รู้จัก สาวอายุ 26 ที่เป็นเจ้าของ โรงงานสกรีนผ้า ด้วยตัวเอง /โดย ลงทุนเกิร์ล

เราต่างรู้กันดีว่าหลายปีมานี้อุตสาหกรรมผ้าในประเทศไทยค่อนข้างซบเซา ชาวต่างชาติก็ต่างหนีหาย ถอนกำลังการผลิตไปประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากมีค่าแรงที่ถูกกว่า

ดังนั้นหลายโรงงานในประเทศไทย จึงต้องหันมาผลิตเสื้อผ้าให้กับคนในประเทศแทน

ซึ่งวันนี้ลงทุนเกิร์ลได้มีโอกาสสัมภาษณ์ คุณพรรณระพี พุกกะเจียม หรือคุณแพรว เจ้าของ Awesome Screen โรงงานสกรีนเสื้อ ที่เริ่มต้นจากห้องแถวเล็ก ๆ ให้กลายเป็นแบรนด์ที่มีคนจดจำ

แล้วเรื่องราวของโรงงาน Awesome Screen น่าสนใจอย่างไร ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง

Awesome Screen คือ โรงงานสกรีนและตัดเย็บเสื้อแบบครบวงจร ที่แค่เรามีไอเดียในหัว และการออกแบบคร่าว ๆ โรงงานก็สามารถสานต่องานของเราให้กลายเป็นเสื้อที่ใส่ได้จริง

ซึ่งไม่ว่างานที่ออกแบบมาจะมีรายละเอียดซับซ้อนแค่ไหน Awesome Screen ก็สามารถเนรมิตขึ้นมาให้ได้

ดังนั้นโรงงานนี้ จึงมักเป็นขวัญใจของคนรุ่นใหม่ที่มีไอเดีย แต่หาแหล่งผลิตไม่ได้
เพราะบางผลงานที่มีความซับซ้อน ก็มักถูกหลาย ๆ โรงงานปฏิเสธ เนื่องจากความยากและคิดว่าไม่คุ้มค่ากับเวลา

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้กลับกลายเป็นจุดที่พิสูจน์ฝีมือ ทำให้ลูกค้าของ Awesome Screen ไม่ได้มีแค่นักศึกษาเท่านั้น แต่ยังได้กลุ่มลูกค้าตั้งแต่แม่ค้าตามตลาดนัด, แม่ค้าออนไลน์, บริษัทมหาชน รวมไปถึงค่ายเพลงจากต่างประเทศ

และสิ่งที่น่าสนใจก็คือ คุณแพรวเจ้าของโรงงาน Awesome Screen แห่งนี้มีอายุเพียง 26 ปีเท่านั้น

ซึ่งหากใครเป็นขาประจำ TikTok และชอบดูเรื่องราวเกี่ยวกับธุรกิจ SME อาจจะเคยคุ้นหน้าของคุณแพรวอยู่บ้าง เพราะเธอมักนำเสนอคอนเทนต์เรื่องอุตสาหกรรมเสื้อผ้า ไอเดียของธุรกิจโรงงาน รวมถึงความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการผลิตเสื้อผ้าสำหรับ SME มาฝากอยู่บ่อย ๆ

ปัจจุบัน Awesome Screen เดินทางมาถึงปีที่ 5 แล้ว และทำยอดขายแตะ 20 ล้านบาท จากกำลังของพนักงาน 40 คน

แต่กว่าที่โรงงาน Awesome Screen จะกลายเป็นที่รู้จักในวงการอุตสาหกรรมผ้าไทย โรงงานแห่งนี้เคยเริ่มต้นจากร้านสกรีนบนเคสมือถือเล็ก ๆ บนเว็บบอร์ด มาก่อน

โดยหากเราย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน การออกแบบลวดลายสกรีนบนเคสโทรศัพท์มือถือ ถือเป็นสินค้าแปลกใหม่ และเป็นที่นิยมมาก ๆ เนื่องจากตอนนั้นเป็นช่วงที่ iPhone เพิ่งเปิดตัวใหม่ ๆ

ซึ่งคุณแพรวก็เป็นหนึ่งในร้านสกรีนเคสมือถือเจ้าแรก ๆ ในตลาด
เธอเริ่มต้นธุรกิจตั้งแต่เรียนอยู่มัธยมศึกษา ปีที่ 3 เพราะต้องการหารายได้เสริม ระหว่างเรียนหนังสือ

แต่ในตอนนั้นร้านของคุณแพรวก็ยังเป็นร้านสกรีนเคสโทรศัพท์มือถือเล็ก ๆ ที่ไม่มีฐานการผลิตเป็นของตัวเอง ทำให้ต้องพึ่งโรงงานสกรีน ที่มีเครื่องจักรขนาดใหญ่ เป็นผู้ผลิตสินค้าให้

จนกระทั่งวันหนึ่ง ที่กิจการของคุณแพรวเติบโต มีออร์เดอร์ล้นมือ คุณแพรวจึงตัดสินใจลงทุนซื้อเครื่องจักรสำหรับสกรีนเป็นของตัวเอง เมื่อตอนเธอเรียนอยู่มหาวิทยาลัย ปีที่ 2

อย่างไรก็ตาม เมื่อมีเครื่องจักรขนาดใหญ่แล้ว จะสกรีนแต่เคสโทรศัพท์มือถืออย่างเดียว ก็คงไม่คุ้มค่า คุณแพรวจึงนำมาต่อยอด และเพิ่มบริการ อย่างการรับสกรีนลงบนเสื้อเข้ามาด้วย

และการต่อยอดนี้เอง ที่เป็นจุดเริ่มต้นของโรงงาน Awesome Screen ที่รับสกรีนเสื้อผ้า ก่อนจะค่อย ๆ ขยายมาสู่การตัดเย็บเสื้อผ้าแบบครบวงจรอย่างในปัจจุบัน

ซึ่งช่วง 2 ปีแรก ทีมงานในโรงงาน มีเพียงคนเดียวเท่านั้น ก็คือคุณแพรว หลังจากนั้นจึงเพิ่มช่างตัดเย็บ ที่เป็นคนในชุมชนละแวกโรงงานเข้ามา

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าคุณแพรวเริ่มต้นธุรกิจตั้งแต่อายุยังน้อย ทำให้เธอต้องดูแลพนักงานที่มีอายุมากกว่า หรืออายุใกล้ ๆ กัน และก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่จะถูกคนที่โตกว่า กังขาในความสามารถ

ในช่วงแรก ๆ คุณแพรวเอง ก็ยอมรับว่าลำบากในการควบคุมพนักงาน รวมทั้งปัญหาหลัก ๆ ที่คุณแพรวเจอ เริ่มตั้งแต่ “ปัญหาทางสังคมพื้นฐาน” ของแรงงาน

โดยพนักงานส่วนใหญ่ของโรงงาน มักจะมาจากในชุมชนแออัด ที่ประสบปัญหาด้านหนี้สิน, การพนัน หรือบางครั้งก็ลุกลามไปถึงเรื่องยาเสพติด

ดังนั้นคุณแพรวจึงปรับเปลี่ยนวิธีการบริหารพนักงานใหม่ ที่ไม่ใช่เพียงดูแลพนักงานแค่ผิวเผินเท่านั้น แต่เธอยังต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตของพนักงานอีกด้วย

คุณแพรวถือคติว่า “พนักงานต้องมีกิน มีใช้ และอยู่สบาย” ดังนั้นพนักงานทุกคนจะต้องได้รับค่าแรงที่สมเหตุสมผล โดยไม่กดขี่แรงงานทั้งสภาพกายและสภาพใจ

นอกจากเรื่องของรายได้แล้ว การใส่ใจพนักงาน ยังเป็นการช่วยเพิ่มแรงใจให้พนักงานด้วยเช่นกัน

ดังนั้นคุณแพรวจึงมักจะไม่ลืมมอบของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือจัดงานวันเกิดให้พนักงาน หรือรวมไปถึงครอบครัวของพนักงาน

ซึ่งองค์ประกอบทั้งหมดนี่เองที่ทำให้แรงงานรู้สึกมีคุณค่า รวมถึงภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในองค์กร
และหากแรงงานมีความสุข องค์กรก็จะมีบรรยากาศที่ดีได้ด้วย

แล้วร้าน Awesome Screen ปรับตัวอย่างไรในอุตสาหกรรมเสื้อผ้าที่ซบเซา ?

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า Awesome Screen พยายามไม่ปฏิเสธงานลูกค้า แม้ว่านั่นจะมีดีไซน์ที่ซับซ้อน เนื่องจากคุณแพรวยึดมั่นว่า พนักงานทุกคนจะไม่ติการออกแบบของลูกค้าโดยเด็ดขาด

แต่นอกจากเรื่องการออกแบบแล้ว “การบริการ” ก็เป็นสิ่งที่โดดเด่นไม่แพ้กัน

เนื่องจาก Pain Point หลัก ๆ ของลูกค้าเมื่อก่อน ก็คือ “ความเข้าถึงยาก” เพราะโรงงานมักจะไม่ค่อยให้คำแนะนำ หรืออธิบายรายละเอียดยิบย่อย เนื่องจากมองเป็นเรื่องที่เสียเวลา

พอยิ่งเป็นแม่ค้ามือใหม่แล้ว ข้อมูลและขั้นตอนการผลิตเสื้อผ้าสักชิ้น ก็ดูจะเป็นเรื่องที่ไกลตัวอย่างมาก

ดังนั้น เพื่อเป็นการลดช่องว่างระหว่างโรงงานกับลูกค้า คุณแพรวจึงตั้งใจสร้างโรงงานผลิตเสื้อแบบครบวงจร
ที่มีบริการตั้งแต่ช่วยออกแบบรูปกราฟิกที่สวยงาม ไปจนถึงการบรรจุสินค้าลงในถุงพร้อมส่ง

ซึ่งตลอดทุกขั้นตอน จะมีพนักงานคอยให้คำแนะนำ และตอบคำถามอย่างใกล้ชิด

รวมถึงจะมีการผลิตคอนเทนต์อธิบายรายละเอียดต่าง ๆ เช่น ข้อมูลผ้า, อุปกรณ์ และขบวนการผลิตทีละขั้น ๆ เพื่อให้ลูกค้าเข้าใจรายละเอียดได้ทั้งหมด

ต่อมา “ปรับกลยุทธ์การตลาด”

หลังจากเกิดวิกฤติโรคระบาด ในปี 2020 หลายบริษัทต้องจำกัดงบประมาณค่าใช้จ่ายที่รัดกุมขึ้น ส่งผลให้การผลิตเสื้อในปริมาณมาก ๆ แบบ B2B ลดน้อยลง

ดังนั้นการที่จะอยู่รอดในสถานการณ์นี้ก็คือ การหันมาเน้นการขายแบบ B2C ซึ่งคุณแพรวก็สามารถปรับตัวผลิตออร์เดอร์เล็ก ๆ

ไม่ว่าสินค้าจะมีปริมาณน้อยแค่ไหน หรือจะเริ่มต้นที่หลักหน่วย โรงงาน Awesome Screen ก็พร้อมผลิตสินค้าให้กับลูกค้า ตรงข้ามกับโรงงานส่วนใหญ่ ที่มักรับทำสินค้าขั้นต่ำที่หลักพันตัว

แต่สำหรับเรื่องนี้คุณแพรวกลับคิดว่า หากนี่สามารถเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ เริ่มต้นทำธุรกิจได้ เธอก็คิดว่ามันคุ้มค่าที่จะทำให้

สิ่งสุดท้าย คือ “ความจริงใจ” และ “ความโปร่งใส”

ตั้งแต่วัสดุ, อุปกรณ์, ประเภทผ้า และคุณภาพของสินค้าทุกชิ้นที่ผลิตให้ลูกค้าจะต้องมีความโปร่งใส และตรวจสอบได้ว่าตรงตามมาตรฐานที่บอกไว้หรือไม่

หรือแม้แต่ถ้าโรงงานไม่มีผ้าตามแบบที่ลูกค้าต้องการ คุณแพรวก็จะบอกกับลูกค้าตรง ๆ รวมถึงบอกแหล่งที่ลูกค้าสามารถหาซื้อผ้าชนิดนั้น ๆ และจะไม่ย้อมแมว ขายผ้าที่ไม่มีคุณภาพให้ลูกค้าเด็ดขาด

อ่านมาถึงตรงนี้ ลงทุนเกิร์ลก็หวังว่า แม่ค้าหลาย ๆ คนที่กำลังจะเริ่มต้น ก้าวเข้ามาสู่อุตสาหกรรมเสื้อผ้า จะได้รับไอเดียในการปรับตัวธุรกิจ เพื่อไปต่อยอดกับธุรกิจของตัวเองนะคะ

Reference:
-สัมภาษณ์ตรงกับ คุณพรรณระพี พุกกะเจียม ผู้ก่อตั้ง Awesome Screen