Monde Nissin บริษัทบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป การ IPO ที่ใหญ่สุดในฟิลิปปินส์ /โดย ลงทุนเกิร์ล

ล่าสุดประเทศฟิลิปปินส์กำลังจะสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ 
และผู้ที่ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นบริษัทบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปธรรมดา ๆ

ซึ่งถ้าถามถึงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของไทย เราคงนึกถึง “มาม่า”
ส่วนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของเกาหลี ก็อาจจะเป็น “นงชิม”
และถ้าเป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของญี่ปุ่น ก็ต้องเป็น “นิสชิน”

เรียกได้ว่าแต่ละประเทศ จะมีแบรนด์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นของตัวเอง
โดยสำหรับประเทศฟิลิปปินส์ ก็มีแบรนด์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของตัวเองเช่นกัน
ชื่อ Lucky Me! ซึ่งเป็นไอคอนิกโปรดักต์ของบริษัท Monde Nissin

และ Monde Nissin ก็คือผู้สร้างประวัติศาสตร์ครั้งนี้
ด้วยการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ 
รวมทั้งกำลังจะ IPO ซึ่งคาดว่าจะระดมเงินสูงถึง 40,495 ล้านบาท

ซึ่งถ้าสำเร็จ ก็จะทำให้เหตุการณ์นี้ กลายเป็นการ IPO ที่ใหญ่สุดของฟิลิปปินส์เลยทีเดียว

เรื่องนี้น่าสนใจอย่างไร ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง

แรกเริ่มเดิมทีบริษัท Monde Denmark Nissin Biscuit Corporation
ก่อตั้งโดยคุณ Hidajat Darmono ได้เปิดตัวสินค้าขนม 2 ชนิดคือ ขนมบิสกิตและเวเฟอร์

10 ปีให้หลังในช่วงปี 1989 บริษัทก็หันมารุกตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในชื่อแบรนด์ Lucky Me!
และเป็นบริษัทแรกที่เริ่มทำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบแห้ง มาจำหน่ายในประเทศฟิลิปปินส์ 

จนในปี 2001 บริษัท Monde Denmark Nissin Biscuit Corporation 
ก็ถูกเข้าซื้อโดยบริษัท Monde Nissin ซึ่งก่อตั้งโดยคุณ Betty Ang

หลังจากนั้น บริษัท Monde Nissin ก็เริ่มขยับขยายธุรกิจ
ผ่านการเข้าซื้อและร่วมมือกับแบรนด์ต่าง ๆ จากหลายประเทศ

เช่น การเข้าซื้อกิจการแบรนด์ Menora Foods 
ซึ่งเป็นแบรนด์ขนมแครกเกอร์จากประเทศออสเตรเลีย
หรือการเข้าซื้อ Quorn แบรนด์เนื้อวีแกนของประเทศอังกฤษ 

นอกจากนี้ ยังมีการนำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป Lucky Me! และขนมคุกกี้แซนด์วิชยี่ห้อ Bingo 
ไปร่วมมือกับ Uniqlo เพื่อออกแบบเป็นคอลเลกชันเสื้อผ้า

สำหรับประเทศไทยเอง Monde Nissin ก็ได้มีการตั้งฐานการผลิตที่จังหวัดชลบุรี
รวมถึงได้ร่วมมือกับบริษัทนมชื่อดังอย่างดัชมิลล์ นำเอาเครื่องดื่มโยเกิร์ตเข้าไปจัดจำหน่ายในฟิลิปปินส์

แล้วสินค้าฮีโรของบริษัทอย่างบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป Lucky Me! ขายดีแค่ไหน ?

ในปี 2014 Lucky Me! กลายเป็นแบรนด์ ซึ่งเป็นที่รู้จักมากที่สุด
รวมทั้งยังเป็นแบรนด์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ขายดีที่สุดในประเทศฟิลิปปินส์อีกด้วย

และในปี 2020 Lucky Me! ก็เป็นแบรนด์ที่มีดัชนี CRP หรือ Consumer Reach Point 
ซึ่งแสดงถึงอัตราการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าสูงที่สุดในประเทศฟิลิปปินส์

โดยมีความถี่ในการซื้อเฉลี่ยอยู่ที่ 35 ครั้งต่อปี 
นั่นหมายความว่าคนฟิลิปปินส์มีแนวโน้มจะซื้อ Lucky Me! 3 ครั้งในทุก ๆ เดือนเลยทีเดียว

เรียกได้ว่า Lucky Me! ถือเป็นแบรนด์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
ที่เป็นอันดับหนึ่งในฟิลิปปินส์ มาตลอดหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมา

เมื่อเรื่องนี้ประกอบกับยอดขายสินค้าอื่น ๆ 
ทำให้ในปี 2020 บริษัท Monde Nissin สามารถทำรายได้ทั้งหมด 43,904 ล้านบาท
จากการส่งสินค้าไปยังประเทศต่าง ๆ อีกกว่า 50 ประเทศทั่วโลก

แล้วการ IPO ในครั้งนี้ บริษัท Monde Nissin มีจุดมุ่งหมายอย่างไร ?

บริษัท Monde Nissin วางแผนจะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นนี้ 
มาเพิ่มสายการผลิต โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เป็นเนื้อจากพืช
ซึ่งเป็นหนึ่งในเทรนด์ที่เริ่มได้รับความสนใจ เนื่องจากปัญหาโลกร้อน
และเทรนด์การทานอาหารมังสวิรัติที่กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในปัจจุบัน

โดยสำหรับการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ Monde Nissin ตั้งเป้าการระดมทุนไว้ที่ 40,495 ล้านบาท
ซึ่งนับว่าเป็นการเสนอขายหุ้นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศฟิลิปปินส์ 

และถ้าสำเร็จก็จะส่งผลให้บริษัท Monde Nissin มีมูลค่ากว่า 200,000 ล้านบาททันที 

ซึ่งผลจากเรื่องนี้ก็ทำให้เจ้าของธุรกิจอย่างคุณ Betty Ang ในวัย 66 ปี
ไต่ขึ้นจากมหาเศรษฐีฟิลิปปินส์อันดับที่ 38 มาอยู่ที่อันดับ 17 
ด้วยมูลค่าทรัพย์สินอยู่ที่ 34,516 ล้านบาท.. 

References:
-https://www.forbes.com/…/philippines-biggest-ipo-could-ca…/…
-https://mondenissin.com/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Monde_Nissin
-https://www.blockdit.com/posts/6066e9d6463df7041d5b6830
-https://www.kantarworldpanel.com/…/c…/worldpanel/Philippines
-https://baguiocityguide.com/who-are-the-top-50-richest-ind…/