย ก็ยังมีโอกาสเข้าถึง
ผู้บริโภคในกลุ่มนี้ได้ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะต้องใช้เวลานานในการเข้าไปสร้างชื่อเพื่อให้แบรนด์ติดตลาด
ในขณะเดียวกัน ทาง Amazon ยังมีการเข้ามาช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการผ่านทางทีม Amazon Global Selling ที่จะคอยให้คำแนะนำ
ทั้งเรื่องการเพิ่มยอดขาย, กำหนดแคมเปญการตลาด ไปจนถึงการจัดงานสัมมนา เพื่อให้ความรู้กับผู้ประกอบการชาวไทยที่สนใจขายสินค้าบน Amazon
ทั้งเรื่องการเพิ่มยอดขาย, กำหนดแคมเปญการตลาด ไปจนถึงการจัดงานสัมมนา เพื่อให้ความรู้กับผู้ประกอบการชาวไทยที่สนใจขายสินค้าบน Amazon
โดยในปีที่ผ่านมาก็มีผู้ขายชาวไทยหลายคน ที่ส่งสินค้าไปขายต่างประเทศ ผ่าน Amazon
ซึ่ง “สินค้าไทย” ที่มาแรงบน Amazon เช่น เสื้อผ้า สินค้าเพื่อความงาม เครื่องประดับ เครื่องใช้ในบ้าน
สำหรับใครที่สนใจ อยากจะนำสินค้าไปขายบน Amazon ก็มีขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้
ซึ่ง “สินค้าไทย” ที่มาแรงบน Amazon เช่น เสื้อผ้า สินค้าเพื่อความงาม เครื่องประดับ เครื่องใช้ในบ้าน
สำหรับใครที่สนใจ อยากจะนำสินค้าไปขายบน Amazon ก็มีขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้
เริ่มจากสมัครบัญชี Amazon ที่ https://sell.amazon.co.th/
ซึ่งจะมีค่าสมาชิกอยู่ที่ 39.99 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,322 บาทต่อเดือน
และกดเลือก Professional Selling Account เพื่อให้เราสามารถลงขายสินค้าได้ไม่จำกัดจำนวน
ซึ่งจะมีค่าสมาชิกอยู่ที่ 39.99 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,322 บาทต่อเดือน
และกดเลือก Professional Selling Account เพื่อให้เราสามารถลงขายสินค้าได้ไม่จำกัดจำนวน
นอกจากนี้ Amazon ยังมีบริการอื่น ๆ ที่ช่วยกระตุ้นยอดขายให้เรา ไม่ว่าจะเป็น Sponsored Products, Sponsored Brands รวมทั้ง Sponsored Display ที่จะมาช่วยให้ลูกค้ามองเห็นสินค้าของเรามากขึ้นอีกด้วย
สำหรับใครที่สนใจส่งออกสินค้าข้ามพรมแดนไปกับ Amazon สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Amazon Global Selling Thailand หรือไปรับชมคำแนะนำและเคล็ดลับการขายบนอเมซอนที่ https://bit.ly/3AErMsL
บทความนี้สนับสนุนโดย Amazon Global Selling Thailand