รู้จัก ผู้หญิงที่อยู่เบื้องหลัง ผลิตภัณฑ์ที่เติบโตเร็วสุดของ Facebook และ CEO บริษัทตรวจ DNA แสนล้าน /โดย ลงทุนเกิร์ล

รู้หรือไม่ ? ในเดือนตุลาคม ปี 2012 Facebook ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ เป็น Mobile App Install Ads หรือ การลงโฆษณา เพื่อกระตุ้นยอดดาวน์โหลดแอปพลิเคชันโดยตรง

โดยหลังจากที่เปิดตัวไปไม่นาน ก็มีจำนวนการติดตั้งแอปพลิเคชันผ่าน Mobile App Install Ads ประมาณ 100 ล้านครั้ง ในช่วงที่เพิ่งเปิดตัวไม่กี่เดือน และเมื่อถึงสิ้นปี 2012 ก็มีการติดตั้งเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว หรือ 245 ล้านครั้ง

เรื่องนี้ทำให้ Mobile App Install Ads กลายเป็นหนึ่งในธุรกิจใหม่ของ Facebook ที่เติบโตเร็วที่สุด

ที่น่าสนใจคือ ผู้ที่อยู่เบื้องหลังผลิตภัณฑ์นี้ เป็นผู้หญิง โดยเธอมีชื่อว่า “คุณเดบ หลิว” ซึ่งต่อมาเธอยังมีส่วนสำคัญในการก่อตั้ง Facebook Marketplace ด้วย

เรียกได้ว่า เธอก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ Facebook เป็นมากกว่าคอมมิวนิตี และกลายเป็นสถานที่ของคนที่อยากทำธุรกิจ

ซึ่งหลังจากที่เธอทำงานกับ Facebook ได้ 11 ปี คุณเดบ หลิว ก็ได้เข้ามาร่วมงานกับบริษัทตรวจ DNA
แสนล้านอย่าง Ancestry.com ในตำแหน่งซีอีโอ เมื่อต้นปี 2021 ที่ผ่านมา

อะไรที่ทำให้ผู้หญิงคนหนึ่ง พาตัวเองมาได้ไกลขนาดนี้ ?
แล้วเรื่องราวของคุณเดบ หลิว ยังมีอะไรที่น่าสนใจอีกบ้าง ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง

คุณเดบ หลิว เป็นชาวเอเชีย เธอสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยดุ๊ก สาขาวิศวกรรมโยธา และจบ MBA จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด

ซึ่งหลังจากสำเร็จการศึกษา ในปี 2002 เธอก็ได้ทำงานกับ PayPal ของ eBay

ในขณะที่เธอทำงานอยู่ที่ PayPal คุณเอมี เคลเมนต์ ผู้นำการจัดการผลิตภัณฑ์ของ PayPal ได้กล่าวถึงคุณเดบ หลิว ว่า “เธอทำงานหนัก และมีความแข็งแกร่งมากกว่าคนส่วนใหญ่ที่ฉันรู้จัก เธอเฉียบแหลมอย่างเหลือเชื่อ และมีแรงที่เยอะเหมือนกับม้า”

แต่ในอีกมุมหนึ่ง ตลอดชีวิตการทำงานของคุณเดบ หลิว กลับเป็นคนที่ค่อนข้างจะเก็บตัวมาก และมีปัญหาในการติดต่อกับผู้คน

เนื่องจากเธอเป็นเด็กที่เติบโตในเมืองเล็ก ๆ ในเซาท์แคโรไลนา ซึ่งเมืองนี้มีชาวเอเชียเพียงแค่ 1% ของประชากรทั้งหมด คุณหลิวจึงเป็นหนึ่งในเด็กเอเชียไม่กี่คนในโรงเรียน ทำให้เธอรู้สึกแปลกแยก และถูกเลือกปฏิบัติจากคนทั้งเมือง

โดยผู้คนมักจะเดินมาหาเธอที่ถนนและพูดว่า “กลับไปยังที่ที่คุณจากมา” หรือคอยย้ำเตือนว่า “เราเป็นคนอื่น” อยู่เสมอ

แต่จากจุดนี้เอง จึงทำให้เธอต้องตั้งใจทำงานให้หนักขึ้น เพื่อพิสูจน์ตัวเอง ทำตัวเพื่อไม่ให้มีใครมาต่อต้านเธอ รวมถึงพยายามทำตัวไม่ให้มีคนเห็นหรือมาสังเกต เพื่อที่จะได้ไม่มีใครพูดอะไรเกี่ยวกับเธอได้ และเธอก็ใช้ชีวิตบนทัศนคตินี้มาตลอด

ส่งผลให้เธอตัดสินใจเข้าไปเรียนวิศวกรรม ซึ่งเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับการได้รับชุดปัญหามาแก้ไข โดยที่ไม่ต้องพูดคุยปฏิสัมพันธ์กับใครเลย

อย่างไรก็ตาม หนึ่งในจุดเปลี่ยนสำคัญของคุณหลิว เกิดขึ้นในปี 2013 โดยในตอนนั้นหัวหน้าของคุณหลิว หรือคุณเชอริล แซนด์เบิร์ก COO ของ Facebook ได้ตั้งใจส่งคุณหลิวไปทำงานกับโค้ชมืออาชีพ เพื่อพัฒนารูปแบบการเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

เช่น จากที่คุณหลิวต้องเป็นคนตัดสินใจในงานทุกงานเอง ก็เปลี่ยนเป็นส่งเสริมให้ทีมของเธอช่วยตัดสินใจบ้าง

และจากการอบรมนั้น เธอก็ได้ชนกับกำแพงของตัวเองเข้าอย่างจัง

โดยพาร์ตเนอร์ของเธอมักพูดว่า “คุณเดบ หลิว มีปัญหาในการปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น คุณต้องเชื่อมต่อกับผู้คน คุณต้องพูดคุยกับลูกค้า และเปิดกว้างให้มากขึ้น” ทำให้เธอได้มาตระหนักกับตัวเองว่า การเก็บตัวและปิดกั้นคนอื่นคือปัญหา

เธอจึงพยายามใช้เวลาอีกหลายปี ในการเรียนรู้ที่จะพูดคุยกับคนอื่น และค้นหาเสียงข้างในของตัวเอง

จนในที่สุดเธอก็ค้นพบว่า จิตวิญญาณการต่อสู้ที่เธอมีอยู่ ช่วยเธอได้ดีในบางแง่มุม แต่ยังมีอีกหลายมุมที่มันก็ยังช่วยไม่ได้ โดยเฉพาะการพยายามเชื่อมต่อกับผู้คน

คุณเชอริล แซนด์เบิร์ก จึงถือเป็นคนสำคัญที่เข้ามาช่วยเปลี่ยนชีวิตของคุณเดบ หลิว เลยก็ว่าได้

เพราะคุณเชอริล แซนด์เบิร์ก เป็นคนที่เดินเข้ามาบอกกับเธอว่า “คุณหยุดการต่อสู้ได้แล้ว คุณชนะแล้ว”
ซึ่งนี่กลายเป็นประโยคที่เติมพลังให้กับเธอ

เรื่องนี้ยังส่งผลให้ในช่วงโควิด 19 คุณเดบ หลิว ตัดสินใจออกไปค้นหาตัวเอง และพบปะผู้คนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ รวมถึงเริ่มจัดการประชุมทุกครึ่งชั่วโมง ทุก 2-3 วัน โดยพยายามสำรวจว่ามีโอกาสอะไรเกิดขึ้นบ้าง ในระหว่างที่เธอเริ่มสนทนากับคนอื่น ๆ

และนี่เองจึงทำให้คุณเดบ หลิว ตั้งใจเดินออกจาก “เซฟโซน” หรือก็คือ การลาออกจาก Facebook ที่เธอทำงานมานานกว่า 11 ปี เพื่อออกไปสำรวจว่ามีโอกาสอื่น ๆ อีกหรือไม่ รวมถึงตามหาความท้าทายครั้งใหม่ที่แตกต่างออกไปจากเดิม

ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันนั้น ก็มีคนชวนเธอไปสัมภาษณ์งานในตำแหน่งซีอีโอ ของบริษัทที่ชื่อว่า Ancestry.com บริษัทตรวจ DNA ที่ใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ทำให้คุณเดบ หลิว ไม่ปล่อยโอกาสนี้
และกระโจนเข้าไปหาความท้าทายครั้งใหม่ทันที

จนในที่สุด เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2021 เธอก็ได้นั่งเก้าอี้ซีอีโอ บริษัท Ancestry ที่ถูกประเมินมูลค่ากว่าแสนล้านบาท

ซึ่งใครที่เล่นโซเชียลมีเดีย อย่าง TikTok ก็อาจจะเคยเห็นโฆษณา Ancestry ที่มีคนมารีวิวการสืบหาข้อมูลบรรพบุรุษจาก DNA กันมาบ้าง ซึ่งถือได้ว่า เป็นอีกธุรกิจที่กำลังมาแรงในช่วงนี้

อ่านมาถึงตรงนี้ เราก็คงจะเห็นแล้วว่าสิ่งที่ทำให้เธอมาไกล จนนั่งเก้าอี้ซีอีโอได้ ไม่ใช่แค่เพราะเธอกล้าต่อสู้หรือท้าชนกับอุปสรรคภายนอกอย่างเดียว แต่เธอรู้จักที่จะต่อสู้กับกำแพงภายในใจของตัวเอง โดยเริ่มจากการกล้ายอมรับฟีดแบ็กจากคนใกล้ตัว

ซึ่งเมื่อกำแพงที่มีมาอย่างยาวนานของเธอได้ทลายลง จึงทำให้เธอมองเห็นโอกาสใหม่ ๆ และการเติบโตไปอีกขั้น จึงตามมาหาเธอนั่นเอง..

References:
-https://www.buzzfeednews.com/article/mattlynley/meet-the-woman-behind-one-of-facebooks-fastest-growing-and-m
-https://www.cnbc.com/2021/12/21/ancestry-ceo-deb-liu-5-words-from-sheryl-sandberg-changed-my-life.html
-https://debliu.substack.com/p/tough-love-how-hard-feedback-changed
-https://www.forbes.com/sites/aparnadhinakaran/2021/12/01/ancestry-ceo-deb-liu-on-building-teams-closing-the-gender-gap-in-product-and-learning-from-failure/?sh=54db65f733ad