Business
Olio แอปแชร์อาหารเหลือให้เพื่อนบ้าน ที่ระดมทุนได้ 300 ล้าน
8 ก.ย. 2021
Olio แอปแชร์อาหารเหลือให้เพื่อนบ้าน ที่ระดมทุนได้ 300 ล้าน /โดย ลงทุนเกิร์ล
Zero Waste เป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจ และกำลังร่วมมือกันเพื่อหาทางออก
อย่างในเรื่องของ “อาหาร” ที่ต่อปี จะมีปริมาณกว่า 1,300 ล้านตัน ถูกทิ้งให้เน่าเสีย
ซึ่งอาหารจำนวนมากขนาดนี้ เพียงพอที่จะเลี้ยงคนได้เกือบ 3,000 ล้านคน เลยทีเดียว
อย่างในเรื่องของ “อาหาร” ที่ต่อปี จะมีปริมาณกว่า 1,300 ล้านตัน ถูกทิ้งให้เน่าเสีย
ซึ่งอาหารจำนวนมากขนาดนี้ เพียงพอที่จะเลี้ยงคนได้เกือบ 3,000 ล้านคน เลยทีเดียว
Olio เองก็เป็นหนึ่งในสตาร์ตอัป ที่ตระหนักได้ถึงปัญหาเหล่านี้ จึงมีการพัฒนาแอปพลิเคชันที่เปิดโอกาสให้คนสามารถแชร์อาหารกัน โดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ เลยแม้แต่บาทเดียว
ช่วยลดการทิ้งอาหารเหลือ ๆ ของแต่ละบ้าน และช่วยให้คนที่ต้องการอาหาร ได้มีอาหารทาน
ที่น่าสนใจคือ Olio ยังสามารถระดมเงินไปได้แล้วกว่า 330 ล้านบาท
แอปพลิเคชัน Olio น่าสนใจอย่างไร ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
จุดเริ่มต้นของแอปพลิเคชัน Olio นี้มาจากผู้ก่อตั้งสองคน ได้แก่ คุณ Tessa Clarke และคุณ Saasha Celestial
โดยเจ้าของไอเดียก็คือคุณ Tessa Clarke ที่เติบโตมาจากครอบครัวที่ทำธุรกิจด้านผลิตภัณฑ์จากนม
ทำให้ตั้งแต่เด็กเธอได้เห็นขั้นตอนในการเก็บเกี่ยว และผลิตวัตถุดิบต่าง ๆ นั้นลำบากมากแค่ไหน ส่งผลให้เธอกลายเป็นคนที่เห็นคุณค่าของอาหารทุก ๆ อย่าง
ทำให้ตั้งแต่เด็กเธอได้เห็นขั้นตอนในการเก็บเกี่ยว และผลิตวัตถุดิบต่าง ๆ นั้นลำบากมากแค่ไหน ส่งผลให้เธอกลายเป็นคนที่เห็นคุณค่าของอาหารทุก ๆ อย่าง
ซึ่งไอเดียของแอปพลิเคชันแชร์อาหารนี้ก็เกิดขึ้น เมื่อตอนที่เธอกำลังจะย้ายออกจากหอพัก แล้วพบว่าในตู้เย็นของเธอมีอาหารเหลืออยู่หลายอย่าง
และเป็นที่น่าเสียดายที่ในตอนนั้นเธอก็ต้องจำใจทิ้งอาหารทุกอย่างไป เพราะไม่รู้จะเอาไปให้ใคร
ครั้นจะให้ไปเคาะตามห้องข้าง ๆ เพื่อถามก็อาจจะไม่เหมาะสมนัก เนื่องจากเธอก็ไม่ได้สนิทกับพวกเขา
ในขณะเดียวกันอาหารที่เอาไปให้ก็อาจจะไม่ตรงกับความต้องการของคนเหล่านั้น และจะทำให้
สถานการณ์ตอนนั้นน่าอึดอัดเสียมากกว่า
ครั้นจะให้ไปเคาะตามห้องข้าง ๆ เพื่อถามก็อาจจะไม่เหมาะสมนัก เนื่องจากเธอก็ไม่ได้สนิทกับพวกเขา
ในขณะเดียวกันอาหารที่เอาไปให้ก็อาจจะไม่ตรงกับความต้องการของคนเหล่านั้น และจะทำให้
สถานการณ์ตอนนั้นน่าอึดอัดเสียมากกว่า
ตอนนั้นเองคุณ Tessa Clarke ก็มีความคิดว่า มันคงจะดี ถ้ามีแอปพลิเคชัน
ที่ให้เราสามารถแชร์อาหารและหาคนที่กำลังต้องการอาหารแบบเดียวกันได้
ที่ให้เราสามารถแชร์อาหารและหาคนที่กำลังต้องการอาหารแบบเดียวกันได้
ซึ่งเธอก็ได้บอกไอเดียนี้กับคนรอบตัว แต่ก็ไม่มีใครสนใจนอกจากคุณ Saasha Celestial
หนึ่งในเพื่อนสนิทของคุณ Tessa Clarke ที่เมื่อได้ฟังก็ชื่นชอบไอเดียนี้เป็นอย่างมาก
หนึ่งในเพื่อนสนิทของคุณ Tessa Clarke ที่เมื่อได้ฟังก็ชื่นชอบไอเดียนี้เป็นอย่างมาก
เพราะคุณ Saasha Celestial นั้นเติบโตมาจากครอบครัวที่มีฐานะไม่ดีมากนัก ทำให้เธอเข้าใจดี
ว่าอาหารเหล่านี้นั้นจะช่วยคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ประสบปัญหาด้านอาหารได้เป็นอย่างดี
ว่าอาหารเหล่านี้นั้นจะช่วยคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ประสบปัญหาด้านอาหารได้เป็นอย่างดี
ทำให้ในปี 2015 คุณ Tessa Clarke และคุณ Saasha Celestial จึงได้มาร่วมมือกัน
และกลายเป็นจุดกำเนิดของแอปพลิเคชันแชร์อาหารชื่อ Olio และเปิดตัวในปีเดียวกัน
และกลายเป็นจุดกำเนิดของแอปพลิเคชันแชร์อาหารชื่อ Olio และเปิดตัวในปีเดียวกัน
แล้วการทำงานของแอปพลิเคชัน Olio เป็นอย่างไร ?
ผู้ใช้งานแอปพลิเคชันจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ “ผู้ที่จะแชร์อาหาร” และ “ผู้ที่หาอาหาร”
โดยผู้ที่จะแชร์อาหารนั้นสามารถโพสต์รูปอาหาร และบอกรายละเอียดอาหารลงในแอปพลิเคชัน จากนั้นก็รอให้ผู้ที่สนใจในอาหารเดียวกันทักแช็ตมาหา
ซึ่งทั้งคู่ก็สามารถอ่านรีวิวหรือประวัติ รวมถึงรายละเอียดของคนที่ตนสนใจ เพื่อเช็กความปลอดภัยได้ทั้งสองฝ่าย
และเมื่อตกลงกันได้ ก็สามารถตกลงสถานที่นัดรับอาหารได้เลย
ซึ่งปัจจุบันไม่ได้มีแค่อาหารเท่านั้นที่ถูกแชร์ผ่านแอปพลิเคชันนี้ แต่ของใช้ต่าง ๆ
เช่น แชมพู ซอสที่เหลือจากการสั่งอาหาร ก็ถูกนำเอามาแชร์ด้วยเช่นกัน
เช่น แชมพู ซอสที่เหลือจากการสั่งอาหาร ก็ถูกนำเอามาแชร์ด้วยเช่นกัน
หลายคนเมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ก็อาจจะเกิดข้อสงสัยว่า แล้วแบบนี้แอปพลิเคชัน
จะมีรายได้จากส่วนไหน ในเมื่อตัวแอปพลิเคชันก็เป็นเหมือนแค่ “ตัวกลาง” เท่านั้น
จะมีรายได้จากส่วนไหน ในเมื่อตัวแอปพลิเคชันก็เป็นเหมือนแค่ “ตัวกลาง” เท่านั้น
ซึ่งเมื่อเรามาลองดูรูปแบบการทำงานของแอปพลิเคชัน Olio แล้ว ก็ไม่ได้ต่างจากแอปพลิเคชันอื่น ๆ อย่าง
Airbnb หรือ Grab ที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลาง หรือเป็นธุรกิจแบบ Sharing Economy
Airbnb หรือ Grab ที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลาง หรือเป็นธุรกิจแบบ Sharing Economy
อย่าง Airbnb ก็เปิดให้คนที่มีห้องว่างเหลือ ๆ มาปล่อยเช่าเป็นที่พัก
กับผู้ที่กำลังมองหาห้องพักราคาถูก และได้อยู่กันแบบ Local เป็นต้น
โดยบริษัทก็จะได้รายได้จากการหักค่าใช้จ่ายจากราคาห้องที่พัก
กับผู้ที่กำลังมองหาห้องพักราคาถูก และได้อยู่กันแบบ Local เป็นต้น
โดยบริษัทก็จะได้รายได้จากการหักค่าใช้จ่ายจากราคาห้องที่พัก
โดยทาง Olio เองนอกจากจะมีบริการสำหรับแชร์อาหารแบบไม่เสียค่าใช้จ่ายแล้ว
ก็ยังมีบริการขายอาหาร หรือสินค้าประเภทอื่น ๆ บนแอปพลิเคชันด้วยเช่นกัน
ก็ยังมีบริการขายอาหาร หรือสินค้าประเภทอื่น ๆ บนแอปพลิเคชันด้วยเช่นกัน
เช่น บ้านไหนที่ทำอาหาร หรือซื้อของมามากเกินที่ตัวเองใช้ ก็สามารถใช้ Olio
เป็นตัวกลางเพื่อหาคนที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง และต้องการของประเภทเดียวกันเพื่อซื้อขายได้
เป็นตัวกลางเพื่อหาคนที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง และต้องการของประเภทเดียวกันเพื่อซื้อขายได้
และไม่ใช่แค่คนทั่วไปเท่านั้นที่สามารถใช้พื้นที่ตรงนี้ เพราะร้านอาหารตามเมืองต่าง ๆ
ที่ต้องการหาพื้นที่ในการปล่อยอาหารที่ขายไม่หมด ก็สามารถเข้ามาใช้บริการได้
ที่ต้องการหาพื้นที่ในการปล่อยอาหารที่ขายไม่หมด ก็สามารถเข้ามาใช้บริการได้
ซึ่ง Olio ก็จะได้ส่วนแบ่งรายได้จากคนที่มาขายของในแอปพลิเคชัน
นอกจากนั้นในอนาคตทาง Olio มีแผนจะเพิ่มช่องทางรายได้ อย่างการเก็บค่าสมาชิก เพื่อแลกกับการเข้าถึงฟีเชอร์พิเศษอื่น ๆ ในแอปพลิเคชัน
โดยปัจจุบันอาหารจำนวนกว่า 20 ล้านชิ้น และน้ำดื่มอีก 4,000 ลิตร ถูกแชร์ผ่านแอปพลิเคชัน Olio
จากผู้ใช้งานจำนวนกว่า 4 ล้านคนใน 49 ประเทศทั่วโลก
จากผู้ใช้งานจำนวนกว่า 4 ล้านคนใน 49 ประเทศทั่วโลก
และด้วยความน่าสนใจของ Olio ก็ทำให้นับจนถึงปัจจุบัน ผู้ก่อตั้งทั้งสองสามารถระดมทุนมาเพื่อพัฒนาแอปพลิเคชัน รวมได้กว่า 330 ล้านบาทแล้ว
ซึ่งเมื่อหันกลับมามองประเทศไทยเอง ก็มีแอปพลิเคชันที่คอนเซปต์คล้าย ๆ กันอยู่บ้าง เช่น Yindii ที่เปิดให้ร้านอาหาร สามารถนำอาหารที่ขายไม่หมดมาลงขายบนแอปพลิเคชันในราคาถูกได้
และถ้าอยากจะทำแบบแอปพลิเคชัน Olio ก็ดูไม่ใช่เรื่องที่จะทำไม่ได้เลย เพราะจริง ๆ วัฒนธรรมไทยเราก็มีการพึ่งพาอาศัยกันระหว่างบ้านใกล้เรือนเคียงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
เพียงแต่พอมาอยู่ในสังคมเมือง โดยเฉพาะการอาศัยในคอนโดมิเนียม เรื่องเหล่านี้ก็อาจจะพบได้น้อยลง ซึ่งถ้ามีแอปพลิเคชันตัวกลางขึ้นมา ก็คงจะช่วยให้เรื่องเหล่านี้เกิดโดยที่ทั้งผู้ให้และผู้รับไม่ต้องรู้สึกเขิน
ที่สำคัญ นอกจากจะเป็นการลด “ขยะ” ที่จะเกิดขึ้นแล้ว
ก็ยังอาจเป็นจุดเริ่มต้นให้คนในชุมชน ได้ทำความรู้จักกันมากขึ้นด้วย
ก็ยังอาจเป็นจุดเริ่มต้นให้คนในชุมชน ได้ทำความรู้จักกันมากขึ้นด้วย
References:
-https://cubii.co/en/global-food-waste-statistics-2020/#:~:text=Global%20food%20waste%20statistics%3A,Organization%20of%20the%20United%20Nations.
-https://www.powersmethai.com/sme-article/sharing-economy-business-trend/
-https://olioex.com/about/our-story/
-https://www.uktech.news/news/olio-grabs-6m-to-tackle-food-waste-in-local-communities-20180711
-https://en.wikipedia.org/wiki/Olio_(app)
-https://cubii.co/en/global-food-waste-statistics-2020/#:~:text=Global%20food%20waste%20statistics%3A,Organization%20of%20the%20United%20Nations.
-https://www.powersmethai.com/sme-article/sharing-economy-business-trend/
-https://olioex.com/about/our-story/
-https://www.uktech.news/news/olio-grabs-6m-to-tackle-food-waste-in-local-communities-20180711
-https://en.wikipedia.org/wiki/Olio_(app)