Economy
<อัปเดต> รัฐบาลจีนเตรียมแก้ปัญหา “วิกฤติคนไม่แต่งงาน” ด้วยการโน้มน้าว ให้ผู้หญิงกลับไปแต่งงานที่บ้านเกิด
14 ต.ค. 2021
<อัปเดต> รัฐบาลจีนเตรียมแก้ปัญหา “วิกฤติคนไม่แต่งงาน” ด้วยการโน้มน้าว ให้ผู้หญิงกลับไปแต่งงานที่บ้านเกิด
หลังจากที่ประเทศจีน ประสบปัญหาความไม่สมดุลระหว่าง สัดส่วนของประชากรเพศชายและหญิง จากนโยบาย “ลูกคนเดียว” ในอดีต ซึ่งลุกลามกลายเป็นปัญหาที่ผู้ชายในชนบท ไม่สามารถหาคู่แต่งงานได้
ล่าสุด ทางรัฐบาลจีนจึงเตรียมออกแคมเปญรณรงค์ให้ผู้หญิงโสดชาวจีนในท้องถิ่น แต่งงานกับชายโสดในพื้นที่บ้านเกิดเดียวกัน เพื่อแก้ไขปัญหา “วิกฤติอัตราการแต่งงานตกต่ำ”
โดยอ้างอิงจากบทความเรื่อง “มาตรการอุ่นเตียง” บนเว็บไซต์ ที่เปิดเผยโดยพรรคคอมมิวนิสต์ท้องถิ่น กล่าวถึงความท้าทายด้านการหาภรรยา ของผู้ชายที่อาศัยอยู่ในชนบท
ซึ่งเรื่องนี้ก็ไม่ได้เป็นแค่ปัญหาเฉพาะบุคคลแล้ว แต่กลายเป็นปัญหาใหญ่ในภาพรวมด้วย
ดังนั้นรัฐบาลจึงมีการเสนอมาตรการนี้ โดยประกอบไปด้วย 4 ประเด็นหลัก คือ
การเพิ่มโฆษณาชวนเชื่อ ที่ทำให้หญิงสาวในท้องถิ่นไม่อยากย้ายออกจากพื้นที่ชนบทเดิมจัดการกระบวนการด้านเอกสาร สำหรับคนที่ต้องการอยู่ในท้องถิ่นเดิม ให้ง่ายและสะดวกขึ้นเพิ่มบริการจัดการคู่เพิ่มโอกาสการจ้างงานและค่าแรงในพื้นที่
โดยมีจุดประสงค์เพื่อต้องการให้หญิงสาวรู้สึกรักบ้านเกิดมากขึ้น, รู้สึกอยากกลับมาสร้างตัวและสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับบ้านเกิดของตนเอง
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ได้สร้างความไม่พอใจให้กับคนจำนวนมาก
เพราะหลังจากที่รายละเอียดของแคมเปญนี้กระจายออกไป ก็ทำให้เกิดกระแสการประชดประชัน เหน็บแนมเชิงไม่พอใจจำนวนมากบนโลกออนไลน์
รวมถึงถูกมองว่าเป็นการละเมิดสิทธิและเสรีภาพของผู้หญิงเป็นอย่างมาก
ตัวอย่างการวิจารณ์เรื่องนี้ เกิดขึ้นมากมายใน Weibo โซเชียลมีเดียของจีน
หญิงสาวรายหนึ่งกล่าวว่า “เพราะเราไม่ได้รับการศึกษา เลยต้องกลับบ้านเกิดเพื่อไปเป็นสะใภ้รับใช้”
หรือผู้ใช้บางรายกล่าวว่า “ฉันรู้สึกว่า ผู้หญิงที่อยู่ในพื้นที่อยู่แล้ว น่าจะอยากย้ายออกมาหลังจากได้ยินข้อเสนอนี้มากกว่า”
นอกจากนี้ หากมีใครที่เข้าสนับสนุนข้อเสนอดังกล่าว เขาก็จะถูกวิจารณ์บนโลกออนไลน์ไปด้วย
อย่างไรก็ดี เมื่อเกิดกระแสตอบกลับดังกล่าวมากมายต่อข้อเสนอนี้ ทางรัฐบาลจีนก็ได้ออกมาชี้แจงถึงข่าวที่กำลังเป็นประเด็นนี้ ว่าไม่ได้มีเจตนาจะบังคับผู้หญิง แต่เป็นความตั้งใจที่จะสนับสนุนให้อาศัยอยู่ในพื้นที่บ้านเกิดเท่านั้น
แล้วถ้าถามว่า วิกฤติการแต่งงานในจีนมีปัญหาขนาดไหน ทำไมรัฐบาลจีนถึงต้องออกข้อเสนอดังกล่าว ?
ข้อมูลจากกระทรวงกิจการพลเรือน (Ministry of Civil Affairs) เปิดเผยว่า
ปี 2020 ที่ผ่านมา มีการแต่งงานเกิดขึ้นในประเทศเพียง 8.13 ล้านคู่ ซึ่งลดลง 12% จากปีก่อน
ที่สำคัญคือ เรื่องนี้ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นมา แต่นับเป็นเวลากว่า 7 ปีแล้ว ที่อัตราการแต่งงานลดลงอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งต้นเหตุของเรื่องนี้ เกิดมาจาก “นโยบายลูกคนเดียว” ของประเทศจีน ที่ต้องการจะลดจำนวนประชากร ทำให้ประชาชนเลือกเพศของลูกที่จะเกิดมาเป็น “ผู้ชาย” เสียส่วนมาก ส่งผลให้เกิดความไม่สมดุลระหว่างเพศของประชากรในประเทศขึ้น
แล้วถ้าถามว่า ความไม่สมดุลนี้ มันรุนแรงขนาดไหน ?
ก็สามารถตอบได้เลยว่าประเทศจีนตอนนี้ มีประชากรเพศชาย มากกว่าเพศหญิงถึง 30 ล้านคน
และกลายเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความไม่สมดุลระหว่างเพศของประชากร มากที่สุดในโลกประเทศหนึ่งนั่นเอง
และกลายเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความไม่สมดุลระหว่างเพศของประชากร มากที่สุดในโลกประเทศหนึ่งนั่นเอง
โดยสถิติการเกิดของประเทศจีน มีอัตราการเกิดของผู้ชาย 114 คน ต่อผู้หญิง 100 คน
ในขณะที่ค่าเฉลี่ยของอัตราการเกิดทั่วโลก จะอยู่ที่เพศชาย 105 คน ต่อเพศหญิง 100 คน
ในขณะที่ค่าเฉลี่ยของอัตราการเกิดทั่วโลก จะอยู่ที่เพศชาย 105 คน ต่อเพศหญิง 100 คน
พอเห็นแบบนี้ ก็ไม่น่าแปลกใจว่าทำไมรัฐบาลจีน จึงต้องพยายามแก้ไขปัญหานี้อย่างสุดกำลัง
แต่ก็เป็นเรื่องที่น่าคิดไม่ตก ว่าแล้วสิทธิและเสรีภาพของหญิงสาว ที่ต้องการจะเลือกเส้นทางในชีวิตด้วยตนเอง จะมีเส้นทางอย่างไรต่อไป..
แต่ก็เป็นเรื่องที่น่าคิดไม่ตก ว่าแล้วสิทธิและเสรีภาพของหญิงสาว ที่ต้องการจะเลือกเส้นทางในชีวิตด้วยตนเอง จะมีเส้นทางอย่างไรต่อไป..