FoodBusiness
รู้จัก MOS Burger เบอร์เกอร์หมื่นล้าน จากประเทศญี่ปุ่น
12 ม.ค. 2022
รู้จัก MOS Burger เบอร์เกอร์หมื่นล้าน จากประเทศญี่ปุ่น /โดย ลงทุนเกิร์ล
ถ้าถามว่าเชนฟาสต์ฟูดอะไร ที่มีภาพจำเป็นโลโกรูปตัว M และมีชื่อเสียงโด่งดัง หลายคนก็น่าจะนึกถึง McDonald's แต่ถ้าเราไปถามคำถามเดียวกันนี้กับคนในประเทศญี่ปุ่น คำตอบที่ได้ อาจจะต่างออกไป
เพราะหนึ่งในร้านเบอร์เกอร์ที่พบเห็นได้มากที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีมากกว่า 1,000 สาขา
และเป็นแบรนด์อันดับ 2 รองจาก McDonald's ก็คือร้านที่มีชื่อว่า “MOS Burger”
และเป็นแบรนด์อันดับ 2 รองจาก McDonald's ก็คือร้านที่มีชื่อว่า “MOS Burger”
แล้ว MOS Burger มีเรื่องราวอะไรน่าสนใจ ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
MOS Burger เป็นเชนร้านอาหารฟาสต์ฟูดสัญชาติญี่ปุ่น ที่เน้นขายเบอร์เกอร์โดยเฉพาะ
ก่อตั้งขึ้นโดยคุณ Satoshi Sakurada
ก่อตั้งขึ้นโดยคุณ Satoshi Sakurada
ทั้งนี้ คุณ Satoshi Sakurada ได้ตั้งชื่อแบรนด์ เพื่อสื่อถึงความรักของเขา ที่มีต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม
ซึ่งคำว่า “MOS” มาจากอักษรตัวแรกของคำว่า ภูเขา มหาสมุทร และดวงอาทิตย์ในภาษาอังกฤษ
ซึ่งคำว่า “MOS” มาจากอักษรตัวแรกของคำว่า ภูเขา มหาสมุทร และดวงอาทิตย์ในภาษาอังกฤษ
M มาจากคำว่า “Mountain” หมายถึง การยืนหยัดมั่นคงดั่งขุนเขา
O มาจากคำว่า “Ocean” หมายถึง มีจิตใจที่กว้างและลึกเหมือนมหาสมุทร
S มาจากคำว่า “Sun” หมายถึง มีแพสชันหรือความหลงใหล เหมือนดวงอาทิตย์ที่ไม่เคยมอดไหม้
O มาจากคำว่า “Ocean” หมายถึง มีจิตใจที่กว้างและลึกเหมือนมหาสมุทร
S มาจากคำว่า “Sun” หมายถึง มีแพสชันหรือความหลงใหล เหมือนดวงอาทิตย์ที่ไม่เคยมอดไหม้
โดยเขาได้เปิดร้านแห่งแรกขึ้นที่เมืองนาริมาซึ กรุงโตเกียว ในปี 1972 หรือ 1 ปีหลังจากที่ McDonald's เข้ามาเปิดสาขาแรกในประเทศญี่ปุ่น ที่ย่านกินซะ กรุงโตเกียว
เนื่องจากคุณ Satoshi Sakurada ได้แรงบันดาลใจจากความชื่นชมในรสชาติแสนอร่อย ที่ลืมไม่ลงของเบอร์เกอร์ร้าน Tommy's ซึ่งเขาเคยลิ้มลองสมัยทำงานอยู่ที่สหรัฐอเมริกา
อีกทั้ง เขายังมีแนวคิดที่ว่าเมนูที่เป็นไอคอนของอาหารอเมริกันอย่างเบอร์เกอร์ วันหนึ่งน่าจะกลายเป็นที่นิยมในหมู่เพื่อนร่วมชาติของเขา
นี่เองจึงเป็นจุดเริ่มต้น ที่ทำให้คุณ Satoshi Sakurada ลาออกจากงานที่ประเทศญี่ปุ่นและบินกลับไปสหรัฐอเมริกาอีกครั้ง เพื่อเรียนรู้ปรัชญาในการดำเนินธุรกิจจากคุณ Tommy Koulax เจ้าของร้าน Tommy's ซึ่งจริง ๆ แล้ว ก็ไม่ได้มีทำเลที่ดีในตัวเมืองลอสแอนเจลิส แต่กลับดำเนินธุรกิจได้อย่างไม่ติดขัด
ต่อมา คุณ Satoshi Sakurada จึงได้กลับมาเปิดร้าน MOS Burger สาขาแรกในประเทศญี่ปุ่น ด้วยรสชาติเบอร์เกอร์ที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ผ่านการนำเสนอวัฒนธรรมการกินในรสชาติสไตล์ญี่ปุ่น
ซึ่งแม้ว่าร้านจะไม่ได้ตั้งอยู่ในทำเลทองของโตเกียว แต่เขาก็ได้เรียนรู้จากปรัชญาของ Tommy's แล้วว่า
“ตำแหน่งของร้านไม่เกี่ยวกับรสชาติความอร่อย”
“ตำแหน่งของร้านไม่เกี่ยวกับรสชาติความอร่อย”
แบรนด์จึงให้ความสำคัญต่อแนวคิดเกี่ยวกับ “รสชาติความอร่อย ความสะอาดปลอดภัย ถูกสุขอนามัยและสุขภาพ” พร้อมทั้ง “บริการด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ร่าเริงแจ่มใส และจริงใจ”
หลังจากนั้น MOS Burger ก็ได้กลายเป็นแบรนด์เบอร์เกอร์ที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว และมีการขยายร้านแบบแฟรนไชส์ทั่วประเทศในเวลาต่อมา รวมถึงเปิดสาขาแรกในต่างประเทศ ที่ไต้หวัน ในปี 1991
ปัจจุบัน MOS Burger ทำตลาดแบ่งเป็นสาขาในประเทศญี่ปุ่น 75% และสาขาที่ต่างประเทศอีก 25%
โดยข้อมูล ณ สิ้นเดือนมีนาคม ปี 2021 แบรนด์มีหน้าร้านอยู่ 1,260 สาขาใน 47 จังหวัดทั่วประเทศญี่ปุ่น และอีก 421 สาขาใน 9 ประเทศทั่วโลก ได้แก่ ไต้หวัน, สิงคโปร์, ฮ่องกง, ไทย, อินโดนีเซีย, จีน, ออสเตรเลีย, เกาหลีใต้ และฟิลิปปินส์
สำหรับยอดขายของ MOS Burger รอบสิ้นสุดเดือนมีนาคม
ปี 2017 รายได้อยู่ที่ 20,380 ล้านบาท
ปี 2018 รายได้อยู่ที่ 20,512 ล้านบาท
ปี 2019 รายได้อยู่ที่ 19,040 ล้านบาท
ปี 2020 รายได้อยู่ที่ 19,822 ล้านบาท
ปี 2021 รายได้อยู่ที่ 20,680 ล้านบาท
ปี 2018 รายได้อยู่ที่ 20,512 ล้านบาท
ปี 2019 รายได้อยู่ที่ 19,040 ล้านบาท
ปี 2020 รายได้อยู่ที่ 19,822 ล้านบาท
ปี 2021 รายได้อยู่ที่ 20,680 ล้านบาท
อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนอาจสงสัยกันแล้วว่า อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ MOS Burger ประสบความสำเร็จ ?
แน่นอนว่าหัวใจสำคัญของ MOS Burger ก็คือ “คุณภาพอาหาร”
เริ่มตั้งแต่ “การคัดสรรวัตถุดิบและส่วนประกอบ” อย่างพิถีพิถัน โดยการใช้วัตถุดิบที่มีความสดใหม่ เช่น ผักสดที่ไม่ใช้ยาฆ่าแมลงและปุ๋ยเคมี, ใช้น้ำมันถั่วเหลืองชนิดกรดไขมันไม่อิ่มตัว, ใช้แป้งข้าวเจ้า และแป้งขนมปังสดสำหรับชุบของทอด
รวมถึงการเลือกใช้เครื่องปรุงรสที่มีคุณภาพ ตามสูตรดั้งเดิมของญี่ปุ่น ทําให้ได้รสชาติความอร่อยตํารับญี่ปุ่นอย่างแท้จริง
อีกทั้ง MOS Burger ยังชูจุดเด่นในเรื่อง “ความสดใหม่” อย่างการปรุงเบอร์เกอร์แบบชิ้นต่อชิ้น หลังจากที่ลูกค้าสั่งเท่านั้น ไม่มีการทําเบอร์เกอร์ทิ้งไว้ล่วงหน้า เพื่อให้เบอร์เกอร์มีอุณหภูมิและรสชาติที่ดีที่สุด
ที่น่าสนใจคือ แบรนด์มีความพิเศษในการคิดค้นเมนูต่าง ๆ ที่ “สามารถผสมผสานวัฒนธรรมอาหาร” ระหว่างเบอร์เกอร์ของชาวอเมริกัน ให้เข้ากับรสชาติการปรุงอาหารสไตล์ญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว เช่น
“Teriyaki Burger” เบอร์เกอร์ที่ราดซอสเทริยากิ ซอสดั้งเดิมของญี่ปุ่น ที่ทำจากซอสเต้าเจี้ยวและซอสถั่วเหลือง หรือจะเป็น “Rice Burger” เบอร์เกอร์ที่ใช้ข้าวญี่ปุ่นมาแทนตัวขนมปัง
นอกจากนี้ แบรนด์ยังคอยพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ อีกมากมาย ตามความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะส่งมอบความสุข อาหารที่ดีต่อสุขภาพ และรสชาติความอร่อยให้กับลูกค้า
ดังวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจที่ระบุไว้ว่า “การทำให้ผู้คนมีความสุขผ่านอาหาร”
และสุดท้ายความรู้สึกดี ๆ เหล่านี้ ก็หวนกลับคืนสู่ MOS Burger
ส่งผลให้แบรนด์ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามายาวนาน และนำไปสู่ความสำเร็จอย่างมหาศาลนั่นเอง..
ส่งผลให้แบรนด์ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามายาวนาน และนำไปสู่ความสำเร็จอย่างมหาศาลนั่นเอง..
References:
-MOS Food Services, Inc. Annual Report 2021
-https://www.mos-th.com/en/aboutus/
-https://www.mos.co.jp/global/ir/financial_statements/0101
-https://franchisejapan.biz/story/2495/
-MOS Food Services, Inc. Annual Report 2021
-https://www.mos-th.com/en/aboutus/
-https://www.mos.co.jp/global/ir/financial_statements/0101
-https://franchisejapan.biz/story/2495/