
Business
Calligraphy ศิลปะการเขียน ที่ทำเนียบขาว ยอมจ่าย 8 ล้านบาทต่อปี
19 มิ.ย. 2021
Calligraphy ศิลปะการเขียน ที่ทำเนียบขาว ยอมจ่าย 8 ล้านบาทต่อปี /โดย ลงทุนเกิร์ล
Calligraphy (คัลลิกราฟี) คือ งานศิลปะการเขียนที่มีความบรรจงสวยงาม
หรือที่เรียกว่างาน “อักษรวิจิตร” ในภาษาไทย
ซึ่งงานเหล่านี้เรามักจะเห็นคนเขียนผ่านโลกออนไลน์
อย่าง YouTube, Pinterest และ Instagram บ่อย ๆ
หรือที่เรียกว่างาน “อักษรวิจิตร” ในภาษาไทย
ซึ่งงานเหล่านี้เรามักจะเห็นคนเขียนผ่านโลกออนไลน์
อย่าง YouTube, Pinterest และ Instagram บ่อย ๆ
แต่รู้หรือไม่ว่า อาชีพที่เขียนงานเหล่านี้เอง ก็มีคนที่ให้ความสำคัญและยินดีที่จะมอบค่าตอบแทนที่สูง
ไม่ต่างจากตำแหน่งใหญ่ ๆ ในบางองค์กรเลย
ไม่ต่างจากตำแหน่งใหญ่ ๆ ในบางองค์กรเลย
อย่าง White House ทำเนียบรัฐบาลของสหรัฐอเมริกา
จ่ายเงินกว่า 8 ล้านบาทต่อปีให้กับงานเขียนอักษรวิจิตรเหล่านี้
จ่ายเงินกว่า 8 ล้านบาทต่อปีให้กับงานเขียนอักษรวิจิตรเหล่านี้
สงสัยกันแล้วใช่หรือไม่คะ Calligraphy จะกลายมาเป็นอาชีพได้อย่างไร ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
Calligraphy มาจากภาษากรีกโบราณ ที่แปลว่า “การเขียนที่สวยงาม”
ซึ่งไม่ใช่แค่การคัดลายมือเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
แต่เปรียบเสมือนงานฝีมือ หรืองานศิลปะจำพวกวิจิตรศิลป์
ที่ผ่านความคิดสร้างสรรค์ และการเขียนอย่างประณีต
ซึ่งไม่ใช่แค่การคัดลายมือเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
แต่เปรียบเสมือนงานฝีมือ หรืองานศิลปะจำพวกวิจิตรศิลป์
ที่ผ่านความคิดสร้างสรรค์ และการเขียนอย่างประณีต
โดยที่ผ่านมา เราอาจจะเคยเห็นงานเหล่านี้ผ่านโลโก ภาพงานศิลปะ หรือการ์ดเชิญในงานต่าง ๆ
ซึ่งมีช่วงหนึ่งที่การเขียน Calligraphy เป็นกระแสอย่างมาก จนหลายคนเริ่มหันมาแสดงผลงานการเขียนตัวอักษรเหล่านี้ลงบนช่องทาง YouTube
ทำให้บางคนเริ่มมองงาน Calligraphy เป็นเหมือนกับงานอดิเรก หรือทำเป็นอาชีพเสริมเสียมากกว่า
ซึ่งจริง ๆ แล้วอาชีพ Calligrapher หรือนักประดิษฐ์อักษรนั้น ก็เป็นที่ต้องการในแบรนด์หรู
และเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ทำรายได้สูงมากเช่นกัน
และเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ทำรายได้สูงมากเช่นกัน
อ้างอิงจาก CareerExplorer เว็บไซต์หางานในสหรัฐอเมริกา อาชีพนักประดิษฐ์อักษรนั้น
สามารถทำเงินได้ประมาณ 2 ล้านบาทต่อปี
สามารถทำเงินได้ประมาณ 2 ล้านบาทต่อปี
โดยศิลปะการเขียนตัวอักษรเหล่านี้ มักจะถูกพบในการ์ดเชิญสำหรับงานสังสรรค์
หรือ Exclusive Event ของแบรนด์หรูต่าง ๆ เช่น Chanel, Dior, Louis Vuitton
และอีกหลายแบรนด์หรูชั้นนำ
หรือ Exclusive Event ของแบรนด์หรูต่าง ๆ เช่น Chanel, Dior, Louis Vuitton
และอีกหลายแบรนด์หรูชั้นนำ
มาถึงตรงนี้บางคนอาจสงสัยว่าทำไมอาชีพ Calligrapher ถึงยังเป็นที่ต้องการ
ทั้ง ๆ ที่ปัจจุบัน เราสามารถพิมพ์ลายมือหรือลวดลายสวย ๆ ผ่านคอมพิวเตอร์ได้เลย
ทั้ง ๆ ที่ปัจจุบัน เราสามารถพิมพ์ลายมือหรือลวดลายสวย ๆ ผ่านคอมพิวเตอร์ได้เลย
เรื่องนี้เป็นเพราะในมุมมองของแบรนด์หรู การมอบการ์ดเชิญให้กับลูกค้าคนสำคัญ
ผ่านการเขียนด้วยมือที่บรรจง สามารถแสดงถึงความประณีต ความใส่ใจ และเพิ่มความประทับใจให้กับแขกได้มากกว่า
ผ่านการเขียนด้วยมือที่บรรจง สามารถแสดงถึงความประณีต ความใส่ใจ และเพิ่มความประทับใจให้กับแขกได้มากกว่า
ซึ่งนอกจากในธุรกิจแบรนด์หรูแล้ว
แม้แต่ White House หรือทำเนียบขาวของสหรัฐอเมริกา ก็ให้ความสนใจกับงานเขียนเหล่านี้ด้วยเช่นกัน
แม้แต่ White House หรือทำเนียบขาวของสหรัฐอเมริกา ก็ให้ความสนใจกับงานเขียนเหล่านี้ด้วยเช่นกัน
โดยมีตำแหน่ง Calligrapher สำหรับงานเขียนในทำเนียบขาวโดยเฉพาะ
ที่รับหน้าที่เขียนการ์ดเรียนเชิญ, คำทักทาย, คำแถลงการณ์, ใบประกาศรางวัลต่าง ๆ, เมนูอาหาร
ไปจนกระทั่งรายละเอียดเล็ก ๆ อย่างป้ายสวนผักในทำเนียบขาว
ที่รับหน้าที่เขียนการ์ดเรียนเชิญ, คำทักทาย, คำแถลงการณ์, ใบประกาศรางวัลต่าง ๆ, เมนูอาหาร
ไปจนกระทั่งรายละเอียดเล็ก ๆ อย่างป้ายสวนผักในทำเนียบขาว
ซึ่งศิลปินเหล่านี้ก็ได้รับความสำคัญไม่น้อย เนื่องจากรัฐบาลต้องจ่ายเงินไปกว่า 8 ล้านบาทต่อปี สำหรับการเขียนที่สวยงามเหล่านี้
และศิลปะการเขียนที่สวยงามแบบนี้ ไม่ใช่ว่าใครก็สามารถเป็นได้
แต่ต้องผ่านการฝึกฝน และมีความเชี่ยวชาญเฉพาะตัว
แต่ต้องผ่านการฝึกฝน และมีความเชี่ยวชาญเฉพาะตัว
ที่สำคัญยังต้องเป็นหนึ่งในไม่กี่คน ที่ได้รู้ถึงกำหนดการสำคัญต่าง ๆ ทั้งหมดของประธานาธิบดี และผู้นำระดับโลกด้วย
เรามาดูตัวอย่างของคนที่ประสบความสำเร็จในอาชีพการออกแบบอักษรนี้บ้าง
เริ่มจากคุณ Patricia Blair ที่ทำตำแหน่ง Chief Calligrapher หรือหัวหน้านักออกแบบอักษรของทำเนียบขาว มานานหลายปี ปัจจุบันมีรายได้มากกว่า 3.4 ล้านบาทต่อปี
และอีกหนึ่ง Calligrapher ที่น่าสนใจ ก็คือ คุณ Marilyn Chew
สาวชาวสิงคโปร์ ที่หลงใหลในการเขียน และอยากทำเป็นอาชีพอย่างจริงจัง
สาวชาวสิงคโปร์ ที่หลงใหลในการเขียน และอยากทำเป็นอาชีพอย่างจริงจัง
จนในปี 2016 คุณ Chew ก็ได้เปิดบริษัทเป็นของตัวเอง ในชื่อ Eterate
ที่รับเขียนงาน Calligraphy, จัดเวิร์กช็อป และขายสินค้าสำหรับงานพวกนี้โดยเฉพาะ
ที่รับเขียนงาน Calligraphy, จัดเวิร์กช็อป และขายสินค้าสำหรับงานพวกนี้โดยเฉพาะ
และถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยบริษัทของเธอติดอยู่ใน 6 อันดับ
ในการเขียนลายเส้น “การ์ดเชิญแต่งงาน” ที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในประเทศสิงคโปร์
ในการเขียนลายเส้น “การ์ดเชิญแต่งงาน” ที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในประเทศสิงคโปร์
และในปี 2020 ที่ผ่านมา คุณ Chew ยังถูกจัดอันดับอยู่ใน “Forbes 30 Under 30 Asia” อีกด้วย
โดยเธอมีผลงานร่วมกับแบรนด์ดัง ๆ หลายแบรนด์
อย่างแบรนด์เครื่องสำอาง SK-II, Bulgari และ Montblanc
โดยเธอมีผลงานร่วมกับแบรนด์ดัง ๆ หลายแบรนด์
อย่างแบรนด์เครื่องสำอาง SK-II, Bulgari และ Montblanc
ซึ่งประเทศไทยเองก็มีศิลปิน Calligraphy ด้วยเช่นกัน
อย่างคุณอั้ม-สรวิศ ประคอง หรือในนามปากกา “Sorravis P.” ที่มีสไตล์การเขียนลายเส้นแบบไทยประยุกต์ที่โดดเด่น
โดยเรามักจะได้เห็นผลงานของเขาตามนิตยสาร หรืองานสตรีตอาร์ตบนตึกต่าง ๆ
อย่างคุณอั้ม-สรวิศ ประคอง หรือในนามปากกา “Sorravis P.” ที่มีสไตล์การเขียนลายเส้นแบบไทยประยุกต์ที่โดดเด่น
โดยเรามักจะได้เห็นผลงานของเขาตามนิตยสาร หรืองานสตรีตอาร์ตบนตึกต่าง ๆ
อ่านมาถึงตรงนี้เรื่องราวของผู้คนในวงการ Calligraphy
ก็ทำให้เราเห็นถึงความสำคัญของทุกอาชีพ
ก็ทำให้เราเห็นถึงความสำคัญของทุกอาชีพ
ที่บางคนอาจจะคิดว่างานเขียนตัวอักษรไม่น่าจะสร้างรายได้ที่มั่นคงได้
แต่มันก็ยังมีบางกลุ่มที่เห็นเป็นงานฝีมือที่มีคุณค่า และต้องการผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
แต่มันก็ยังมีบางกลุ่มที่เห็นเป็นงานฝีมือที่มีคุณค่า และต้องการผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
ดังนั้นลองพยายามหาคนที่ให้คุณค่ากับงานของคุณให้เจอ และไม่แน่ว่ามันอาจจะเป็นอาชีพที่ทำเงินหลักล้านในอนาคตก็ได้