Entertainment
<อัปเดต> Tinder ออกฟีเชอร์ “Plus One” สำหรับคนอยากหา “คู่เดต” ควงไปงานแต่งงาน
15 ต.ค. 2021
<อัปเดต> Tinder ออกฟีเชอร์ “Plus One” สำหรับคนอยากหา “คู่เดต” ควงไปงานแต่งงาน
ล่าสุด Tinder ประกาศออกฟีเชอร์ “Plus One” เพื่อเข้ามาตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่แค่อยากหา “คู่เดต” ควงไปงานแต่งงาน ตอบโจทย์ช่วงสิ้นปี ซึ่งเป็นถือเป็นฤดูกาลของการแต่งงาน
ล่าสุด Tinder ประกาศออกฟีเชอร์ “Plus One” เพื่อเข้ามาตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่แค่อยากหา “คู่เดต” ควงไปงานแต่งงาน ตอบโจทย์ช่วงสิ้นปี ซึ่งเป็นถือเป็นฤดูกาลของการแต่งงาน
โดยฟีเชอร์นี้ สามารถเข้าถึงได้ในหน้า Explore ภายในแอปฯ Tinder ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนที่แล้ว
ซึ่งใช้ในการนำเสนอวิธีการใหม่ ๆ ที่จะจับคู่กับคนที่น่าจะเข้ากันได้จากความสนใจส่วนตัวและอื่น ๆ
ซึ่งใช้ในการนำเสนอวิธีการใหม่ ๆ ที่จะจับคู่กับคนที่น่าจะเข้ากันได้จากความสนใจส่วนตัวและอื่น ๆ
ทั้งนี้ ทาง Tinder ยังมีการร่วมมือกับ WeddingWire บริษัทรับจัดงานแต่งงาน เพื่อช่วยสนับสนุนทุนการแต่งงานให้ผู้ใช้บริการแต่ละคู่ ผ่านโครงการ “Wedding Grant”
ซึ่งโครงการดังกล่าว จะเริ่มตั้งแต่วันนี้ โดยที่ผู้ใช้บริการฟีเชอร์ “Plus One” 100 คู่แรกบน Tinder
จะได้รับเงินสนับสนุน 460 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว ๆ 15,300 บาท
จะได้รับเงินสนับสนุน 460 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว ๆ 15,300 บาท
โดยวงเงินนี้ครอบคลุมไปถึงค่าเดินทางไปงานแต่งงาน ของขวัญวันแต่งงาน และที่พัก
ซึ่งไอเดียของฟีเชอร์และโครงการ “Wedding Grant” นี้ ก็มาจากการที่ Tinder เห็นว่าผู้ใช้แอปฯ จำนวนมาก ไม่ได้มีความต้องการแค่เพียงออกเดตแก้เหงาเฉย ๆ เท่านั้น แต่พวกเขาอยากมีคู่ควงไปงานแต่งงานด้วย
สังเกตได้จากการระบุ “Plus one” หรือการหาคู่ไปงานแต่ง ในหน้าประวัติส่วนตัว ที่พุ่งสูงขึ้นถึง 45% นับตั้งแต่ต้นปี ซึ่งข้อความนี้จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาคนที่มีความยินยอมตรงกันได้
นอกจากนี้ ทาง Tinder ยังได้มีการร่วมมือกับ Lyft แพลตฟอร์มให้บริการรับ-ส่งและเช่ารถในสหรัฐฯ ให้ผู้ใช้งานสามารถจ่ายเงินจองรถสำหรับการเดตไว้ล่วงหน้าได้
โดยที่ไม่ได้มีการขอให้ผู้ใช้งานต้องแลกเปลี่ยนที่อยู่ส่วนตัวแต่อย่างใด แต่จะเป็นการส่งหลักฐานยืนยันในการเดต และจองรถไปเที่ยวร่วมกัน
เรียกได่ว่า เป็นอีกหนึ่งการปรับตัวของ Tinder ท่ามกลางสมรภูมิแพลตฟอร์มหาคู่ ที่พอได้รับความนิยมมาขึ้นเรื่อย ๆ การต่อสู้ระหว่างคู่แข่งจึงดุเดือดขึ้นเช่นกัน
ซึ่งเรื่องนี้ ส่วนหนึ่งก็น่าจะเป็นเพราะ พอยุคสังคมเปลี่ยนไป ทั้งจากโรคระบาด และเทคโนโลยีที่พัฒนาไปไกล ส่งผลให้เราโฟกัสอยู่แต่กับหน้าจอได้ทั้งวัน การพบเจอผู้คนหน้าใหม่ ๆ ที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตจึงน้อยลงไปด้วย
จนท้ายที่สุดต้องหาหนทางไปรู้จักกันบนโลกออนไลน์
ตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไปนั่นเอง..
ตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไปนั่นเอง..
References: