รู้จัก คุณซันเต๋อ ผู้เปลี่ยน “สิ่งที่รัก” ให้กลายเป็น “งานที่รัก”
LifestyleInspiration

รู้จัก คุณซันเต๋อ ผู้เปลี่ยน “สิ่งที่รัก” ให้กลายเป็น “งานที่รัก”

1 ม.ค. 2021
รู้จัก คุณซันเต๋อ ผู้เปลี่ยน “สิ่งที่รัก” ให้กลายเป็น “งานที่รัก” /โดย ลงทุนเกิร์ล
ตอนเด็กๆ เวลาโดนถามว่า “โตขึ้นอยากเป็นอะไร?”
คำตอบของเด็กส่วนใหญ่ก็มักจะวนเวียนอยู่ที่ หมอ ครู หรือ อาจจะเป็นตำรวจ 
นั่นก็เป็นเพราะ ในวัยนั้นเรายังไม่รู้ว่าอาชีพอะไรที่จะสามารถทำเงินได้บ้าง
สำหรับ “การวาดรูป” ซึ่งเป็นสิ่งที่เด็กๆ หลายคนต่างชื่นชอบ 
ไม่มีการปลูกฝังว่า สิ่งนี้ สามารถนำมาประกอบอาชีพได้ 
หรือแม้กระทั่งในปัจจุบัน ก็ยังมีผู้ใหญ่อีกหลายคนที่มองว่า ศิลปิน เป็นอาชีพที่ทำเงินยาก 
อย่างไรก็ตาม คุณซันเต๋อ หรือคุณยศนันท์ วุฒิกรสมบัติกุล เจ้าของนิทรรศการ “A Little Letter From Someone Somewhere” ที่มีคนมาร่วมงานหลายหมื่นคน
กลับกล่าวเอาไว้ว่า “ไม่ว่าเราจะเก่งในด้านไหน ก็สามารถต่อยอดเป็นอาชีพได้”
วันนี้ลงทุนเกิร์ลจะพามาทำความรู้จักคุณซันเต๋อ
คนที่ทำให้เรามองศิลปะให้เป็นอาชีพได้ชัดเจนยิ่งขึ้นค่ะ
หลายคนก็คงรู้จักชื่อของคุณซันเต๋อกันดี 
แต่ถึงไม่รู้จักก็น่าจะมีโอกาสเห็นผลงานของเขาผ่านตากันมาบ้าง
เพราะเขาคือศิลปินผู้อยู่เบื้องหลังภาพประกอบของหลายแบรนด์ดัง 
อย่างเช่น Central Group, Sizzler หรือ GREYHOUND
รวมถึงยังเป็นเจ้าของผลงานภาพเพนต์สไตล์มินิมัล ที่มีคนตัวจิ๋วอยู่ท่ามกลางบรรยากาศอันกว้างใหญ่ไพศาล
ย้อนกลับไปตอนคุณซันเต๋อยังเด็ก เขาก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ชอบวาดรูป
และรู้ว่าตัวเองวาดรูปได้ดี เพราะมักจะได้รางวัลติดไม้ติดมือมาจากการประกวดอยู่เสมอ
แต่ในตอนนั้นเขาก็ยังไม่รู้ว่า สิ่งนี้จะสามารถนำมาประกอบอาชีพได้ 
เขาจึงหันไปให้ความสนใจกับงานสายโฆษณาแทน 
โดยเลือกศึกษาต่อที่ภาควิชาออกแบบนิเทศศิลป์ คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
ซึ่งก็โชคดีว่า ไม่ว่าเขาจะเลือกเส้นทางไหน 
ครอบครัวของคุณซันเต๋อก็สนับสนุนเต็มที่ในทางที่เขาชอบ
และคุณซันเต๋อก็ทำมันได้ดีเสียด้วย 
โดยเขาได้งานเป็นครีเอทีฟโฆษณา ตั้งแต่ยังเรียนไม่จบเลยด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตามขณะนั้นเองก็เป็นช่วงที่แพลตฟอร์ม Instagram เริ่มเป็นที่นิยม
ทำให้เขาได้กลับมามีโอกาสวาดรูปอีกครั้ง 
คุณซันเต๋อเป็นศิลปินคนแรกๆ เลยก็ว่าได้ ที่โพสต์ผลงานรูปวาดลงในบัญชีส่วนตัว 
ซึ่งช่องทางนี้เองที่ทำให้คนเห็นผลงาน และเริ่มมีการติดต่องานวาดภาพประกอบ
และทำให้เขาเริ่มมองเห็นช่องทางการทำรายได้จากภาพวาดของเขา
เรื่องนี้ยังทำให้คุณซันเต๋อไม่อยากหยุดงานศิลปะของเขาไว้เป็นเพียงแค่งานอดิเรก..
ดังนั้นหลังจากที่คุณซันเต๋อใช้เวลากว่า 5 ปีในวงการโฆษณา 
เขาก็ตัดสินใจลาออกจากงานประจำที่ทำอยู่ และออกเดินทางไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา 
โดยใช้เวลาที่นั่นกว่า 2 ปี เพื่อหาประสบการณ์
ระหว่างนั้น คุณซันเต๋อก็ยังคงรับจ้างวาดรูปให้กับลูกค้าตลอด 
ซึ่งบางครั้งก็ทำให้เขาไม่สามารถดึงความเป็นตัวเองออกมาได้มากนัก
เพราะมีขอบเขตตามความต้องการของลูกค้าที่กำหนดมาให้อยู่
แต่การไปเปิดมุมมองใหม่ๆ ที่สหรัฐอเมริกา 
ก็ทำให้คุณซันเต๋อได้เห็นศิลปินชื่อดังหลายคน 
ที่สามารถทำเงินจากผลงานของตัวเองได้เลย โดยไม่ต้องอาศัยลูกค้าที่มาจ้าง
เรื่องนี้ส่วนหนึ่งก็ทำให้เกิด Suntur Store 
ซึ่งขายสินค้าที่มีลวดลายเป็นผลงานภาพวาดของคุณซันเต๋อ
รวมถึงยังเป็นจุดเริ่มต้นการพัฒนางานชิ้นต่อๆ มา
โดยล่าสุดหลังจากที่สั่งสมประสบการณ์มาในระดับหนึ่ง 
จึงเป็นงานนิทรรศการเดี่ยวที่มีชื่อว่า “A Little Letter From Someone Somewhere” 
ซึ่งก็เรียกได้ว่า ประสบความสำเร็จอย่างมาก 
มีผู้ร่วมงานเกือบถึง 40,000 คนภายในระยะเวลาเพียง 1 เดือน
และที่สำคัญตลอดการจัดนิทรรศการในครั้งนี้ 
ผลงานศิลปะของคุณซันเต๋อ ยังสามารถขายได้เกือบทั้งหมด 
เหลืออยู่เพียงชิ้นเดียวเท่านั้น
ซึ่งนิทรรศการนี้นอกจากจากจะได้ชมงานเพนต์ที่เก็บรวบรวมกว่า 2 ปี 
เรายังได้ฟังเพลงจากศิลปินชื่อดัง 26 ท่านมาร้องเพลงประกอบให้กับรูปอีกด้วย
แล้วทำไมคุณซันเต๋อถึงต้องทำเพลงมาประกอบกับงานศิลปะ? 
ปกติแล้วเวลาคนเข้าไปเสพงานนิทรรศการมักจะใช้เวลาไม่นาน อาจจะเดินวนรอบเดียวแล้วก็ออกจากงานไปเลย 
คุณซันเต๋อจึงนำ “เสียงเพลง” เป็นตัวดึงดูดให้คนดูผลงานได้นานยิ่งขึ้น 
เพราะเสียงเพลงช่วยให้คนได้ใช้ความคิด และมีความรู้สึกร่วมกับรูปภาพ 
ไอเดียนี้เกิดขึ้นจากนิสัยส่วนตัว ที่คุณซันเต๋อมักจะฟังเพลงระหว่างวาดภาพไปด้วย 
เพราะทำให้เขารู้สึกว่า การเปิดเพลงช่วยให้สามารถใช้เวลากับศิลปะได้มากขึ้น 
ซึ่งจากผลตอบรับของคนที่มาเข้าร่วม ก็ถือได้ว่ามาถูกทาง
เพราะมีคนที่มาชมงานส่วนใหญ่ รู้สึกอินจนเสียน้ำตาไปหลายคน
นอกจากนั้นภายในงาน ยังมีกิจกรรม “ส่งจดหมายหาตัวเองในอีก 10 ปีข้างหน้า”
และก็มีผู้ที่สนใจเป็นจำนวนมาก ทำให้จดหมายทำยอดไปถึง 50,000 ฉบับ
ซึ่งคุณซันเต๋อก็บอกว่า ความสำเร็จของนิทรรศการครั้งนี้
เป็นเรื่องที่เกินความคาดหมายเอาไว้มากจริงๆ
แล้วอะไรเป็นเคล็ดลับของคุณซันเต๋อ ที่ทำให้ประสบความสำเร็จได้ถึงจุดนี้?
ข้อแรก การประยุกต์ผลงานให้ “เข้าถึงผู้ชม” 
คนส่วนใหญ่มักมีมุมมองว่างานศิลปะเป็นเรื่องที่เข้าถึงยาก 
ซึ่งคุณซันเต๋อ ก็มีการนำประสบการณ์จากที่เคยทำงานด้านครีเอทีฟโฆษณา
มาใช้หาวิธีการนำเสนอผลงานในรูปแบบใหม่ๆ 
อย่างเช่น การวางแผน ประชาสัมพันธ์ รวมถึงการสร้างคอนเทนต์
ข้อสอง “บาลานซ์” การใช้ชีวิตกับงานให้เท่ากัน
แม้ว่าการกดดัน จะช่วยในการพัฒนางาน
แต่ถ้าเรากดดันมากเกินไป ก็อาจจะทำให้รู้สึกท้อขึ้นได้ 
ดั้งนั้นเมื่อเรารู้สึกเหนื่อยจากการทำงาน ก็ควรให้เวลาพักกับตัวเองบ้าง
และเมื่อไรที่รู้สึกชาร์จพลังเต็มแล้ว เราค่อยกลับมาทำงานต่อ
ข้อสุดท้าย “อย่ายอมแพ้”
กว่าคุณซันเต๋อจะประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้..ก็ใช้เวลากว่า 10 ปี 
จึงอยากให้ศิลปินรุ่นใหม่อย่าเพิ่งยอมแพ้ พยายามพัฒนางานของตัวเองต่อไปเรื่อยๆ 
ถ้าเราตั้งใจทำทุกงานให้ดี สักวันจะมีคนเห็นในสิ่งที่เราตั้งใจเอง
สุดท้ายนี้ลงทุนเกิร์ล ก็หวังว่าเรื่องราวของคุณซันเต๋อ
จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับใครหลายๆ คน
ในการค้นหาสิ่งที่ตัวเองรัก และทำให้สิ่งนั้นกลายเป็นงานที่เรารักได้นะคะ
Reference:
-สัมภาษณ์โดยตรงกับคุณซันเต๋อ-ยศนันท์ วุฒิกรสมบัติกุล
© 2025 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.